สาวโวยเพื่อนบ้านทำฟาร์มกัญชา ส่งกลิ่นเหม็น-เสียงดัง-บ้านชื้น อาม่าสุดทน จี้ย้ายออกโดยเร็ว

คุณอ้อม มีหญิงสาวรายหนึ่ง ได้ร้องเรียนกับทีมข่าวว่า ข้างบ้านที่เป็นบ้านเช่า มีการทำฟาร์มกัญชา ส่งกลิ่นเหม็น และสร้างเสียงดัง หนำซ้ำทำให้ผนังกำแพงที่ใช้ร่วมกันเกิดความชื้น เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินโป่งพอง และปลวกขึ้น  

คุณอ้อม เล่าว่า เธอพักอาศัยอยู่ย่านพระโขนง ข้างบ้านเป็นบ้านเช่า และผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว ปลูกฟาร์มกัญชาโดยตั้งแต่ผู้เช่ารายนี้เข้ามาเช่าบ้านเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เริ่มติดตั้งอุปกรณ์ ขนถังก๊าซออกซิเจนเข้ามา ทำให้บ้านของเธอที่มีกำแพงติดกัน เริ่มได้ยินเสียงสั่นสะเทือนมาตามผนัง-โครงสร้างกำแพง

จนปลายเดือนเมษายน ผนังกำแพงบ้านฝั่งที่ใช้ร่วมกัน ก็เกิดความชื้นมากกว่าปกติ และทำให้ตู้เสื้อผ้าไม้แบบบิ้วท์อินโป่งพอง มีปลวกกินตู้เสื้อผ้า ตอนแรกก็ยังไม่ได้รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่มารู้ทีหลังว่า มีความชื้นมาจากผนังบ้านฝั่งที่ติดกับบ้านเช่า หลังจากนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างบ้านตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหนักที่สุดคือ 'เรื่องกลิ่น' โดยเริ่มมีกลิ่นเหม็นลอยมาจากข้างบ้านในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน กลิ่นแรงมากแบบตลบอบอวล ลอยเข้าบ้านคนในละแวกนี้ ทั้งบ้านของเธอเอง และบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านเช่าต้นเหตุ ประมาณ 5-6 หลัง ซึ่งมีทั้งเด็ก และคนแก่ อาศัยอยู่ ทุกบ้านต้องพากันปิดประตูหน้าต่าง เปิดเครื่องฟอกอากาศ จากเดิมที่ช่วงเย็นจะมีคนในซอยมาเดินออกกำลังกาย เด็ก ๆ มาเล่นหน้าบ้าน ทำกิจกรรมต่าง ๆ กัน แต่ตอนนี้ ไม่มีใครออกมาแล้ว เพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงมาก

คุณอ้อม เล่าว่า ตอนที่ผู้เช่าบ้านข้าง ๆ เริ่มย้ายเข้ามา ทุกคนในซอยยังไม่รู้ว่าทำกิจการอะไร แต่พอเห็นว่ามีการห่อฟอยด์ มีถังออกซิเจน ก็เลยสอบถามไปที่เจ้าของบ้านเช่า ซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่ง ทางเจ้าของบ้านบอกว่า ผู้เช่ามาทำโชว์รูมปลูกกัญชาออร์แกนิค เพื่อให้ลูกค้ามาเดินดูว่าปลูกยังไง ซึ่งมีฟาร์มใหญ่อยู่ที่ จังหวัดปทุมธานี

ที่ผ่านมา ตอนช่วงที่ได้รับผลกระทบเยอะ ๆ ประมาณเดือนเมษายน ก็ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่เขตพระโขนง ก็ทำได้เพียงแจ้งเหตุเดือดร้อนรำคาญ ที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสำนักงานเขตพระโขนง

แต่พอเข้าเดือนพฤษภาคม สำนักงานเขตก็มาตรวจในบ้านเช่า แต่ก็เงียบหายไป จนชาวบ้านต้องไปทวงถาม เนื่องจากชุมชนทนไม่ไหวแล้ว

ทั้งนี้ รายงานการตรวจสอบจากสำนักงานเขตพระโขนง พบว่า การปลูกกัญชาที่บ้านเช่าหลังนี้ ไม่มีการป้องกันผลกระทบกับเพื่อนบ้าน ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่แค่โชว์รูมแล้ว

อีกอย่าง ตรงนี้เป็นที่พักอาศัย เป็นเขตชุมชน ไม่ควรอนุญาตให้เข้ามาทำฟาร์มปลูกกัญชาแบบนี้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชน และผู้อยู่อาศัยอื่น ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

คุณอ้อม ยังกล่าวถึงแนวทางแก้ไข ที่มองว่ามันอยู่ผิดที่ผิดทางตั้งแต่แรก มันไม่ควรมาอยู่ในชุมชน ที่ผ่านมา ตนเดือดร้อนมาก บางครั้งวันหยุดต้องหนีไปพักต่างจังหวัด เพราะอยู่บ้านแล้วได้ยินเสียงดังตลอด 24 ชั่วโมง กลิ่นก็เหม็นตลอดเวลา มันทำให้เครียดมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานเขตได้เข้าไปตรวจสอบ และทำเอกสารชี้แจงมาที่ผู้ร้องเรียน โดยการแก้ปัญหาทางกลิ่น ได้นำม่านพลาสติกที่มีแม่เหล็กดูดมาติดตั้ง เพื่อป้องกันกลิ่น

ส่วนเรื่องเสียง มีการนำแผ่นกระดาษเคลือบโฟม 3 มิติ มาติดที่กำแพง ส่วนการแก้ไขเรื่องสั่นสะเทือน มีการนำแผ่นยางมาติดตั้งที่ใต้ฐานรองขาของชั้นปลูก นำมาวางใต้เครื่องลดความชื้น และใช้แผ่นฟองน้ำนำมาติดกับพัดลมผนัง และพัดลมแบบอินไลน์

ทีมข่าวได้พูดคุยกับอาม่า ที่อยู่บ้านละแวกใกล้เคียง ก็บอกว่า กลิ่นแรงมาก เวลาออกมาเดินข้างนอกก็ทนไม่ไหว เวียนหัว น้ำตาไหล คอแห้ง บางทีเวียนหัวแบบอยากจะอาเจียน

ที่ผ่านมา หน่วยงานก็แก้ไม่ได้เลย อยากถามว่า ทำไมถึงแก้ไม่ได้ มันสมควรจะแก้ได้แล้ว อยากบอกกับคนที่เช่าว่า ย้ายออกไปเร็ว ๆ เลย และเมื่อประมาณสามเดือนก่อนหน้านี้ ทางคนที่เช่าบ้านทำฟาร์มกัญชา ได้เอาหนังสือมาให้อาม่าเซ็น และบอกว่าอีกหนึ่งเดือนจะย้ายออก เลยถามกลับไปว่าถ้าจะออก ทำไมจะต้องให้เซ็น ก็ออกไปเลย แแต่อาม่าก็ไม่รู้ว่าเอกสารที่เอามาให้เซ็นคือเอกสารอะไร หรือมีเป้าหมายอะไร และจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ย้ายออกไป ตนอยากบอกว่า ที่นี่ไม่ต้อนรับ ที่นี่มีคนแก่อาศัยอยู่ มีเด็กอยู่หลายคน และได้รับผลกระทบอย่างหนัก

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/cafCeSoTfv8