เปิดจดหมาย ‘แม่สามารถ’ ยัดใส่มือนักข่าวช่อง 3 หลังได้ประกัน ดูดวงลูกชาย ยังไงก็รอด

ดีเอสไอนำตัว “สามารถ-แม่“ ฝากขังศาลอาญา คัดค้านประกันตัว พบพฤติการณ์ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน แม่ตะโกนขอความเป็นธรรม ยัดกระดาษใส่มือนักข่าว อ้างถูกกลั่นแกล้ง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวธุรกิจดิไอคอน-จะสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่-ถ้าต้องโทษจนตายประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม ขณะที่ ’สามารถ‘ ลั่น ”ผมอยากพูดแต่พูดไม่ได้”

จากกรณีที่ศาลอาญาได้พิจารณาตามคำร้องของสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อนุมัติออกหมายจับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชรัฐ (พปชร.) และนางวิลาวัลย์ มารดา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โยงรับโอนเงินจากบอสดิไอคอน

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า จากการสอบสวนนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ ให้การปฏิเสธ โดยจะขอให้การเป็นเอกสารภายใน 15 วัน โดยผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน แต่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจากพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นในบ้านพัก ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกันกับบุคคลอื่นในการจัดทำเอกสารไม่สุจริตอันมีลักษณะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงมีมติไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว  

ต่อมาเวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ลงมาจากอาคารดีเอสไอเพื่อส่งศาลอาญาฝากขัง เจ้าตัวยังอยู่ในชุดสีเหลือง ทันทีที่ออกมาเจอสื่อมวลชนนางวิลาวัลย์ ตะโกนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “พูดได้มั้ยๆ เรื่องตั้งแต่ ปี 64 ไม่ได้รับความเป็นธรรมนะคะ ขอฝากเอกสารไปลงข่าวให้หน่อย”

ระหว่างเจ้าหน้าที่ดีเอสไอควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ แม่ของนายสามารถ ออกจากดีเอสไอ พบว่าที่ข้อมือมีผ้าพันไว้ (คาดว่าใส่กุญแจมือ) และในมือถือกระดาษบางอย่างพับและซ่อนไว้ในผ้าถือติดมือลงมาด้วย /โดยนักข่าวพยายามสอบถามเรื่องการรับโอนเงิน จากบอสดิไอคอน และเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 100 ล้านบาท แต่นางวิลาวัลย์ ได้ยัดกระดาษดังกล่าวใส่มือผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ แล้วตะโกนว่า “ขอความเป็นธรรมนะคะ ไม่ได้ผิดอะไรเลย“

โดยข้อความภายในกระดาษ ระบุเป็นข้อๆ ทั้งหมด 8 ข้อ เขียนด้วยปากกาลายมือของนางวิลาวัลย์ ว่า

1.เรื่องเกิดปี 2564 ตอนนั้นดิไอคอน กรุ๊ป ยังไม่มีปัญหาทางธุรกิจ เงินที่ได้มาทำบุญกับกู้ยืม พอลก็ได้เซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ได้ทำหนังสือออกมาให้แล้ว

2.ใครคือผู้เสียหาย

3.จะฟอกเงินได้อย่างไร

4.ไม่ได้รับความเป็นธรรมโดนกลั่นแกล้ง

5.ไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจดิไอคอนเพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว

6.จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้อย่างไร

7.จะขอต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจนกว่าชีวิตจะหาไม่

8.ถ้าต้องโทษจนถึงตายก็ถือว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม

หลังจากยื่นกระดาษให้กับผู้สื่อข่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ ขึ้นรถเพื่อส่งศาลอาญารัชดาฝากขัง ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามประเด็นอื่น แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรีบนำตรวจนางวิลาวัลย์ ขึ้นรถ ทำให้ไม่มีโอกาสได้พูดหรือชี้แจงอะไรกับสื่อมวลชน

สำหรับกระดาษที่นางวิลาวัลย์ ยื่นให้นักข่าว อีกหน้าหนึ่งของกระดาษเป็นเอกสาร “บันทึกแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราว” ซึ่งเนื้อหาในเอกสารบางช่วงระบุว่า ตามที่นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหากรณีกลุ่มผู้บริหาร และเครือข่ายของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีพฤติกรรมกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ได้ยื่นคำร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน เสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมประชุมพิจารณาและมีมติ ไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา รายนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงขอแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ทราบ 

โดยมีลายเซ็นของร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และลายเซ็นของนางวิลาวัลย์ เซ็นรับทราบคำสั่ง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.56 น.

