สะเทือนใจ เผยคำบอกเล่า 'ปธ.นักเรียน' ผู้รอดชีวิต หนีตายช่วยน้องอนุบาลรอด พยายามช่วยเพื่อนแต่ไม่ทัน

สธ.แถลง เหตุไฟไหม้รถบัส ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 23 ราย ไม่มีใครเสียชีวิตเพิ่มที่ รพ. เผยพูดคุย 1 ในนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บยังสะเทือนใจหนัก เล่านาทีหนีตาย ประตูหลังรถบัสเปิดไม่ออก จึงรีบคว้าน้องอนุบาลรายหนึ่งหนีออกไปทางประตูหน้า  

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.67) นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้  โดยมีผู้บาดเจ็บ 5 คน แบ่งเป็นครู 2 คน ที่เหลือเป็นนักเรียน 3 คน ที่อาการค่อนข้างหนัก คือ นักเรียนหญิงวัย 7 ขวบ ที่ไฟลวกตามร่างกาย และดวงตา, นักเรียนหญิงวัย 9 ขวบ ถูกไฟลวกตามร่างกายและใบหน้า และนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ถูกไฟลวกตามร่างกายเช่นกัน โดยทั้งหมดต้องรักษาตัวในห้องไอซียู และยังมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่มาก

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี ที่บาดเจ็บ ซึ่งเป็นประธานนักเรียน เล่าเหตุการณ์ว่า ตัวเองนั่งอยู่ท้ายรถบัสคันเกิดเหตุ นั่งอยู่กับพื้น ซึ่งรถคันเกิดเหตุ มี 2 ชั้น มีนักเรียนเต็มทั้ง 2 ชั้น น้องประธานนักเรียนเห็นเพลิงไหม้เป็นคนแรก โดยน้องเห็นตอนที่ล้อรถบัสแตก แล้วเสียหลักไปชนแบร์ริเออร์ข้างทาง แล้วมีเพลิงไหม้ขึ้นมาในรถ

แต่น้องมีสติดีมากๆ น้องวิ่งไปดึงประตูด้านหลังรถบัส แต่เปิดไม่ได้ จึงวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองของรถบัส จังหวะนั้น น้องบอกว่า ควันไฟเต็มรถบัสจนหายใจไม่ออกและมองไม่เห็น แต่น้องก็พยายามช่วยเหลือนักเรียนที่อยู่ชั้นสองของรถบัสออกมา เนื่องจากชั้นสองเป็นน้องอนุบาล โดยพาออกที่ประตูด้านหน้าของรถบัส น้องประธานนักเรียนสะเทือนใจมาก เพราะแม้จะสามารถช่วยน้องอนุบาลออกมาจากรถได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนสนิทของตัวเอง 3 คน ออกมาจากรถได้ เพราะช่วยไม่ทัน ทำให้น้องอายุ 14 สะเทือนจิตใจอย่างมาก โดยตอนนี้ได้กำชับให้ทีมแพทย์ ดูแลด้านสภาพจิตใจของนักเรียนที่รอดชีวิตและบาดเจ็บทุกคน รวมทั้งครูที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ปกครองด้วย

ขณะที่นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงว่า  ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลทั้งเรื่องการรักษาพยาบาลและค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด โดยนักเรียนและครูที่บาดเจ็บ ตอนแรกตั้งใจจะนำส่งโรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลแพทย์รังสิต แต่เนื่องจากช่วงที่ช่วยนำตัวออกมาจากรถบัสได้นั้น เป็นช่วงเย็นแล้ว รถติดมาก จึงเปลี่ยนแผนส่งทั้งหมดไปรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเท่านั้น  

โดยขณะนี้ นักเรียนหญิงชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ อาการวิกฤตต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีแผลรอยไหม้บนใบหน้า กระจกตา ช่องปาก และมือขวา เสี่ยงว่าอาจตาบอด เด็กหญิง ป.3 อายุ 9 ปี อาการวิกฤตเช่นกัน มีรอยไหม้คล้ายกับเด็กหญิงอายุ 7 ปี ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ โดยทีมแพทย์ย้ายตัวทั้งคู่ไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

ขณะที่นักเรียนหญิงอายุ 14 ปี  ประธานนักเรียน ถูกไฟลวก ทีมแพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กราชินีแห่งชาติมหาราชินี

ส่วนครูที่บาดเจ็บ 2 ราย รายแรกบาดเจ็บเล็กน้อย ทำแผลแล้วกลับบ้านที่ จ.อุทัยธานีได้  ส่วนครูอีกราย ยังต้องรักษาต่อที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต และยืนยันว่า ไม่มีผู้ที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตเพิ่มตามที่มีข่าวลือ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ju44V1JaOcs