‘บอสโปลิศ’ แจงปม ‘ดิไอคอน’ ยันไม่ได้เป็นสมาชิก-ไม่รู้จักบอส ปัดโจมตี สตช.แค่ถ่ายทอดชีวิตการทำงาน

'พันตำรวจเอก' ที่ขึ้นเวที ดิไอคอล เปิดใจยันไม่ได้เป็นสมาชิก ดิไอคอล ไม่เคยรู้จักบอสต่างๆ ของบริษัทดิไอคอล  ยอมรับขึ้นเวทีพูดเรื่องวันหยุด และรายได้ในอาชีพตำรวจจริง แต่ไม่ได้โจมตี แค่เป็นการถ่ายทอดชีวิตการทำงาน 

วานนี้ (24 ต.ค.) นายตำรวจยศพันตำรวจเอกที่ขึ้นเวที ดิไอคอลได้เปิดใจกับทีมข่าว โดยพันตำรวจเอกนายนี้ คือ พันตำรวจเอกสมคิด ตำแหน่งปัจจุบันคือ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี

พันตำรวจเอกสมคิด เปิดใจว่า ในคลิปที่มีภาพของตัวเขาขึ้นเวที เป็นช่วงประมาณปี 2560 ซึ่งขณะนั้นตนเป็นผู้กำกับสอบสวน ที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และตนได้เป็นสมาชิกของบริษัทเจอเนสส์ โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ตั้งแต่ปี 2559 โดยตนเป็นระดับแม่ทีม มีสมาชิกในทีมประมาณกว่าร้อยคน ส่วนคลิปที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ที่ตนขึ้นพูดบนเวทีนั้น เป็นช่วงประมาณปี 2560 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทองธานี โดยงานวันนั้นเป็นการพบปะบรรดาสมาชิกของบริษัทเจอเนสส์ โดยที่บริษัทดิไอคอนรับหน้าที่จัดงาน เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทเจอเนสส์ ซึ่งเนื้อหาบนเวทีตนได้พูดถึงการเป็นแม่ทีมของบริษัทเจอเนสส์ว่าดีอย่างไร เพราะบริษัทเจอเนสส์ ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับ สคบ.

ส่วนประเด็นที่บางช่วงบางตอน ตนได้มีการพูดถึงการทำงานในชีวิตตำรวจ ทั้งเรื่องของวันหยุดที่แทบไม่มีวันหยุด หรือ รายได้ที่ขึ้นปีละ 200 ถึง 400 บาท  ขอยืนยันว่าตนพูดถึงประสบการณ์ทำงานในชีวิตตำรวจว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่สังคมกำลังเข้าใจ เพราะไม่เช่นนั้นตนคงไม่พูดว่าอาชีพตำรวจให้อะไรกับตนบ้างในเรื่องของหน้าที่การงานที่มั่นคง

ทั้งนี้ ตนเป็นสมาชิกที่บริษัทเจอเนสส์ ได้ประมาณ 2 ปีก็ตัดสินใจลากออก เพราะต้องการหารายได้อย่างอื่นที่ดีกว่า และหลังจากนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทเจอเนสส์อีก และขอย้ำว่าที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ตนไม่เคยเป็นสมาชิกของบริษัทดิไอคอน  ตนไม่เคยรู้จักบอสพอล หรือ บอสคนอื่นๆ ในบริษัทดิไอคอล เรื่องที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าเครียด เพราะถูกนำไปโยงว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว และอยากขอให้สังคมอย่าเพิ่งพิภากษาตนกับคลิปที่เห็นเพียงไม่กี่นาที ส่วนจะมีการฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่นำคลิปมาเผยแพร่หรือไม่นั้น ตนยอมรับว่าตนก็ต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง แต่เวลานี้ยังไปไม่ถึงจุดนั้น เพราะตอนนี้ตนอยากให้สังคม คนรอบข้าง และผู้บังคับบัญชารับทราบความจริงมากกว่า  

ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เปิดเผยถึงประเด็น “พ.ต.อ.” ตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี แต่งเครื่องแบบขึ้นเวที “ดิไอคอน” ว่า ขณะนี้ได้เข้าไปรายงานตัวที่กองบังคับการปราบปราม ที่กรุงเทพฯ แล้ว ทาง ผบ.ตร.ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ตนได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลภายใน 15 วัน

พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่า ขณะที่ พ.ต.อ. ได้ไปขึ้นเวทีนี้มีเจตนาอย่างไร หรือทำธุรกิจขายตรงอย่างไร มีความผิดที่คาบเกี่ยวกับคดีอาญาหรือไม่ หรือการกล่าวอ้างถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สังกัด หากพบว่ามีความผิดในส่วนไหนก็จะดำเนินการในส่วนนั้น

พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ทราบว่าอยู่ในระหว่างที่ พ.ต.อ. ปฏิบัติงานเป็นผู้กำกับสอบสวน หลังจากมีภาพข่าวออกมา ตนยังได้พูดคุยกับ พ.ต.อ. ซึ่งท่านบอกกับตนว่า ที่ทำลงไปนั้นมีเจตนาที่จะทำธุรกิจขายตรง และทำยอดจนได้ไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนั้น แต่การพิสูจน์ทราบนั้นจะต้องเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนและการสอบสวนทางกฎหมาย

พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวต่อว่า หลังจากการสอบสวนแล้ว หากพบเป็นความผิดทางอาญาก็ต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งคดีอาญาจะมีคณะทำงานของระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องของความผิดทางวินัย ตนซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ดำเนินการ เบื้องต้นจากคำชี้แจงของ พ.ต.อ. ได้แจ้งว่าตนประกอบธุรกิจขายตรง ไม่ได้มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vp-3C6MauRQ