ก่อนที่เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัวนายสามารถ ออกมา เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะพูดกับสื่อมวลชนหรือไม่ พูดอะไรหน่อยมั้ย นายสามารถ ตะโกนออกมาบอกว่า “ผมอยากพูดแต่พูดไม่ได้ พูดไม่ได้พี่” นักข่าวถามต่อว่าทำไมถึงพูดไม่ได้ แต่นายสามารถไม่ได้ตอบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมขึ้นรถนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา พร้อมกับแม่

ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอคุมตัวนายสามารถและนางวิลาวัลย์ ส่งศาลอาญารัชดาฝากขังเสร็จแล้ว ได้เดินทางกลับมาที่อาคารดีเอสไอ ถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนจะเดินมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นเอกสารอะไร และบอกว่าถูกนายตำหนิsละหลวม ไม่ตรวจสอบผู้ต้องหาให้ดีๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่าตอนที่นำตัวลงมาจากอาคารก็ตรวจสอบดีแล้ว ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาแอบซ่อนมาได้อย่างไร

พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีที่นางวิลาวัลย์ มีการยื่นเอกสารบางอย่างโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอความเป็นธรรมให้กับนักข่าว ว่าตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะตนไปประชุมข้างนอก ซึ่งตนจะไปสอบถามจากรายงานข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าตามหลักการพาผู้ต้องไปส่งฝากขังศาล อย่างกรณีนี้มีการนำจดหมายให้กับสื่อมวลชน ตามหลักระเบียบขั้นตอนสามารถทำได้หรือไม่ โดย พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่ามีการยื่นจริงหรือไม่ อย่างไร  

ขณะที่ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษก DSI บอกว่า เอกสารดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่ามีคำสั่งแจ้งว่าไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อผู้ต้องหาได้เอกสารดังกล่าวไปแล้วก็จะต้องส่งให้ทนายความ แต่กรณีนี้ตนเองไม่ทราบถึงเจตนาของผู้ต้องหาที่ส่งให้นักข่าว เมื่อถามว่าเอกสารดังกล่าวจะมีผลอะไรหรือไม่ในการคุมตัวไปศาล โฆษกDSI บอกว่า ไม่ได้ส่งผลอะไร

------------------------------

เปิดใจ “แม่สามารถ” หลังได้ประกัน ยันเส้นเงิน 2.5 ล้านจาก “บอสพอล” เป็นการหยิบยืม-เงินทำบุญ ระบุ ยืมมาตั้งแต่ปี 64 แถมคืนไปหมดแล้ว งง ทำไมเพิ่งเป็นเรื่องตอนปี 67 – ส่วนเงิน 100 ล้าน ย้ำ ไม่มียอดนี้เข้าบัญชี แต่หมุนเวียนหลักร้อยล้านรวม 4 ปี อาจถึง แต่เป็นสิทธิบัญชีหมุนเวียนส่วนตัว – น้ำตาคลอ เล่านาที ลูกชาย ประกาศอดข้าวอดน้ำจนกว่าจะได้ประกัน – พร้อมเผยนาทีกอดคอร้องไห้หน้าบัลลังก์ ลูกชายถาม “แม่ ผมทำเพื่อประเทศไทย ทำไมโดน ผมทำผิดอะไร ทำไมต้องโดนกลั่นแกล้ง?” ก่อนไหว้ขอขมาผู้มีอำนาจ อโหสิกรรมให้ลูกชายด้วย เหตุเก่ง-แข็ง-และแรง เกินไป จนถูกตัดไม่ให้เป็นปากเสียงให้ ปชช. – ดูดวงลูก ฟันธงรอดคดีแน่ 100%

ช่วงค่ำวานนี้ 26 พฤศจิกายน ภายหลังศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิชในคดี ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

ทีมข่าวได้คุยนางวิลาวัลย์ แม่ของนายสามารถ โดยนางวิลาวัลย์ ได้ไล่เรียงจากประเด็นที่ส่งจดหมายจำนวนแปดข้อให้นักข่าวก่อนส่งศาลฝากขังว่า ส่งเอกสารให้นักข่าวเนื่องจากว่าต้องการความยุติธรรม  พร้อมอธิบายว่าในเมื่อตนได้รับเงินจากบอสพอเมื่อปี 2564 เหตุใดถึงมาเอาผิดในปี 2567 พร้อมแล้วว่าจริงอยู่ที่ตนเอาเงินบอสพอลมาจำนวน 2.5 ล้านบาท  แต่บางครั้งบางส่วนก็นำไปทำบุญ แต่บางส่วนยืมมาเนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่ง 2.5 ล้านบาทนี้ไม่ได้ให้มาครั้งเดียว ทยอยให้หลายครั้ง ครั้งละหลักแสนบาท หลักจากยืมมามีการทยอยคืนอย่างต่อเนื่อง โดยโอนเงินให้ลูกชายคือนายสามารถและให้ลูกโอนคืนบอสพอล ยืนยันคืนหมดแล้วทุกบาททุกสตางค์ และมีเอกสารหลักฐานซึ่งบอสพอลเซ็นรับเงินชัดเจน และไม่เอาเรื่องแม่ลูก โดยหลักฐานทั้งหมดนี้จะนำขึ้นต่อสู้ในชั้นศาล ในเมื่อแม่ลูกไม่ผิดอะไรจึงส่งจดหมายให้นักข่าวเพื่อขอความยุติธรรม

