สังคม

แห่กดเงินคึกคัก! ชาวบ้านดีใจได้เงิน 1 หมื่นใช้จับจ่าย บอกขอบคุณรัฐบาล ช่วยให้ลืมตาอ้าปากได้

โดย petchpawee_k

9 ชั่วโมงที่แล้ว

18 views

คึกคัก! บรรยากาศกดเงิน 1 หมื่นบาท ชาวบ้านบอก ส่วนใหญ่ไปซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น พร้อมจ่ายค่าไฟ บางคนโดนตัดไฟมา 1 เดือนแล้ว ขณะที่โรงรับจำนำคึกคัก ปชช.แห่นำเงินไถ่ถอนปุกรณ์ทำมาหากิน

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกดถอนเงินผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส. สาขาพระนครศรีอยุธยา บรรยากาศยังคงเป็นไปอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน

คุณป้าสมควร อายุ 65 ปี ชาวบ้านในตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้คิวรอเบิกถอนเงิน 10,000 บาท พร้อมเผยรู้สึกดีใจตลอดเวลาเกือบ 10 ปี ไม่เคยจับเงินหมื่นมาก่อน วันนี้จะได้จับ และมีแผนเตรียมใช้เงินโดยนำไปซื้อของกินของใช้เป็นหลัก และยังไม่คิดที่จะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนเกี่ยวกับอาชีพ ขอนำไปใช้ในชีวิตประจำวันก่อนเพราะรอมานานแล้ว

ส่วนอีก 2 ท่าน เป็นชาวบ้านอำเภอบางบาล พากันขี่รถจักรยานยนต์ มาเบิกถอนเงินหมื่นกำไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รอเงินก้อนนี้มานาน ได้ยินแต่ข่าวไม่คิดว่าจะได้จริง เงินที่ได้มาทั้งหมดบอกเลยว่าจะนำไปซื้อข้าวสารและน้ำมันก่อน เพราะเป็นสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเรื่องของฝากท้อง มีข้าวกินมีน้ำมันทำกับข้าวชีวิตยังอยู่ได้อีกนาน

ขณะที่โรงรับจำนำ ของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา พบว่า มีคนรีบนำเงินมาไถ่ถอนของที่จำนำไว้ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมืออุปกรณ์ประกอบอาชีพต่างๆ  

ต่อกันที่ จ.สุพรรณบุรี  ที่ธนาคารออมสิน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ประชาชนหลายร้อยคนมาต่อแถวเข้าคิว เพื่อที่จะมาเบิกเงินหมื่น บางคนมารอตั้งแต่ 06.00 น.จนล้นธนาคารต้องมานั่งรออยู่ด้านนอก ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่ได้เงินหมื่น จะนำเงินไปซื้อข้าวสาร และของใช้ในครัวเรือน ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน บางส่วนจะนำไปใช้หนี้ และให้ลูกหลาน เงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาทที่ทางรัฐให้มาในครั้งนี้ ช่วยชีวิตได้มากและใช้ชีวิตได้ไปอีกหลายเดือน

ขณะที่ประชาชนบางคนก็ต้องผิดหวัง ซึ่งเบิกเงินไม่ได้เพราะไม่มีบัตร ATM ต้องเบิกโดยใช้สมุดธนาคาร โดยธนาคารออมสินสาขาอู่ทอง ได้แจกบัตรคิวอยู่ที่ 300 กว่าคิวเท่านั้น ซึ่งเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) หมดตั้งแต่เวลา 10.00 น. จึงทำให้ผู้ที่มาหลังเวลาไม่ได้บัตรคิว จึงต้องมาในวันนี้ (27 ก.ย.)

ขณะที่ประชาชนรายหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาสายไม่ทันรับบัตรคิว แต่ก็ดีใจที่ได้เงินหมื่นจากรัฐบาล จะนำเงินไปเสียค่าไฟฟ้า เพราะที่บ้านถูกตัดไฟฟ้ามาตั้งแต่วันที่ 29 เดือนที่ผ่านมา ที่บ้านจะได้มีไฟฟ้าใช้เสียที

ส่วนที่พิษณุโลก ยายท่านหนึ่ง อายุประมาณ 70 ปี ปั่นรถจักรยานออกจากบ้านเพื่อมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม แต่ปรากฏว่า เมื่อปั่นมาเรื่อยๆ ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นประมาณ 30 ซม. จึงทำให้ต้องเปลี่ยนมาจูงรถจักรยานฝ่าน้ำท่วมแทน เป็นภาพที่น่าเอ็นดูอย่างมาก เมื่อมาถึงที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยกลับพบว่าเครื่องขัดข้องงดบริการชั่วคราวอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่แก้ไขอีก แต่โชคยังดีที่มีตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินถัดไปอีก 200 เมตร จึงจูงจักรยานฝ่ากระแสน้ำต่อไปเรื่อยๆ ทำให้กดเงินหมื่นไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้สมหวัง

ส่วนที่ จ.กำแพงเพชร  ประชาชนมายืนต่อแถวกันตั้งแต่ธนาคารยังไม่เปิด บางคนมานั่งรอตั้งแต่ตี 4 บางคนก็มาตั้งแต่ 6 โมงเช้า  ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นตุนไว้ ส่วนที่เหลือจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลที่แจกเงินให้ และเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเลือกพรรคเพื่อไทยอีก

ส่วนที่ จ.เลย 2 ตายายวัย 81 ปี เดินทางไกลกว่า 40 กม. เพื่อมารับเงินที่ธนาคารตั้งแต่เช้า มากัน 2 คน เพื่อมารับเงินคนละ 10,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท จะได้นำเงินไปซื้อข้าวสารและอาหารเก็บไว้กิน

ที่ จ.ศรีสะเกษ ชายพิการ 61 ปี ต้องผิดหวัง เมื่อขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจากบ้าน เพื่อตั้งใจมากดเงินสด 10,000 บาท แต่หลังจากตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารแล้ว ปรากฏว่า ไม่มียอดเงินเข้าบัญชี  เพราะถ้าได้ก็จะนำเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่าย เปิดใจให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า รู้สึกอ่อนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ เพราะได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่แล้ว คงทำได้เพียงรอด้วยความหวัง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0BOEReJIMUQ

คุณอาจสนใจ

Related News