สำนักฯ แจงปมเบี้ยวค่าจ้างช้าง 6 แสน เผยเพียงเจ้าภาพสถานที่เท่านั้น ต้องรอลูกศิษย์ ยันไม่โกง

วันนี้ (2 ธ.ค.67) จากกรณี “เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์” ได้แชร์คลิปดรามาหลังจากที่มีกระแสควาญช้างนำช้าง 33 เชือกไปรับงาน แล้วไม่ได้ค่าจ้างเป็นเงิน 6 แสนบาท ซึ่งได้โพสต์ข้อความระบุไปว่า “พี่น้องกลุ่มช้างขอความช่วยเหลือจากเพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์ให้ช่วยแชร์ พี่น้องกลุ่มช้างขอความช่วยเหลือจากเพจข่าวท้องถิ่นจากเพชรบูรณ์ ให้ช่วยเผยแพร่”

หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ลงเพจข่าว และอีกหลายแพลตฟอร์มรวมไปถึงต้นฉบับจากช่องYoutube แฟมิลี่ ศรีทัพไทย คอมเมนต์ชาวโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนระอุ จากคลิปดังกล่าวเห็นว่าเจ้าของYoutube ช่อง แฟมิลี่ ศรีทัพไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าควาญช้างผู้ติดต่อรับงานให้ไปรับงาน “งานวัฒนธรรมกวนอูนานาชาติ” ศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 67 ต่างนำทีมควาญช้างที่ไปแสดงในวันนั้นออกมาไลฟ์สดเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากที่ได้ค่าจ้างไม่ครบตามที่ตกลง จากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสไวรัล คนที่เห็นคลิปต่างเกิดความเห็นใจควาญช้างและคอมเมนต์สนั่น บ้างก็แนะนำให้ไปแจ้งความ บ้างก็ให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

หลังจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาทางด้านเจ้าของช่อง Youtube “แฟมิลี่ ศรีทับไทย” เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายนิรุต อายุ 41 ปี “ควาญช้างที่ติดต่อรับงาน” หรือเจ้าของช่อง Youtube แฟมิลี่ ศรีทับไทย ผู้ลงคลิป ได้เล่า ถึงข้อเท็จจริงให้ทางผู้สื่อข่าวฟังและกำลังรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สัมภาษณ์นายนิรุต อายุ 41 ปี (หัวหน้าควาญช้างคนที่รับงาน) เล่าว่า ที่ตนและกลุ่มควาญช้างไลฟ์สดขอความเป็นธรรมโดนเบี้ยวค้าจ้างก็เพราะว่า เมื่อเดือนตุลาคม2567 ที่ผ่านมา มีคนติดต่อมาทางเบอร์โทรศัพท์ และได้พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับการรับงานแสดงช้าง โดยให้ไปทำการแห่งานวัฒนธรรมศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 31 ตุลาคม -1 พฤศจิกายน 67 โดยขบวนแห่วันที่ 31 ตุลาคม แห่จากศาลเจ้าพ่อกวนอูไปศาลหลักเมือง และวันที่ 1 พฤศจิกายน แห่ตักบาตรบนหลังช้าง ต่อมาเวลา 12.00 น. หลังจากที่งานได้เสร็จสิ้น

ตนจึงได้ติดต่อเข้าไปหาคนที่ว่าจ้างเพื่อจะขอเบิกเงินค่าจ้าง กลับได้คำตอบมาว่า ตอนนี้ยังไม่สะดวกโอน จนจึงตอบไปว่า “ยังไงก็คงต้องขอเบิกก่อน” คนจ้างจึงตอบมาว่าถ้ายังงั้นขอโอนให้ก่อน 10,000บาท แล้วกัน ที่เหลือเสร็จงานก็จะโอนให้ ตนจึงบอกไปว่ายังไงก็แล้วแต่ต้องโอนให้พวกผมนะพี่ เพราะไม่มีค่ารถ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับสุรินทร์ ตนจึงไปบอกในกลุ่มควาญช้างว่า “ได้เงินแน่นอนเดี๋ยวเสร็จงานเขาจะโอนเงินให้พวกเรา” และกลุ่มตนก็พากันเดินทางกลับสุรินทร์ ระหว่างเดินทางกลับตนก็ยังพูดคุยสอบถามกับทางคนจ้างเป็นระยะแต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา และเขาก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ผลัดวันประกันพรุ่ง

ตอนนี้จำนวนเงินที่ได้มาจากคนจ้างประมาณ 270,000 บาท ซึ่งยอดทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 8 แสนกว่าบาท และตอนนี้ค้างอยู่ประมาณ หกแสนบาท ซึ่งจำนวนเงินที่ได้มา ตนก็นำไปจ่ายกลุ่มควาญช้างที่ไปรับงานด้วยกัน หักค่าใช้จ่ายแล้วแทบจะไม่เหลือ แถมยังต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าเดินทางกลับ เพราะค่ารถบรรทุกช้างไปแสดงตกไปคันละเป็นหมื่น แต่นี่ช้าง 33 เชือก