ส่วนประเด็นเงิน 100 ล้านที่โอนเข้าบัญชีคุณแม่ของนายสามารถ เจ้าตัว ระบุว่า เรื่องเงิน 100 ล้านนี้ ไม่เป็นความจริง ไม่มียอดเงินนี้เข้าในบัญชีอย่างแน่นอน คนเราต้องพูดกันบนความเป็นจริงและพยานหลักฐาน พร้อมอธิบายว่าเงินหมุนเวียน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2567 ตัวเองมีสิทธิส่วนตัวที่จะเอาเงินใครมาหมุนเวียนเข้าออกได้ เช่น เอาเงินนาย ก. มา 1 แสน เอาเข้ามาแล้วก็เอาออก นี่คือสิทธิส่วนตัว แต่ยอมรับว่าใน 4 ปี นี้เงินหมุนเวียนหลักร้อยล้านอาจจะถึง  และขอถามว่าตอนนี้ใครคือผู้เสียหาย คุณอย่าเอาเงินร้อยล้านมาเป็นประเด็น  ตอนนี้เรากำลังสู้กันด้วยคดีดิไอคอน เราควรโฟกัสประเด็นนี้ แต่คุณกลับเอาเรื่องเงิน 100 ล้านในบัญชีหมุนเวียนตัวฉันเองมาโยง มันไม่ถูกต้อง

เมื่อถามถึงประเด็นกระแสสังคมแซวว่านายสามารถเอาบัญชีคุณแม่เป็นบัญชีม้า รวมถึงบอกว่า คนอื่นใช้บัญชีม้า แต่สามารถใช้บัญชีแม่  คุณแม่ของนายสามารถ บอกว่า ไม่มีบัญชีม้าแน่นอน ตนไม่ได้ เป็นบัญชีมาให้ลูกชาย “ตนเป็นคนดี ตนเป็นคนทำบุญ ไม่ใช่บัญชีม้าแน่นอน”

นางวิลาวัลย์ ยังกล่าวถึงความรู้สึกภายหลังได้ประกันว่า ขอบคุณศาลยุติธรรม ขอบคุณผู้พิพากษา ที่ยังให้ความยุติธรรมตัวเองอยู่ แต่สงสารลูกมาก ซึ่งระหว่างพิจารณาได้กอดคอกับลูกร้องไห้ ซึ่งร้องไห้ทั้งคู่ และลูกได้พูดกับตนว่า "แม่ ผมทำเพื่อประเทศไทย ทำไมผมโดน?"

จากนั้นลูกก็ถามอีกว่า ”แม่ ผมทำผิดอะไร ทำไมผมต้องโดนกลั่นแกล้ง?  พร้อมเล่าต่อว่า ตอนที่ดีเอสไปมาค้านประกัน บอกว่าจะขอสืบพยาน 30 ปาก  ซึ่งสามารถเองโดนคดีฟอกเงิน แต่สามารถบอกว่า บ.ดิไอคอน เรื่องฟอกเงินยังไม่ถึงที่สุดเลย ทำไมตัวเองโดนแล้ว 30 ปาก มาจากไหน?

ช่วงหนึ่งคุณแม่ของนายสามารถร่ำไห้ บอกว่า “ตอนนี้เป็นห่วงลูกชายมาก ฉันรักลูกและสงสารลูกมาก  ตอนนี้ลูกอดข้าวอดน้ำ  ฉันไปห้ามลูกว่าอย่าทรมานตัวเอง  ฉันบอกว่า ลูกจ๋า แม่ให้หนูเกิดมานะลูก หนูต้องสู้ สู้เพื่อความยุติธรรม ลูกต้องอย่าอดข้าวอดน้ำ ซึ่งลูกอดมาตั้งแต่วันก่อนแล้ว และจะอดข้าว อดน้ำ ประท้วงจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม”  

เมื่อถามว่าหลังจากที่ปรามลูกชายว่าอย่าอดข้าวอดน้ำนะลูก  ลูกชายตอบว่ายังไงบ้าง  แม่ของนายสามารถ กล่าวว่า ลูกชายบอกว่าไม่ยอม จะอดจนกว่าจะได้ประกันตัว ฟังแล้วรู้สึกเศร้ามากเพราะตนเป็นคนให้ลูกเกิดมา

