เดือด! ผู้เสียหายยกทัพแฉทอง 'แม่ตั๊ก' ฟาดไม่เห็นมั่นเหมือนในไลฟ์ ยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

โต้กันเดือด กลางรายการ กลุ่มลูกค้าร้านทองแม่ตั๊ก รวมตัวแจ้งความ ระบุ “ทองแท้ยังไงก็คือทองขายที่ไหนก็ต้องขายได้” ไม่ได้โง่แต่มีความศรัทธานับถือเจ้าของร้าน ลั่น “ได้เจอแม่ตั๊กแล้วไม่เห็นมั่นเหมือนในไลฟ์”


จากกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปนำกุหลาบทองคำ และสร้อยคอจี้ไอ้ไข่ทองคำ ที่ซื้อมาจากร้านขายทองออนไลน์ช่องดังในติ๊กต็อก เอาไปขายให้ร้านทอง ทางร้านทองแจ้งกลับมาว่าไม่รับซื้อเพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง ไม่มีใบรับรอง และแทบไม่เห็นเนื้อทอง พร้อมเตือนว่าควรซื้อจากร้านทองที่จับต้องได้ มีความน่าเชื่อถือ มีใบรับประกัน จนกลายเป็นประเด็นร้อน ต่อมาพบว่ามีผู้ซื้อทองในลักษณะนี้จำนวนมาก


เมื่อวันที่ 23 ก.ย.67 ผู้เสียหายเกือบ 10 คน มาออกรายการโหนกระแส ปมซื้อทองของแม่ตั๊ก โดยผู้เสียหาย คุณฝ้าย เสื้อส้ม เล่าว่า เธอซื้อกำไลปี่เซียะ 8 ตัว มาราคา 33,333 บาท


พี่หนุ่มเลยให้ช่างทองออกรายการให้เห็นกันชัด ๆ พบทองเส้นนี้น้ำหนัก 6.38 เธอบอกว่าซื้อเมื่อเดือน ก.ย.ปี 64 ซื้อมาในราคา 33,333 บาท ขณะที่ราคาทองบาทนึงราคา 28,000 แต่ทางร้านคุณตั๊กขาย 33,333 เธอถามว่าเกินไปไหม เกินกว่าเหตุ ซึ่งทางสมาคมได้ตีราคาคร่าว ๆ 99.99% ราคาอยู่ที่ 12,000 บาท ไม่รวมค่าแรง


โดยระหว่างรายการ คุณเบียร์ แฟนคุณตั๊ก เจ้าของร้านทอง ชี้แจงว่าไม่มีเจตนาจะหลอกลวง บางครั้งการขายของก็ทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ยืนยันจะรับผิดชอบ ซึ่งระหว่างที่ชี้แจง จะเห็นว่าสีหน้าคุณฝ้าย แสดงความไม่พอใจสุด ๆ


ขณะที่ คุณสตางค์ ผู้เสียหายอีกคน บอกว่า หลังที่เธอออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ก็มีผู้เสียหายนับพันคนทักมาหาเธอ ว่าโดนหลอกเหมือนกัน เธอจึงถามกลับไปที่คุณเบียร์และคุณตั๊ก ว่าลูกค้าพี่มีแต่คนเป็นรากหญ้า ชื่นชมพี่ บางคนแชตไปหาร้านทองก็ไม่อ่าน เอาไปขายคืนได้เงินร้อยกว่าบาท ก่อนจะท้าว่าจะดูแชตไหมละ


ทั้งนี้ ช่วงท้ายของรายการ คุณเบียร์พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และเยียวยาผู้เสียหายที่มาวันนี้ก่อน เพราะอยากกลับบ้านไปอย่างสบายใจ ผมขอโทษ และจะรับผิดชอบจริง ๆ ซึ่งวันนี้สังเกตท่าทางคุณตั๊กค่อนข้างเงียบ และพูดจาน้อยมาก โดยให้สามีชี้แจงแทน


ขณะที่ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. ระบุว่า ต่อให้มีการเยียวยาแต่สุดท้ายคดีก็ยังไม่จบ เพราะเป็นคดีอาญา ถ้ากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค พิสูจน์ได้ว่าการโฆษณาของเรามีความผิด หากรับเรื่องแล้วก็ดำเนินการถึงที่สุด


หลังจบรายการโหนกระแส กลุ่มลูกค้าที่ซื้อทองจากร้านทองของ แม่ตั๊ก กรกนก แม่ค้าออนไลน์ รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ในข้อหาโฆษณาเกินจริง


