สังคม

ทนายความ เข้าเยี่ยม “เสี่ยโป้” หลังร้องกระทรวงยุติธรรม เชื่อมีตัวการใหญ่คอยบงการ

โดย thanaporn_s

2 ส.ค. 2567

94 views

วันที่ 2 ส.ค. 2567 ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ "นายเสี่ยโป๊ โป๊อานนท์" เดินทางมาเยี่ยมนายเสี่ยโป้ ที่เรือนจำกลางบางขวาง เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ และสถานการณ์ภายหลังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงกระทรวงยุติธรรมและกรณีที่ถูกลอบทำร้าย โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมนานกว่า 1 ชั่วโมง

ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่องซึ่งหลังทนายความยื่นหนังสือร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรมแล้ว ทางกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์กับนายเสี่ยโป้ ภายในเรือนจำฯ และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีของอาวุธที่พบว่าคล้ายเหล็กแหลม 2 ด้ามที่ นักโทษคือนายภิญโญ จะใช้แทงนายเสี่ยโป้ แต่ได้รับการช่วยเหลือและห้ามปรามกันก่อนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ตนเองยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เวลาประมาณ 10.00น. วันที่ 23 ม.ค. ขณะนั้น นายเสี่ยโป้เขียน กำลังเขียนคำร้องเรื่องการรักษาอาการป่วยอยู่ที่ห้องเจ้าหน้าที่ แล้วปรากฎว่ามีผู้ต้องขัง 7-8 คน เข้ามาทำร้าย หนึ่งในนั้นคือนายภิญโญ ที่พยายามใช้เหล็กแหลม 2 ด้ามเข้ามาแทงแต่หลบได้และได้รับการช่วยเหลือทัน


ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นปัญหากับผู้มีอิทธิพลภายในเรือนจำกลางบางขวาง ที่มีลักษณะของกลุ่มกระบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นนักโทษมีการเขม่นกันภายในเรือนจำ และพยายามจะมาขอความช่วยเหลือให้นายเสี่ยโป้ช่วยพูดคุย เจรจาไกล่เกลี่ยให้ ช่วยเคลียร์พูดคุยให้ แม้นายเสี่ยโป้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องค้ายาเสพติด ซึ่งเสี่ยโป้ ไม่อยากมีเรื่องเพิ่มจึงปฏิเสธไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะต้องการอยู่ในเรือนจำอย่าสงบเพื่อรอศาลตัดสิน เนื่องจากอยู่ระหว่างการสู้อุทธรณ์ พอไม่ให้การช่วยเหลือสุดท้ายก็ถูกหาเรื่อง


ทั้งนี้ยังทำให้ทราบข้อมูลอีกว่า กลุ่มมนักโทษ 7-8 คน ที่เข้ามารุมทำร้าย รวมถึงตัวนายภิญโญ ยังไม่ใช่ตัวใหญ่ แต่ก็อยู่ในกลุ่มของผู้มีอิทธิพลของกลุ่มที่เป็นขบวนการค้ายาเสพติด และนายภิญโญ ก็ไม่ใช่ซามูไร เพราะเท่าที่ทราบซามูไร มี 2 คน คือนักโทษชาวจีน ที่ตอนนี้ถูกย้ายไปอยู่เรือนจำกลางเขาบินแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ส่วนอีกคนอีกคนชื่อนายตั้ม ถูกย้ายไปอยู่ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแล้ว


ซึ่งทั้งหมดที่เข้ามารุมทำร้ายนายเสี่ยโป้ เป็นนักโทษเด็ดขาดของคดียาเสพติด และทั้งหมดที่เข้ามารุมทำร้ายขณะนั้น อยู่แดน 10 ด้วยกันทั้งหมด ไม่ได้มีการเดินข้ามแดนมา จากเดิมที่บอกว่า อยู่แดน 2 นั้น เป็นช่วงแรกของนายภิญโญก่อนจะถูกย้ายมาแดน 10 และนอกจาก 7-8 คน ที่เข้ามารุมทำร้ายแล้ว นายเสี่ยโป้ยังบอกว่า มีตัวบงการใหญ่ หรือ มาสเตอร์มาย อีก 1 คน ปัจจุบันถูกย้ายแดนไปแล้ว และเท่าที่สอบถามนายเสี่ยโป้ บอกว่า ตัวบงการในวันเกิดเหตุ มีลักษณะมายืนดูแต่ไม่ได้ทำอะไร


ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาให้การดูแลอย่างดีขึ้น และไม่มีใครเข้ามาหาเรื่อง ซึ่งส่วนในแดน10 หลังจากที่ทนายความได้ไปร้องเรียนก็ได้รับการดูแลที่เข้มงวดขึ้นด้วย / ส่วนความกังวลใจของเสี่ยโป้นั้น ทนายความบอกว่า จากการพูดคุย นายเสี่ยโป้ ยังกังวลเรื่องสิทธิการแยกขัง ที่ไม่อยากถูกคุมขังกับนักโทษเด็ดขาด เพราะขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่มีการแยกระหว่างนักโทษระหว่างรอการพิจารณาดีและนักโทษเด็ดขาด


แต่เสี่ยโป้นอนห้องนอนเดียวกับนักโทษระหว่างรอการพิจารณาคดี แต่ยังต้องทำกิจกรรมและอยู่ร่วมกันอยู่ ส่วนความกังวลเรื่องความปลอดภัย คงไม่มีแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดีขึ้น และทนายความยืนยันได้ว่า เสี่ยโป้มีหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาอยู่ที่ตัวจริง และหลักฐานที่ถูกลอบทำร้าย แต่ยังอยู่ระหว่างการพยายามส่งให้ทนาย แต่ยังส่งมาไม่ได้ ทั้งนี้มั่นใจว่าคงไม่ถูกทำลายหลักฐานเพราะในเรือนจำมีกล้องจรปิดทั้งหมด

ทั้งนี้ทนายความเอง ก็ต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย เพราะคดีทำร้ายร่างกาย อยู่ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี ก่อนจะเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ เสี่ยโป้ ยังฝากเกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติต่อตัวเขาและนักโทษคนอื่นๆ อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วย เพราะนายเสี่ยโป้ ได้ให้ข้อมูลกับทนายความว่า มีฝ่ายบังคับบัญชา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ กลั่นแกล้งนักโทษ ทั้งการทรมานจิตใจนักโทษ และให้สิทธิกับนักโทษไม่ดีพอ นายเสี่ยโป้จึงฝากมาบอกว่า ถ้ามีญาติผู้ต้องขังในแดน 10 ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ติดต่อมาได้ตนเองยินดีช่วยเหลือ


คุณอาจสนใจ

Related News