สังคม

คู่ซี้พากันเมา 'พระ-ฆราวาส' ตะโกนมีปืน ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก อ้างแค่กินเหล้า ไม่ถึงขั้นปาราชิก

โดย nattachat_c

11 ชั่วโมงที่แล้ว

15 views

สองคู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาเอะอะโวยวาย ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครตรัง ประกาศมีปืน ทำชาวบ้านตกใจกลัวรีบแจ้งตำรวจ แต่ขัดขืนหนักต้องใส่กุญแจมือไปจับสึก
เกิดเหตุ สองคู่ซี้ พระ-ฆราวาส ที่อยู่ในสภาพเมาแอ๋ เหม็นกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง โดยเฉพาะคนที่แต่งกายเป็นพระ พูดจาเอะอะโวยวายตลอดเวลา ได้พากันไปอาละวาดที่ร้านกาแฟ ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครตรัง และประกาศว่าตนเองมีปืน ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.เมืองตรัง

ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล จึงนำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังจุดเหตุ พบว่า ทั้งสองคู่ซี้ยังโวยวายไม่เลิก จึงควบคุมตัวมาสอบสวน และสงบสติอารมณ์ ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง พร้อมทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งบาตร เต็นท์นอน ถุงใส่ของใช้ส่วนตัว

เมื่อตรวจค้นสัมภาระ พบขวดเหล้าขาวเปล่า 1 ขวด เหล้าหมดแล้ว และขวดน้ำขนาดเล็ก แต่ภายในบรรจุเหล้าขาวที่เหลืออีกค่อนขวด เมื่อขอดูหลักฐานการบวชเป็นพระก็ไม่มี มีแต่บัตรประชาชน ทราบชื่อ นายนพดล ชัยสุข อายุ 52 ปี อยู่บ้านพื้นที่ ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง โดยบอกว่า ตนเองเพิ่งบวชได้ 1 พรรษา

ส่วนเพื่อนคู่ซี้ที่เป็นฆราวาส ไม่พกบัตรประชาชน มีเพียงเอกสารแจ้งความลงบันทึกประจำวันของ สภ.รัตภูมิ ที่ระบุว่า ถูกชายไทย 2 คน รับมาจากหัวลำโพง กรุงเทพฯ เพื่อจะมาทำงานในสวนปาล์มน้ำมัน จ.สงขลา

แต่เมื่อมาถึง อ.รัตภูมิ ก็ถูกชาย 2 คนดังกล่าวทิ้ง ทำให้กระเป๋าสัมภาระ และเงิน 1,000 บาท ติดไปกับรถยนต์ของชาย 2 คนดังกล่าวด้วย จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ระบุชื่อ นายสายชล ขำมา อายุ 48 ปี ชาวอำเภอเมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร โดยทางตำรวจยังได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดด้วย แต่ไม่พบสารเสพติดอย่างใด

เมื่อสอบถามที่มาที่ไป ปรากฏว่า พูดจาวกไปวนมา เอะอะโวยวาย พร้อมประกาศ ใครก็ไม่สามารถจับตนเองสึกได้ ต่อให้เป็นพระสมเด็จก็สึกตนเองไม่ได้ รู้จักพระผู้ใหญ่ และผู้มีอิทธิพลหลายคน และตนเองไม่มีความผิดอะไร

ทั้งนี้ เมื่อตำรวจ และผู้สื่อข่าว สอบถามที่มาที่ไปว่า มาจากไหน บวชที่วัดไหน จะไปไหน ก็พูดจาวกไปวนมา บ้างก็บอกว่า บวชพระที่ จ.สงขลา แล้วเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน พร้อมเพื่อนที่รักกันมาก และบางครั้งก็บอกว่า บวชที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน โดยพระพูดจาแต่ละครั้ง แต่ละคำ ไม่เหมือนกัน บางครั้งบอกว่า ปกติตนเองไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ วันนี้วันแรกที่กินเหล้า พร้อมหาตัวช่วยยืนยันคือเพื่อนซี้ เรียกชื่อเล่นเพื่อนว่า ไอ้ต่อ

ด้านเพื่อนซี้ ไอ้ต่อ ก็บอกว่า กินทุกวัน กินบ่อย วันนี้กินเหล้าพร้อมกับแกล้มไปทั้งหมด 1,200 บาท ด้านเพื่อนพระก็ปฏิเสธพัลวัน บอกว่า ไม่เคยดื่ม ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็หลุดพูดว่ากินแต่เหล้า ยาเสพติดไม่เคยยุ่งเกี่ยว แล้วตนเองผิดอะไร ทำไมต้องสึกจากพระ แค่กินเหล้าไม่ได้ถึงขั้นปราชิก พร้อมทวงบุญคุณเพื่อนว่า ตนเองบิณฑบาตหาเลี้ยงอยู่เอง ข้าว เหล้า อาหาร ก็ซื้อเลี้ยงเอง ทำไมไม่เข้าข้าง

พร้อมกันนั้น ทางพระได้โทรวิดีโอคอลหาอดีตภรรยา ซึ่งเป็นชาว จ.สงขลา ที่เลิกรากันไปนานเป็น 10 ปีแล้ว เพื่อให้ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยดื่มเหล้า แต่เมื่ออดีตภรรยาได้คุยกับตำรวจ และผู้สื่อข่าว ทางอดีตภรรยายืนยันว่า อดีตสามีชอบดื่มเหล้า ตนเองเลิกกันนานเป็น 10 ปี แล้ว แต่เมื่อวานนี้ เขาติดต่อขอไปเยี่ยมลูก ตนเองก็อนุญาต และทราบว่ายังดื่มเหล้าแบบนี้ ก็ขอให้ตำรวจจับสึก ไม่เช่นนั้นจะทำให้เสื่อมเสียวงการพระสงฆ์ ตนเองไม่เข้าข้าง ไม่เห็นด้วย ถ้าขี้เมาก็ไม่ควรบวชเป็นพระ จะทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย

ท้ายที่สุด ทางตำรวจได้นำตัวไปพบ พระมหาสุวรรณ วิชชาธโร เจ้าอาวาสวัดนิโครธาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง เพื่อให้ทำพิธีลาสิกขาให้ แต่เจ้าตัวไม่ยอม โต้เถียงตลอดเวลา สุดท้าย ต้องหิ้วปีกเข้าไปเข้าไปทำพิธีลาสิกขา

เมื่อจับถอดผ้าเหลืองได้สำเร็จ ก็หน้าถอดสี ยืนจ๋อยให้พระ และตำรวจ อบรมสั่งสอนไปหลายคำ พร้อมย้ำว่า ถ้ายังดื่มเหล้าอย่ากลับมาบวชอีก จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

ด้าน ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง บอกว่า ได้รับแจ้งว่า มีพระ-ฆราวาส เมาแล้วอาละวาดไปด่าทอชาวบ้าน กลิ่นสุราเหม็นหึ่ง ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบเห็นทั้งคู่เมาอาละวาด จะเชิญมาโรงพัก ก็ไม่ยอม จึงต้องบังคับจับใส่กุญแจมือ พาไปหาพระฝ่ายปกครองเพื่อให้จับสึก


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/CkDWykYNiBg


คุณอาจสนใจ

Related News