ทีมข่าวได้คุยกับ คุณฝ้าย อีกหนึ่งผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตนซื้อปี่เซียะ 8 ตัว เมื่อปี 2564 ในราคา 33,332 บาท ซึ่งในปีนั้นราคาทองบาทละ 28,250 บาท ส่วนตัวจึงคิดว่าส่วนต่าง 4,000 บาท นั้นเป็นค่ากำเหน็จ โดยภายในไลฟ์การขายได้มีการแจ้งว่าปี่เซียะดังกล่าวค่ากำเหน็จสูง แต่ไม่ได้บอกน้ำหนักทองจริงว่ากี่กรัม จึงทำให้ตนคิดว่าได้ทองน้ำหนัก 1 บาทมา


หลังจากสั่งซื้อทางร้านไม่ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม บอกเพียงชื่อสินค้าและราคาที่ต้องจ่าย จนเมื่อได้รับปี่เซียะ ก็พบว่าปี่เซียะบุบที่ก้น ตัวเองจึงพยายามติดต่อโทรหาทางร้าน แต่ร้านไม่รับสาย และได้เดินทางไปหน้าร้านถึง 2 ครั้ง แต่ก็พบว่าร้านปิดทั้ง 2 ครั้ง ตอนนั้นยอมรับว่าไม่ได้ดูใบรับประกัน จนเมื่อปี 2565 ตนเองมีปัญหาด้านการเงินจึงนำปี่เซียะไปขายให้กับร้านทอง จำนวน 4 ร้าน แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ ร้านทองบางร้านแนะนำให้นำไปขายคืนที่ร้านเดิม บางร้านก็ตกใจในราคาที่ซื้อเริ่มต้น และบางร้านก็รับซื้อแค่ 10,000 บาท


มีร้านนึงเห็นทองก็ตกใจ ถามตนว่า “ซื้อมาราคานี้เลยเหรอ” พร้อมแนะนำให้ตนกลับไปขายที่ร้านที่ซื้อมา โดยที่ทองไม่มีสลักหรือตราปั๊มร้านแต่อย่างใด สาเหตุที่ร้านทองหลายร้านไม่รับซื้อเพราะทองไม่มีตราปั๊มเหมือนกับทองปกติที่ขายในร้านทองทั่วไป แม้ว่าแม่ตั๊ก จะอ้างว่ามีของแถมให้ แต่ส่วนตัวไม่ได้ต้องการของแถม และของแถมทางร้านให้เป็นของสมนาคุณเอง หรือต่อให้ของแถมจะมีมูลค่ามากกว่าทอง ทางร้านก็ไม่สามารถเอามารวมในราคาของได้


ในมุมมองตัวเองที่เป็นแม่ค้าเหมือนกัน มองว่าการค้าขายต้องสุจริต ยอมรับว่าไม่มีใครขายของขาดทุน แต่ควรเอากำไรพอควรพองาม เขาอยู่ได้เราอยู่ได้จะได้อยู่ยาว ไม่งั้นคงจบเหมือนเคสนี้


ส่วนตัวไม่กังวลหากอีกฝั่งจะฟ้อง เพราะตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่มองว่าอีกฝั่งสมควรมาขอโทษและไม่ควรฟ้อง ซึ่งหากมีการฟ้องขึ้นมาส่วนตัวเชื่อว่าถูกคนทั้งประเทศตีตราแน่นอน หรือแม้กระทั่งคุณสตางค์ ที่ออกมาตีแผ่อีกฝั่งก็ควรขอโทษ เพราะถ้าหากคุณสตางค์ไม่ออกมาก็ไม่กล้ามีใครออกมาเรียกร้อง และจะดำเนินคดีเอาให้ถึงที่สุด


ตนอยากฝากถึงทุกคนที่ชอบซื้อออนไลน์ว่า อยากให้ทุกการซื้อของที่มีราคาสูง ผ่านกระบวนการคิดให้ได้มากที่สุด หรือไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อออนไลน์ เพราะอย่างกรณีดังกล่าวขนาดร้านค้าที่มีหน้าร้านยังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้ อยากให้ทุกคนรู้ถึงกลการตลาด อย่าไปหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ


คุณฝ้าย ทิ้งท้ายว่า “ทองแท้ยังไงก็คือทองขายที่ไหนก็ต้องขายได้” และ “วันนี้ได้เจอแม่ตั๊กแล้วไม่เห็นมั่นเหมือนในไลฟ์” กลุ่มผู้เสียหายก็ไม่ได้โง่ แต่แค่มีความศรัทธานับถือตัวเจ้าของร้าน เห็นเป็นคนใจบุญจึงอยากสนับสนุนเขา แต่คนขายกลับไม่ซื่อสัตย์กับผู้บริโภค


