สังคม

สธ.เผยเหตุ ‘ไอกรน’ ระบาด รร.ดัง ชี้ยังเจอแค่เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ทั้ง กทม. เตือนฉีดวัคซีนแล้วแต่ภูมิลด ก็ติดได้

โดย thichaphat_d

14 พ.ย. 2567

58 views

กรมควบคุมโรค แจงส่งเจ้าหน้าที่ลงสอบสวนโรคแล้ว กรณีพบนักเรียนป่วยโรคไอกรนกว่า 20 ราย ในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ซึ่งเข้าข่ายลักษณะของโรคแพร่ระบาด แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ส่วนการปิดโรงเรียนเป็นมาตรการของสถานศึกษาเอง แนะผู้ปกครองตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของบุตรหลานว่าเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนในตอนเด็กหรือไม่

จากกรณีที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ประกาศหยุดการเรียนการสอนสองสัปดาห์หลังพบ นักเรียนป่วยโรคไอกรนมากกว่าสองราย

ในกรณีนี้ แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรคให้สัมภาษณ์ ชี้แจงว่าทาง กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งรายงานในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ สอบสวนโรคในเบื้องต้นทราบว่าพบผู้ป่วยโรคไอกรนจำนวน 20 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักฟุตบอลของโรงเรียนและเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 มี อาการป่วยเริ่มแรกตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในการเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมภาษณ์เสี่ยงทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน เพื่อติดตามอาการ

ทั้งนี้ การพบผู้ป่วย โรคไอกรน ในเขตกรุงเทพมหานครนั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มแรกเพราะเดิมมีข้อมูลรายงานการพบผู้ป่วยด้วยโรคไอกรนมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะแต่ส่วนใหญ่มักพบในเขตภาคใต้ และพบในกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่ครั้งนี้เป็นการพบกลุ่มผู้ป่วยในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ซึ่งคาดเกิดจากการทำกิจกรรมร่วมกันคือการเล่นกีฬา จึงให้เกิดการแพร่ระบาด

แพทย์หญิงจุไร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าโรคไอกรนมีวัคซีนป้องกันใช้มากกว่า 50 ปีโดยมีข้อกำหนดให้เด็กเล็กรับวัคซีนที่เป็นวัคซีนรวม ซึ่งจะมีไอกรน /คอตีบ/บาดทะยัก/ จึงทำให้ในปัจจุบันพบการติดเชื้อแต่อาการจะไม่รุนแรงยกเว้นในกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร่วมเช่นโรคหอบหืดอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาการป่วยจะรุนแรงและเสียชีวิตได้

ในกลุ่มเด็กโตและวัยผู้ใหญ่มีคำแนะนำให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ทุก 10 ปี และส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์รับวัคซีนป้องกันไอกรมเพื่อป้องกันลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงแรกคลอด ให้มีภูมิคุ้มกันโรค โดยข้อมูลในปัจจุบันภาพรวมของการเข้ารับวัคซีนอยู่ที่ร้อยละ 90 ยกเว้นในเขตภาคใต้ที่ยังเข้ารับวัคซีนน้อยจึงมีการแพร่ระบาดและมีการเสียชีวิตอยู่

สำหรับโรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายคล้ายไข้หวัดแต่อาการเด่นคือ ผู้ป่วยจะมีอาการไอมากไอหนักนาน 1-2 สัปดาห์ มีระยะในการแพร่เชื้อสามสัปดาห์ หลังไข้ลด โดยในกลุ่มคนที่ไม่ได้มีอาการป่วยรุนแรงจึงไม่มีการตรวจคัดกรองโรคเฉพาะทำให้ไม่ทีข้อมูลรายงาน ส่วนใหญ่เข้าข่ายโรคไข้หวัดไข้ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

การตรวจคัดกรองโรคแพทย์จะดำเนินการเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการหนักและมีข้อบ่งชี้ เท่านั่น เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายราคาสูงปัจจุบันยังไม่มีชุดทดสอบเบื้องต้นต้องทำการตรวจสอบเพราะเชื้อในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการที่พบมีการแพร่ระบาดของโรคไอกรนในสถานศึกษาครั้งนี้แนะนำให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในสถานศึกษาดังกล่าวตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของบุตรหลานว่าได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนครบถ้วนหรือไม่และสังเกตอาการในช่วง 7 ถึง 14 วันหากพบมีอาการไข้และไอให้รีบ พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และสำหรับสถานศึกษาหรือชุมชนหากพบมีผู้ป่วยเข้าข่ายลักษณะโรคระบบทางเดินหายใจให้แนะนำหยุดเรียนก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อถามว่ากรณีพบผู้ป่วยไอกรนมากกว่าสองรายขึ้นไป จำเป็นต้องปิดสถานศึกษาหยุดพักการเรียนการสอนหรือไม่ แพทย์หญิงจุไรกล่าวว่ามาตรการควบคุมการแพร่โรคระบาดนั้นทางกรมควบคุมโรคกำหนด ในกรณีต้องปิดสถานศึกษาหากเจอผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก เนื่องจากกลุ่มโรคนี้มีโอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายอยู่ในสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งนี้โรคระบาดอื่นๆรวมถึงโรคไอกรน ส่วนใหญ่การแพร่ระบาดเกิดจากตัวบุคคลผู้ป่วยที่มีการไอหรือจาม มาตรการจึงกำหนดด้านสาธารณสุขไว้ให้ผู้ป่วยหยุดเรียน ส่วนจะ ปิดโรงเรียนหรือปิดห้องเรียนหรือหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสถานศึกษาพิจารณาถึงความพร้อมในการดำเนินการได้เอง

ย้ำว่า กรณีที่พบผู้ป่วยไอกรนในเขตกรุงเทพมหานคร ยังไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดเพราะยังเจอเฉพาะกลุ่ม แต่ขอให้ทุกคนคง ปฏิบัติตนตามมาตรการด้านสุขอนามัย เช่นการสวมหน้ากากอนามัย / มั่นล้างมือ เพื่อลดการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีพบการระบาดของโรคไอกรน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่าสหรัฐอเมริกาพบการระบาดเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ว่า โรคไอกรนเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis และสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ดังนั้นหากพื้นใดที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากก็จะไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาในพื้นที่ที่การครอบคลุมวัคซีนต่ำ เช่น พื้นที่ที่มีเด็กต่างด้าว พื้นที่ติดขอบชายแดน บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่พบการระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการระบาดในเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย

“แต่ครั้งนี้มีการพบเพิ่มขึ้นคือในวัยรุ่น ที่ได้รับวัคซีนป้องกันแล้วแต่ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้สามารถรับเชื้อได้ และมีอาการในระบบทางเดินหายใจส่วนบน คือ ลำคอ แต่อาการจะไม่มาก อย่างกรณีที่พบผู้ป่วยมากขึ้นในตอนนี้ อาจเกิดจากช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่คนไปรับวัคซีนโควิด-19 กันมาก แต่ได้รับวัคซีนพื้นฐานลดลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ทำให้โรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน กลับมาพบมากขึ้นหลังการระบาดของโควิด-19”


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5Rl4BW27AA4

คุณอาจสนใจ