สังคม

'จิรายุ' ย้ำชัด 4 ข้อ น้ำท่วมปีนี้ ไม่ซ้ำรอยปี 54 เขื่อนหลักยังรับน้ำได้ ยันไม่ท่วม กทม.แน่นอน

โดย nattachat_c

30 ก.ย. 2567

10 views

จากกรณี กรมชลประทานออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ ต้องเตรียมการรับมือปริมาณน้ำที่จะเกิดขึ้นจากอิทธิพลจากร่องมรุสม ที่จะทำให้ฝนตกหนักทางตอนบนและภาคกลางของประเทศ  มีผลทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นถึง 2,350 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ทำให้ต้องมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดขึ้นไปในเกณฑ์ไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 1-1.5 เมตรนั้น


ล่าสุด สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือ และท้ายเขื่อน และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 15.00 น. วัดได้ 1,949 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงล่าสุดวัดได้ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)...


ล่าสุด สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 15.00 น. วัดได้ 1,949 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงล่าสุดวัดได้ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)

ล่าสุด สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 15.00 น. วัดได้ 1,949 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงล่าสุดวัดได้ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)


ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเรื่องสำคัญที่เป็นข้อวิตกกังวลของประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยที่ประชุมได้สรุปข้อมูลเปรียบเทียบสถานการณ์น้ำระหว่างปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2554 พบว่า จากการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ พิจารณาทุกปัจจัยทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน ทำให้สถานการณ์น้ำในปี2567 นี้ไม่ซ้ำรอยปี 2554 ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้


1. จำนวนพายุ โดยในปี 2554 พบว่ามีพายุเข้าไทยถึง 5 ลูก ไหหม่า นกเตน ไห่ถาง เนสาด และนาลแก เมื่อเทียบกับปี 2567 มีพายุเข้าไทยเพียง 1 ลูกคือ 'ซูลิก' ซึ่งแม้จะไม่ได้เคลื่อนเข้าประเทศไทย แต่ส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานของไทยมีฝนตกหนัก และเกิดน้ำหลาก ในหลายพื้นที่


2. ปริมาณฝนสะสม เนื่องจากในปี 2554 ฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และมีปริมาณฝนสะสมสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 24% และเป็นปริมาณฝนมากที่สุดในรอบ 61 ปี หรือนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 ขณะที่ในปี 2567 แม้จะมีปริมาณฝนทั้งประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี แต่ภาพรวมปริมาณฝนสะสมสูงกว่าค่าปกติ 2%


3. ปริมาณเขื่อนในการรองรับน้ำในปี 2554 เนื่องจากปริมาณฝนสะสมสูงกว่าปกติทำให้เขื่อนหลักของประเทศไทยรองรับน้ำ 1,366 ล้านลบ.ม. แต่ในปี 2567 การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลทำให้เขื่อนหลักยังสามารถรองรับน้ำได้ถึง 7,162 ล้านลบ.ม.


4. ปริมาณน้ำท่า หรือปริมาณการระบายน้ำเหนือ โดยเฉพาะการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในปี 2554 มีการระบายน้ำสูงถึง 3,661 ลบ.ม./วินาที ขณะที่การระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ณ วันที่ 28 ก.ย.67 อยู่ที่ 1,848 ลบ.ม./วินาที อีกทั้งความจุลำน้ำยังสามารถรองรับการระบายได้สูงถึง 2,730 ลบ.ม./วินาที


นายจิรายุ เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงาน ศปช. ได้เน้นย้ำถึงการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำเหนือเขื่อนที่ไหลเข้ามา และปริมาณน้ำทะเลหนุนที่จะกระทบต่อระดับน้ำในลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งทุกหน่วยงานยืนยันตรงกันว่าไม่กระทบพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร


ปัจจุบัน เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำอยู่ที่ 1,900 ลบ.ม./วินาที แต่ที่มีความกังวลคือ น้ำเหนือเริ่มเติมเข้ามามากขึ้น ในอีก 2-3 วัน อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งอาจจะกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน 11 จุด 4 จังหวัด (อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท) ตามที่ได้แจ้งเตือนไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่กระทบกับพื้นที่ กรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน เพราะรองรับการปล่อยน้ำได้ถึง 3,000 - 3,500 ลบ.ม./วินาที


แต่ทั้งนี้ หากมีน้ำทะเลหนุน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่ำ และจุดฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทาง กทม.สำรวจแล้ว พบว่ามีอยู่ทั้งสิ้น 32 จุด ซึ่งกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kpahAwOYO90


คุณอาจสนใจ