คลิปชัด กระบะปีนเกาะกลางกลับรถ จยย.มาทางตรงพุ่งชนสนั่น พลเมืองดีเดือด คนขับไม่ไปดูคนเจ็บ

กระบะกลับรถเกาะกลางถนน จยย.มาทางตรงเบรกไม่ทันชนเข้าอย่างจัง บาดเจ็บหนัก คางแตก-ข้อมือขวาหัก พลเมืองดีเล่านาทีเข้าไปช่วย บอกคนขับกระบะคล้ายมึนเมา สุดงงจิตใจทำด้วยอะไร คนเจ็บอยู่ตรงหน้า แต่ไม่ถามไถ่อาการ - ด้านผกก.บางขุนเทียน เผย สอบปากคำแล้ว ปัดตอบเมาหรือไม่ ชี้ให้ดูตามคลิป สั่งตรวจเลือดหาปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว แจงปมไม่เป่าในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคนขับกระบะบาดเจ็บต้องไป รพ.  จ่อแจ้ง 2 ข้อหา

กลางดึก วานนี้ (14 ส.ค. 67) เวลา 00.30 น. คุณเบ๊น อาปาเช่ โพสต์คลิปอุบัติเหตุ รถกระบะคันหนึ่ง ขับรถข้ามเกาะกลางถนน เพื่อจะข้ามไปยังเลนฝั่งตรงข้าม ทั้งที่ตรงจุดนั้นไม่ใช่ที่กลับรถ ทำให้ จยย.ที่ขับมาด้วยความเร็ว ชนเข้ากับรถกระบะอย่างจัง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนกัลปพฤกษ์

ขณะที่ คลิปอีกมุม พลเมืองดีที่เหตุการณ์ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายไว้ พร้อมอธิบายในคลิปว่า “อยากรู้ว่าวิธีกลับรถแบบนี้จะข้ามได้ไหม” ยังไม่ทันสิ้นเสียงนี้ ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เห็นนาทีที่จักรยานยนต์ที่มาทางตรงพุ่งเข้ากลางลำกระบะฝั่งซ้ายอย่างจัง ส่งผลให้ จยย.พังยับ และคนขี่ จยย.ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่พลเมืองดีจะโทรเรียกกู้ภัยนำส่ง รพ.

หลังเกิดเหตุ พลเมืองดีรายนี้  อัดคลิปตั้งคำถามว่า คนขับกระบะเมาหรือไม่  ข้ามมาได้อย่างไร เพราะอีกกิโลเดียวก็จะถึงจุดกลับรถแล้ว แถมหลังเกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีไปเรียกคนขับกระบะให้มาดูคนเจ็บ แต่ไม่ยอมลงมา  

ทีมข่าวได้คุยกับพลเมืองดีรายนี้ คือ คุณภัณฑิลา ชูธรรม อายุ 28 ปี และ คุณวิวรรธน์วงค์ สลุงใหญ่ อายุ 26 ปี ทั้งสองเล่าว่า ตอนนั้น เพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน  ซึ่งสังเกตเห็นอยู่ก่อนแล้วว่า รถกระบะคันนี้ขับรถแปลก ๆ ปีนฟุตบาตตั้งแต่ออกจากปั๊มแล้ว ก่อนจะเห็นเขาขับรถแบบเดินหน้า และถอยหลังอยู่กลางถนน จึงบอกให้แฟนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายไว้

ปรากฏว่า คนขับรถกระบะได้พุ่งข้ามเกาะกลางไปทันที ซึ่งตอนนั้นก็เห็น  จยย.กำลังขับมาพอดี คิดในใจว่าชนแน่ ๆ ก่อนวิ่งเข้าไปช่วย

พอไปถึงจุดเกิดเหตุ ตอนนั้น เห็นคนเจ็บที่ขี่ จยย.คางแตก และข้อมือขวาหัก นอนตาลอย ตาค้างแล้ว พวกตนพยายามเรียกสติ แต่เขาตอบสนองได้แค่พยักหน้า จึงรีบแจ้งกู้ภัยนำส่ง รพ.

ทั้งสองบอกว่า สิ่งที่ติดใจมาก ๆ เลยคืออยากรู้ว่า อีก 1 กม.เท่านั้น ก็จะถึงจุดกลับรถแล้ว ทำไมไม่ไปกลับรถตรงจุดนั้น  และหลังเกิดเหตุคนขับกระบะไม่เดินไปดูคนเจ็บเลย คุยแต่โทรศัพท์

เมื่อพยายามถามว่า เมาหรือเปล่า แต่เขาไม่ตอบ  และมีชาวบ้านที่เดินผ่านมาดูเหตุการณ์บอกว่า เดินผ่านคนขับกระบะ ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มรถ  แถมคนขับกระบะดูมึน ๆ งง ๆ ไม่รู้เมาเหล้าหรือเมาอะไรหรือไม่

พลเมืองดีทั้ง 2 เล่าต่อว่า หลังเกิดเหตุ ญาติคนเจ็บได้ไปแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียน พร้อมถามตำรวจว่า ทำไมถึงไม่จับคนขับกระบะเป่าแอลกอฮอล์ ทำไมปล่อยกลับไป ตำรวจพูดกับญาติว่าตรวจทำไม ยังไงก็ผิดอยู่แล้ว

นอกจากนี้ จังหวะที่แม่ของคนเจ็บไปโรงพัก ได้เจอกับแม่ของคนขับกระบะ จึงได้สอบถามแม่ของคนขับกระบะว่า เมาหรือเปล่า ได้รับคำตอบว่า “ไม่เมา แค่เบลอเพราะว่านายเรียกออกไปขับรถตั้งแต่ตี 3”  จึงบอกไปว่าเบลอขับไม่ไหว ควรจอดรถนอนหรือไม่”

ส่วนอาการล่าสุดของคนเจ็บตอนนี้ ทราบว่า อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนสมองเอกซเรย์แล้วไม่ได้รับกระทบกระเทือน สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว แต่เท่าที่คุยกับญาติคนเจ็บล่าสุด คนขับรถกระบะยังไม่มีการไปเยี่ยมหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด

พ.ต.ท.กฤติเดช จันทร์เพชร ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน ได้ชี้แจงประเด็นที่ไม่ได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุว่า หลังเกิดเหตุ ตัวผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ จึงถูกนำส่งโรงพยาบาล และได้ให้แพทย์ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ และสารเสพติด ในร่างกายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลจากแพทย์ ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้

เบื้องต้น เข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย กับผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยวานนี้ (14 ส.ค. 67) พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และปล่อยตัวกลับเรียบร้อยแล้ว

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8-5pvW1DbnU