สังคม

2 คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋โวยวาย ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง ซ้ำยังประกาศบอกตัวเองมีปืน

โดย kanyapak_w

22 พ.ย. 2567

133 views

ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง นำโดย ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม นำตัว 2 คู่ซี้ พระและฆราวาส ทั้งคู่อยู่ในสภาพเมาแอ๋เหม็นกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง โดยเฉพาะคนที่แต่งกายเป็นพระ พูดจาเอะอะโวยวายตลอดเวลา โดยนำมาสงบสติอารมณ์ พร้อมทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งบาตร เต้นนอน ถุงใส่ของใช้ส่วนตัว หลังจากได้พากันไปอาละวาดที่ร้านกาแฟ ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง และประกาศว่าตนเองมีปืน ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.เมืองตรัง รีบเดินทางไปตรวจสอบ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและสงบสติอารมณ์ สภ.เมืองตรัง




จากนั้นเมื่อตรวจค้นสัมภาระ พบขวดเหล้าขาวเปล่า 1 ขวด เหล้าหมดแล้ว และขวดน้ำขนาดเล็ก แต่ภายในบรรจุเหล้าขาวที่เหลืออีกค่อนขวด เมื่อขอดูหลักฐานการบวชเป็นพระก็ไม่มี มีแต่บัตรประชาชน ทราบชื่อ นายนพดล อายุ 52 ปี อยู่บ้านหลังหนึ่ง ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง โดยบอกว่า ตนเองเพิ่งบวชได้ 1 พรรษา ส่วนเพื่อนคู่ซี้ที่เป็นฆราวาส ไม่พกบัตรประชาชน มีเพียงเอกสารแจ้งความลงบันทึกประจำวันของ สภ.รัตภูมิ ที่ระบุว่า ถูกชายไทย 2 คน รับมาจากหัวลำโพง กรุงเทพฯ เพื่อจะมาทำงานในสวนปาล์มน้ำมัน จ.สงขลา




แต่เมื่อมาถึง อ.รัตภูมิ ก็ถูกชาย 2 คนดังกล่าวทิ้ง ทำให้กระเป๋าสัมภาระและเงิน 1,000 บาท ติดไปกับรถยนต์ของชาย 2 คนดังกล่าวด้วย จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ระบุชื่อ นายสายชล อายุ 48 ปี ชาวอำเภอเมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร โดยทางตำรวจยังได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดด้วย แต่ไม่พบสารเสพติดอย่างใด เมื่อสอบถามที่มาที่ไป ปรากฏว่าพูดจาวกไปวนมา เอะอะโวยวาย พร้อมประกาศ ใครก็ไม่สามารถจับตนเองสึกได้ ต่อให้เป็นพระสมเด็จก็สึกตนเองไม่ได้ รู้จักพระผู้ใหญ่ และผู้มีอิทธิพลหลายคน และตนเองไม่มีความผิดอะไร




ทั้งนี้ เมื่อตำรวจและผู้สื่อข่าวสอบถามที่มาที่ไปว่า มาจากไหน บวชที่วัดไหน จะไปไหน ก็พูดจาวกไปวนมา บ้างก็บอกว่า บวชพระที่ จ.สงขลา แล้วเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน พร้อมเพื่อนที่รักกันมาก และบางครั้งก็บอกว่า บวชที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน โดยพระพูดจาแต่ละครั้ง แต่ละคำ ไม่เหมือนกัน บางครั้งบอกว่า ปกติตนเองไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ วันนี้วันแรกที่กินเหล้า พร้อมหาตัวช่วยยืนยันคือ เพื่อนซี้ เรียกชื่อเล่นเพื่อนว่า ”ไอ้ต่อ”




ด้านเพื่อนซี้ นายต่อก็บอกว่า กินทุกวัน กินบ่อย วันนี้กินเหล้าพร้อมกับแกล้มไปทั้งหมด 1,200 บาท ด้านเพื่อนพระก็ปฏิเสธพัลวัน บอกว่า ไม่เคยดื่ม ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็หลุดพูดว่ากินแต่เหล้า ยาเสพติดไม่เคยยุ่งเกี่ยว แล้วตนเองผิดอะไร ทำไมต้องสึกจากพระ แค่กินเหล้าไม่ได้ถึงขั้นปราชิก พร้อมทวงบุญคุณเพื่อนว่า ตนเองบิณฑบาตรหาเลี้ยงอยู่เอง ข้าว เหล้า อาหารก็ซื้อเลี้ยงเอง ทำไมไม่เข้าข้าง




พร้อมกันนั้น ทางพระได้โทรวิดีโอคอลหาอดีตภรรยา ซึ่งเป็นชาว จ.สงขลา ที่เลิกรากันไปนานเป็น 10 ปีแล้ว เพื่อให้ยืนยันว่าตนเองไม่เคยดื่มเหล้า แต่เมื่ออดีตภรรยาได้คุยกับตำรวจ และผู้สื่อข่าว ทางอดีตภรรยายืนยันว่า อดีตสามีชอบดื่มเหล้า ตนเองเลิกกันมานานเป็น 10 ปีแล้ว แต่เมื่อวานนี้เขาติดต่อขอไปเยี่ยมลูก ตนเองก็อนุญาต และทราบว่ายังดื่มเหล้าแบบนี้ ก็ขอให้ตำรวจจับสึก ไม่เช่นนั้นจะทำให้เสื่อมเสียวงการพระสงฆ์ ตนเองไม่เข้าข้าง ไม่เห็นด้วย ถ้าขี้เมาก็ไม่ควรบวชเป็นพระ จะทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย



ท้ายที่สุดทางตำรวจได้นำตัวไปพบ พระมหาสุวรรณ วิชชาธโร เจ้าอาวาสวัดนิโครธาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง เพื่อให้ทำพิธีลาสิกขาให้ แต่เจ้าตัวไม่ยอม โต้เถียงตลอดเวลา สุดท้ายต้องหิ้วปีกเข้าไปเข้าไปทำพิธีลาสิกขา สุดท้ายเมื่อจับถอดผ้าเหลืองได้สำเร็จ ก็หน้าถอดสี จ๋อย ยืนให้พระ และตำรวจอบรมสั่งสอนไปหลายคำ พร้อมย้ำว่า ถ้ายังดื่มเหล้าอย่ากลับมาบวชอีก จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย



ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง บอกว่า ได้รับแจ้งว่า มีพระ และฆราวาสเมาแล้วอาละวาดไปด่าทอชาวบ้าน กลิ่นสุราเหม็นหึ่ง ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบเห็นทั้งคู่เมาอาละวาด จะเชิญมาโรงพัก ก็ไม่ยอม จึงต้องบังคับจับใส่กุญแจมือพาไปหาพระฝ่ายปกครองเพื่อให้จับสึก




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,พระเมา ,ตรัง ,พระ

คุณอาจสนใจ

Related News