ด้าน คุณอภินันท์ หรือ คุณสตางค์ คนต้นเรื่องที่ถือดอกกุหลาบสีทองไลฟ์ผ่านติ๊กต็อก เผยว่า ดอกไม้สีทองมาพร้อมจี้ไอ้ไข่และสร้อยข้อมือปะคำ 1 เส้น มาเป็นเซต ตนเองไม่ได้ซื้อแต่ได้รับของขวัญมาจากเพื่อน เก็บไว้ 2 ปี เข้าใจว่าเป็นทองจริงแต่ไม่รู้น้ำหนักเท่าไหร่ ต่อมาตนได้นำไปขาย ซึ่งทางร้านบอกไม่มีเปอร์เซ็นต์ ไม่มียี่ห้อ จึงไม่รับซื้อ ในวันที่ไลฟ์ตัวเองเมาด้วยก็เลยมีการหยิบการ์ดของร้านออกมา ซึ่งตัวเองก็ไม่ทันได้เห็นเหมือนกัน


ตนไม่ได้พูดว่าเป็นทองปลอม และไม่ได้เอ่ยถึงชื่อร้านและเจ้าของร้าน เขาบอกว่าตนเองใส่ร้ายเขา เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วตัวเองก็ไม่กังวลถ้าเขาจะฟ้อง อยากจะฟ้องในประเด็นไหนก็จะตั้งรับเดี๋ยวค่อยไปสู้กัน ทั้งนี้ตนเองไลฟ์เพราะอยากมาเตือนไม่มีเจตนาใส่ร้ายเขา หลังเกิดประเด็นมีคนทักแชตมาหาเยอะมากว่าไปซื้อทองที่ร้านดังกล่าวแล้วเจอลักษณะเดียวกัน


คุณปอนด์ เผยว่า ตนติดตามแม่ตั๊ก ผ่านทางไลฟ์เฟซบุ๊ก ตอนนั้นตนอยากลงทุนทอง เห็นร้านแม่ตั๊ก น่าเชื่อถือ ตอนไลฟ์เห็นเปอร์เซ็นต์ทองเยอะจึงตัดสินใจซื้อทองแบบให้ของขวัญ 15 เซต เก็บไว้ 2 ปี หลังเป็นข่าวตนลองนำไปขาย ทางร้านบอกเหมือนทองเคลือบ และทางร้านยังแถมทองมาให้อีก มากับเซตบอกให้เป็นของขวัญ แต่ไม่ได้บอกเปอร์เซ็นต์หรือน้ำหนัก ตนก็เข้าใจว่าเป็นทองที่มีน้ำหนัก 0.1 หรือ 0.2 กรัม นอกจากนี้ยังมีปี่เซียะที่ซื้อมาเป็นตัว ปี่เซียะที่เป็นกำไลข้อมือและพระ ตนลองเอาพระไปขายไม่มีร้านไหนรับซื้อเลย มันเสียความรู้สึก จ่ายเงินซื้อทองร้านเขาเกือบ 1 แสนกว่าบาท แต่พอเอาไปขายได้ราคาไม่กี่บาท


ตนไม่ได้ระบุเป็นทองปลอม แต่ทางร้านอาจไม่เคลียร์เรื่องน้ำหนักทองให้ชัดเจน ทางร้านน่าจะระบุให้ชัดเจนแล้วชั่งให้ดู ซึ่งมีแค่ใบการันตีที่เขียนด้วยปากกาเท่านั้น บางเซตที่ซื้อมาหลักพันพอนำไปขายจริงได้หลักร้อยบาท แม้กระทั่งสร้อย 18K ที่เขาบอกมีความเหนียว ตนก็ไม่รู้เป็นทองอะไรแต่ในใบการันตีเขียนทอง 18K ตนนำไปขายร้านทองอื่น ทางร้านบอกมันบางมากขายได้แค่ 100 บาท ขณะที่บางคนต้องการจะขายทองคืน แต่คนอื่น ๆ บอกว่าต้องการจะดำเนินคดี สิ่งที่ผู้เสียหายบอกตรงกันก็คือที่ตัดสินใจซื้อทองของร้านนี้เพราะติดตามแม่ตั๊ก ชื่นชอบ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Clc5_hr0I5E