จากกรณีที่ “เจ๊ไฝ” เชฟและเจ้าของร้านอาหารมิชลิน 1 ดาว 7 ปีซ้อน ประกาศวางตะหลิว เลิกกิจการในปี 2568 สำหรับ ร้านเจ๊ไฝ เป็นร้านอาหารริมทางหรือสตรีตฟู้ด โดยอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดคือไข่เจียวปู ซึ่งการตัดสินใจเลิกกิจการครั้งนี้เพราะอายุเยอะแล้ว ต้องรับผิดชอบในเรื่องของคุณภาพ วัตถุดิบ ที่ให้คงไว้ซึ่งมาตรฐานดาวมิชลิน
ล่าสุดวันที่ 29 ต.ค. 2567 เจ๊ไฝ เปิดเผยต่อประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องราวเกิดจากตนไปช่วยยูเอ็นหาเงินช่วยผู้ลี้ภัย ซึ่งเป็นงานใหญ่และมีทูตมาเยอะ โดยสิ่งแรกที่เขามาถามตนว่าอายุ 80 ปี แล้วยังไม่เลิกอีกเหรอ ตนตอบไปแค่ว่า มันก็มีโครงการอยู่ในใจ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องบานปลาย ยังขายต่อยังไม่เลิก
อีกทั้งตนยังรับงานที่ต่างประเทศอีกหลายงาน เช่นฝรั่งเศส ยังต้องไปทำอาหาร แล้วจะเลิกได้ยังไง มันเลิกไม่ได้ เพราะมันยังติดพันกันอยู่ ตนยังแข็งแรงอยู่ อายุ 81 ปีแล้วปีนี้ ยังยืนทำอาหารได้สบาย วันนึงยืนทำอาหารประมาณ 15 ชั่วโมง
เจ๊ไฝ กล่าวยืนยันว่า เรื่องที่จะหยุดขายปี 2568 ไม่เป็นความจริง ส่วนลูกสาวคงไม่สืบทอดต่อ แต่มีโครงการอย่างอื่นอยู่ในใจ เพราะคุยกันตลอด เพราะทางตนได้ติดต่อกับประเทศเกาหลีและมีโครงการที่ตั้งเป้าไว้แล้ว ทุกครั้งที่ตกไปต่างประเทศ ตนก็โปรโมตอย่างเต็มที่ให้ประเทศไทย เพราะอาหารไม่แพง ถือว่าช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว
ทั้งนี้อยากฝากถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร หากอยากทำอาหารไทยให้อร่อย ก็ต้องศึกษา เพราะถ้าทำมั่ว ๆ จะไม่อร่อย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ตนคิดว่าประเทศไทยดีที่สุด อาหารก็ดีที่สุด แต่ขอให้ผู้ประกอบการเอาใจใส่สักหน่อย
โดยร้านของตนยังเปิดขายปกติ ปัจจุบันร้านถือว่าหยุดเยอะแล้ว 3 วันต่อสัปดาห์ เปิดขาย 4 วัน วันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์และเสาร์ นอกจากนี้ตนก็อยากให้รัฐบาลทำจริงจัง ทำเกี่ยวกับถนนเดินสัก 1 สาย ที่ให้มีอาหารขาย ให้ต่างชาติมาเดินเที่ยวกัน
ส่วนที่ นายกฯอิ๊งค์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเสียดายหากร้านเจ๊ไฝปิดตัวลง นั้น เจ๊ไฝ กล่าวว่า ตนยินดีให้นายกฯอิ๊งค์ มาชิมอาหารที่ร้าน ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก เพราะร้านตนเป็นร้านเล็ก สุดท้ายอยากบอกว่า ตนเชียร์นายกฯคนนี้เต็มที่ เพราะมองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาความเก่งได้เร็วมาก