เจ้าอาวาสผูกคอจบชีวิต ทิ้งจดหมาย โจรในคราบนักบุญหลอกจองกฐิน โกงเงิน 6.5 แสน

เจ้าอาวาสเครียดผูกคอดับ ทิ้งจดหมายโดนโจรในคราบนักบุญหลอกจองกฐิน โกงเงิน 6.5 แสนบาท ตำรวจเผยภาพชายต้องสงสัย พบประวัติไม่ธรรมดา มีหมายจับคดีฉ้อโกง


เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 เวลาประมาณ 08.00 น. มีชาวบ้านไปพบร่าง พระครูวรวัตน์ เขมากร อายุ 68 ปี 31 พรรษา เจ้าอาวาสวัดโบสถ์บน ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผูกคอเสียชีวิต อยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมปัญจมหามุนีธรรมสถาน ซึ่งท่านใช้เป็นกุฏิจำวัด จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ


เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่าพระครูวรวัฒน์เขมากร ใช้ผ้าประคดคาดเอวผูกคอตัวเองติดกับลูกกรงเหล็กภายในห้อง ลักษณะท่ายืน ในห้องไม่พบร่องรอยการรื้อค้นหรือร่องรอยการต่อสู้ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือการถูกทำร้าย ภายในห้องพบเอกสารต่าง ๆ และพบกระดาษ A4 ฉีกครึ่ง เขียนข้อความด้วยลายมือของเจ้าอาวาส ระบุว่า


“เล็ก... โจรในเครื่องนักบุญ จองกฐินแล้วโกงเงินพระครูวรวัฒน์เขมากร ไป 650,000 บาท โดยบอกให้อาตมากู้ยืมเงินคนอื่น แล้วบอกไปให้ในวันที่เก็บเงินขายหวย เพราะเอาไปลงทุนขายลอตเตอรี่ อาตมาหลงเชื่อ จึงไปกู้ยืมเงินโยมมาให้ 9 ราย แต่เมื่อถึงเวลา นายเล็ก ผลัดเรื่อยมา ตั้งแต่กันยายน และหลังสุดก็ผลัดตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 15 ตุลาคม ก็ไม่นำมาให้ จนอาตมาสุดเหลือทน จนต้องทำสิ่งที่ไม่คาดคิด” จดหมายลงชื่อเจ้าอาวาส และยังเขียนเบอร์โทรบุคคลที่ชื่อว่าเล็กไว้ด้วย


สอบถาม นายสมควร พี่ชายเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีชายคนหนึ่งมาตีสนิทกับเจ้าอาวาส อ้างว่าตัวเองเป็นคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และเป็นผู้รับเหมาใน จ.สุพรรณบุรี มีฐานะร่ำรวย มาขอเป็นเจ้าภาพใหญ่จัดงานทอดกฐินสามัคคีของวัดโบสถ์บน โดยกำหนดวันทอดกฐิน วันที่ 27 ตุลาคมนี้ แต่ชายคนดังกล่าวกลับใช้อุบายหลอกเอาเงินจากเจ้าอาวาสไปหลายครั้ง ครั้งละเป็นหลักแสน รวมแล้ว 650,000 บาท ซึ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินที่เจ้าอาวาสเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต อีกส่วนเป็นเงินที่ขอยืมจากลูกหลาน เพื่อมาจัดงานกฐิน แต่กลับถูกหลอกจนหมดตัว และชายคนดังกล่าวก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้ เจ้าอาวาสเลยเครียดจนคิดสั้น


พลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เสนา เร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้ภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยที่มาหลอกลวงเจ้าอาวาสแล้ว และจะติดตามตัวมาให้ปากคำ


ต่อมา ช่วงบ่าย พลตำรวจตรีโชติวัฒน์ โพสต์แจ้งผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภาพชายต้องสงสัยว่าหลอกลวงเจ้าอาวาส โดยจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยมีคดีฉ้อโกงถึง 2 คดี และมีหมายจับติดตัวด้วย แต่สำหรับคดีที่ก่อเหตุกับเจ้าอาวาสนั้น ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ออกหมายจับ เพราะต้องทำตามขั้นตอน คือ ออกหมายเรียกมาให้ปากคำ 2 ครั้ง หากไม่มาจึงจะออกหมายจับ โดยตอนนี้ให้ชุดสืบสวนตามประกบ และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยอย่างไม่ละสายตา  


ขณะเดียวกัน ญาติพี่น้องของเจ้าอาวาส ลูกศิษย์ และญาติโยม ก็จัดเตรียมสถานที่ตั้งศพประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพพระครูวรวัฒน์ ญาติโยมพากันโศกเศร้า เพราะท่านเป็นพระนักพัฒนา เพิ่งได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูได้เพียงเดือนเศษ จากความมุ่งมั่นพัฒนาศาสนาให้คงอยู่สืบต่อไป    

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kfqremV1qiU