บางช่วงคุณแม่ของนายสามารถ กล่าวถึงเส้นทางการเมืองของลูกชายต่อจากนี้ว่า ตอนคุยกันล่าสุดบอกลูกว่า “สามารถจ๋า ถ้าความเก่งของหนูไม่สามารถช่วยประเทศชาติได้ถอยเถอะลูก ในเมื่อสามารถเก่งเกินไป ในเมื่อสามารถแรงเกินไป ฉะนั้น ถ้าประเทศชาติไม่ต้องการสามารถก็ไม่ต้องเล่นการเมืองหรอกลูก เราอยู่ของเราเหมือนประชาชนทั่วไปเถอะลูก

จากนั้นคุณแม่ของนายสามารถ ยกมือไหว้บอกว่า ถ้าลูกของตนเองได้ล่วงเกินผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย ตนในฐานะแม่ ขอเป็นตัวแทนกราบขอขมา ขออโหสิกรรมด้วย ถ้าสามารถแข็งเกินไป แรงเกินไปช่วยอโหสิกรรมให้ลูกชายด้วย

ส่วนการช่วยเหลือสังคมของลูกชายต่อจากนี้  ลูกชายยืนยันว่ายังจะคงช่วยประเทศชาติต่อ  ขอพูดด้วยความที่ไม่เข้าข้างลูกเลยว่าลูกชายเป็นคนเก่ง สามารถเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนได้ แต่บางครั้งลูกของตนแรงเกินไป จึงถูกตัดไม่ให้มีปากเสียงได้

ส่วนกระแสข่าวว่ามีคนบ้านป่าช่วยให้นายสามารถและแม่หลุดคดีนั้น คุณแม่ของนายสามารถระบุว่าไม่มีอย่างแน่นอน  ขอตัดพรรคพลังประชารัฐออกจากนายสามารถก่อน เพราะสามารถสู้ด้วยตัวคนเดียว  ส่วนเรื่องการประกันตัวของลูกชายต่อจากนี้ตนก็ขอความเมตตาจากศาลด้วย ขอประกันและสู้กันตามกระบวนการ

นางวิลาวัลย์ ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนได้ช่วยคนมากกว่า 6 พันคน ให้พ้นทุกข์ แต่เวลาตนมีทุกข์กลับไม่มีใครมาช่วย ตนจึงน้อยเนื้อต่ำใจ ทำให้เมื่อคืนเกิดอาการชักเกร็ง มือหงิก หน้าเบี้ยว จนทางเจ้าหน้าดีเอสไอส่งเข้าโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.67) ในช่วง 10 โมงเช้า ที่ห้องขังดีเอสไอ ตนพยายามนำผ้าปูเตียงมาทำร้ายตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาห้ามไว้เสียก่อนจนรอดมาได้

ขณะเดียวกันอาชีพของคุณแม่ของนายสามารถคือเป็นหมอดู ทำมาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเปิดตำหนักดูดวงด้วยใน กทม.   ก่อนจะทำนายดวงลูกชายว่า รอดคดีนี้อย่างแน่นอน 100% ไม่ได้เข้าข้างลูก แต่ตนดูจากดวงชะตาของลูกชาย  ลูกชายอาจจะผิดที่ไปล่วงเกินผู้ใหญ่บางท่าน อาจจะผิดที่แข็งเกินไป อาจจะผิดที่ว่าวจีกรรมไม่ดี หมายถึง พูดตรงเกินไป  แต่บอกได้เลยว่าหลังจากนี้รอดพ้นอย่างแน่นอนเพราะตนเป็นคนบอกลูกเองว่าช่วงนี้ดวงไม่ดี แต่หากพ้นวันที่ 1 ธันวาคมนี้ไปดีขึ้นและได้ประกันอย่างแน่นนอนเพราะลูกไม่ผิด ก่อนทิ้งท้ายสั้นๆว่าตนและลูกตกเป็นจำเลยสังคม แต่ขอยืนยันว่าตนและลูกมีหลักฐานในการต่อสู้แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด

ด้าน ว่าที่ ร.ต. นฤพล เรืองสังข์ ทนายความ กล่าวเสริมว่า เหตุผลที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสามารถ เพราะว่า มีอัตราโทษร้ายแรงและกลัวจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน รวมทั้งนายสามารถมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ทางเราจะอุทธรณ์เพื่อสู้คดี ซึ่งอาจจะเป็นระยะภายในวันสองวันนี้ ส่วนเรื่องการขอไต่สวนนั้น ทางศาลไม่ได้ไต่สวน เพียงแต่อ่านคำสั่งประกันเท่านั้น หลังจากนี้จะอยู่ที่ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ว่าจะมีผลการประกันอย่างไร

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7CHsc5Ytrog