แท็กซี่เผยปมฟิวส์ขาด ฟันหัวผู้โดยสารสาว อ้างโดนดูถูก-ปาเงินใส่ หากย้อนเวลาได้ จะไม่ทำแบบนี้

แท็กซี่หัวร้อนเข้าพบตำรวจ หลังใช้มีดฟันหัวผู้โดยสารสาวบาดเจ็บสาหัส ไม่พอใจเมาแล้วอาเจียนใส่ถุงขณะอยู่บนรถ จ่ายค่าเสียหายแค่ 200 แล้วปิดประตูเสียงดัง เจ้าตัวยอมรับ มีปากเสียงจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ อ้างถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ทั้งปาเงินใส่หน้า ดูถูกว่าขับแท็กซี่ ประกอบกับเครียดเรื่องครอบครัวและหนี้สิน ส่วนมีดมีไว้ป้องกันตัว หากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ทำแบบนี้ อยากไปขอโทษผู้เสียหายที่โรงพยาบาล

กรณีที่น้องสาวผู้เสียหาย พร้อมเพื่อน เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ สายไหมต้องรอด ว่าพี่สาวถูกแท็กซี่ใช้มีดดาบฟันหัวจนอาการสาหัส เลือดคั่งในสมอง กะโหลกร้าว เพียงเพราะเถียงกันเรื่องค่าเสียเวลาหลังพี่สาวเมา และอาเจียนใส่ถุงพลาสติก แต่โชเฟอร์แท็กซี่ไม่พอใจร้องเรียกขอค่าเสียหาย จนมีการโต้เถียงกัน และทำร้ายร่างกาย

โดยมีคลิปเหตุการณ์หลังผู้เสียหายอาเจียนในรถ ซึ่งมีการโต้เถียงกัน ในคลิปจะได้ยินผู้โดยสารโวยวายว่าในรถมันเปรอะหรือยัง มันยังไม่ได้เปรอะเลย ขณะที่คนขับบอกว่าตนเพิ่งเช็ดรถมา งั้นจ่ายเงินมาเลย โดยในคลิปจะได้ยินเสียงไม่ชัดว่า (300 หรือ 500 บาท) ส่วนทางกลุ่มผู้เสียหายบอกว่ามันไม่ถึงทำให้คนขับบอกว่าจะไม่จ่ายค่าอ้วกเลยหรอ เยอะไปเปล่า

ก่อนที่แท็กซี่รายนี้ก็พูดต่อว่า งั้นก็จ่ายค่าอ้วกมา 200 พอจ่ายเสร็จกลุ่มผู้เสียหายก็ปิดประตูรถ หลังจากนั้นไม่นาน แท๊กซี่ก็ลงมาจากรถพร้อมมีดดาบ และฟันมาที่ผู้เสียหาย ในคลิปจะได้ยินเสียงการฟันอยู่ 2-3 ครั้ง จากนั้นแท็กซี่ก็ขับรถหนีไป

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (12 ส.ค.) โชเฟอร์แท็กซี่ ได้เดินทางขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ภายหลังตำรวจได้ประสานผ่านญาติ ขอให้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ หากไม่มาจะดำเนินการออกหมายเรียก โดยทันทีที่มาถึง โชเฟอร์แท็กซี่ ได้สวมหมวก สวมหน้ากากอนามัย ปิดบังหน้าตา และเดินเข้าห้องสอบสวนไปทันที ไม่ได้พูดอะไรกับผู้สื่อข่าว

จากนั้น เวลา 13.30 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดยได้เข้าไปพูดคุยกับโชเฟอร์แท็กซี่ ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้น โชเฟอร์ยอมรับว่า มีปากเสียงกับผู้เสียหายและเพื่อนๆ ตั้งแต่ในรถจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ จุดแตกหักคือ เมื่อเพื่อนของผู้เสียหาย โยนเงิน 200 บาท ใส่หน้า ทำให้รู้สึกโดนดูถูก ประกอบกับเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวและปัญหาหนี้สิน ทั้งภรรยาใกล้คลอด ลูก 2 คนกำลังเรียนหนังสือ โทรศัพท์มาขอเงิน ซึ่งตนไม่มีเงินให้ อีกทั้งยังค้างค่าบ้าน แล้วถูกเจ้าของอู่แท็กซี่โทรมาทวงค่ารถ จึงเครียดหนัก เมื่อมาเจอเหตุคนเมาแล้วอ้วก จึงไปกันใหญ่ หากย้อนเวลากลับไปคงไม่ทำอะไรรุนแรงถึงขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ

ส่วนที่นำมีดดาบมาไว้ในรถก็เพราะต้องการเอาไว้ป้องกันตัว เผื่อเกิดเหตุตอนวิ่งรถกลางคืน แต่หากย้อนเวลาได้ก็จะไม่พกไว้ เพราะถ้าไม่มีมีด ถึงจะบันดาลโทสะ ก็จะทำร้ายผู้โดยสารไม่ได้ และอยากจะไปขอโทษผู้เสียหายที่โรงพยาบาลด้วย

ด้าน พันตำรวจโทชุติพนธ์ ตระกรุดทอง รองผู้กำกับสอบสวน สน.สุทธิสาร ระบุว่า เบื้องต้น พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุเข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้อาวุธและ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่จะเข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่ ต้องรอผลตรวจจากแพทย์ก่อน ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนระบุว่า ผลการตรวจจากแพทย์จะออกในวันนี้ (13 ส.ค.)

ต่อมา เวลา 14.30 น. ภายหลังให้ปากคำแล้วเสร็จ โชเฟอร์แท็กซี่ได้เดินทางกลับทันที โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่โชเฟอร์แท็กซี่บอกว่าได้เล่าให้นายเอกภพฟังไปหมดแล้ว หากย้อนเวลาได้ตนจะไม่ทำแล้ว 2 วันที่ผ่านมา ตนเครียดจนไม่ได้กินข้าว เมื่อถามว่าถูกผู้โดยสารดูถูกหรอ โชเฟอร์แท็กซี่ตอบว่าเยอะมากและโดนปาเงินใส่หน้าด้วย และเมื่อถามว่าตอนนี้หายเครียดหรือยัง โชเฟอร์ตอบว่าไม่เครียดแล้ว โดยหลังจากให้ปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปพบผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และรอเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง

ทั้งนี้ หลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุนานกว่า 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่จะนัดหมายมาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง หลังผลการตรวจบาดแผลและผลจากความเห็นของแพทย์ส่งกลับมา จึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AkssuMUSCtk