ตอนนี้ตนรู้สึกเครียดและกดดันไปหมด กลัวเพื่อนควาญช้างด้วยกันที่ไปรับงานมองไม่ดีว่าตนกินเงิน เครียดถึงขั้นเป็นไมเกรนเข้าโรงพยาบาล และอยากวิงวอนให้เจ้าของงานรีบนำเงินมาจ่ายจะได้นำเงินไปให้กับกลุ่มควาญช้างที่ไปรับงานด้วยกัน ถึงอย่างไรตอนนี้ตนได้เข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 จากกรณี เพจ เพื่อนคนรักช้าง ได้โพสต์ข้อความ “ชาวช้างแห่งาน รับงานระวังด้วย “ พร้อมทั้งข้อความ คนใหญ่คนโตในเมืองเพชรบูรณ์ จ้างช้างไม่จ่ายตังค์ จ้างช้าง 30 กว่าเชือกเงินไม่จ่าย “จากนั้นก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นชิงตำหนิการกระทำดังกล่าว เป็นจำนวนมาก ซึ่งศาลเจ้ากวนอู จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนประเทศไทย จัดงานวัฒนธรรมกวนกงนานาชาติ ประจำปี 2567 ขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567

โดยมีคณะตัวแทนผู้ศรัทธาเทพเจ้ากวนอู จาก 11 ประเทศ กว่า 200 คน อัญเชิญรูปเคารพองค์เทพเจ้ากวนอู เดินทางเข้าร่วมพิธี ประกอบด้วย จีน ไต้หวัน มาเก๊า ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ และฝรั่งเศส ซึ่งได้กำหนดจัดสักการะเทพเจ้ากวนอูประจำปี และการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม และ การแสดงนานาชาติ พิธีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์รับรอง โดยลำดับพิธีการสำคัญกำหนดจัดขึ้น

เพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคล 6 รอบพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่เมืองเพชรบูรณ์ และพิธีคชสารน้อมสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ โดยใช้ช้างแสนรู้ จำนวน 33 เชือก จาก จ.สุรินทร์ และ ได้มีผู้บริหาร บุคคลสำคัญ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมผู้นำคณะศรัทธากวนอู จาก 11 ประเทศ ร่วมกับ ชาวเพชรบูรณ์ ร่วมกิจกรรมที่ หน้าศาลหลักเมืองเพชรบูรณ์ โดยมีบุคคล ที่มีชื่อเสียงในจังหวัด จะได้รับโอกาสนั่งช้างร่วมขบวนแห่ โดยไม่มีเสียค่าใช้จ่าย

ล่าสุด นายศรัณยู ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้ นางสาวจรียา ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอหนองไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว แล้ว ณ ศาลเทพเจ้ากวนอู โรงเจ โรงบ่ม หมู่ที่ 3 ตำบลยางงาม อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับทราบข้อมูลว่า ทางศาลเทพเจ้ากวนอู โรงเจ โรงบ่ม ยังคงเหลือยอดค่าใช้จ่ายค่าช้าง ประมาณ 600,000 บาท

โดยทางฝ่าย ศาลเทพเจ้ากวนอู โรงเจ โรงบ่ม จะจ่ายส่วนที่เหลือ ประมาณวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 ทราบว่ากำลังทยอยจ่ายเพราะลูกศิษย์บางคนจองช้างไว้ แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน เพราะยังรวบรวมเงินส่วนที่เหลือยังไม่ครบ แต่ยืนยันว่ากำลังเร่งดำเนินการอยู่

เบื้องต้นทราบว่า ช้าง จาก จังหวัดสุรินทร์ ที่นำมาร่วมงานแห่เจ้าพ่อกวนอู มีจำนวน จำนวน 33 เชือก โดยมีค่าจ้างทั้งหมด 870,000 บาท ซึ่งทางนางบุษบา ประธานศาลเจ้าฯ ผู้จ้าง ได้จ่ายค่าจ้างมาแล้ว 270,000 บาท โดยคงเหลือยังไม่จ่ายอีก 600,000 บาท โดยนางบุษบาฯ แจ้งว่าจะมีการจ่ายส่วนที่เหลืออีกภายใน 2-3 วันนี้

จากการสอบถาม นายสนั่น (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในคณะดูแล ศาลเจ้า กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ส่วนหัวหน้าสำนักปฏิบัติธรรมชื่อ คุณบุษบาหรือ เจ๊แมว ซึ่งตอนนี้ไม่อยู่ไปติดตามเรื่องเงิน ที่ตกค้างอยู่ ซึ่งยังไม่ทราบว่ายังตกค้างอยู่อีกเท่าไหร่แน่ ตนทราบเพียงว่าตอนแรกมีการจ่ายเงินมัดจำไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตนเองไม่ได้ไปด้วย จากนั้นก็มีการการจ่ายตลอด ทั้งอาหารช้าง อาหารคน เราก็ดูแลตลอด ซึ่งคณะเขาก็มาเป็น 100 คน

แต่ยังไม่สามารถจ่ายเป็นเงินก้อนเดียวได้ ซึ่งในส่วนนี้ลูกศิษย์ที่ได้รับเป็นเจ้าภาพเขายังมาไม่พร้อมก็เลยติดขัด ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางสำนัก ซึ่งทางสำนักเป็นเพียงเจ้าภาพสถานที่เท่านั้น ซึ่งหลายๆ ประเทศ ได้มาร่วมจัดงานที่นี่ แต่เรื่องการจ่ายค่าแรงช้าง ทางเราก็จะรับผิดชอบ แต่ตอนนี้รอลูกศิษย์ ซึ่งทางเราไม่โกงแต่ขอให้รอสักนิด เพราะเรื่องเงินลูกศิษย์เขาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายคน ส่วนยอดเงินที่ยังคงค้างชำระอยู่ ทราบว่าประมาณ 600,000 บาท