สังคม

ตร.ไทยช่วยสำเร็จ นศ.จีน ถูกแก๊งคอลฯจีน มัดมือ-เท้า ส่งคลิปเรียกค่าไถ่พ่อแม่ 15 ล้าน

โดย nattachat_c

31 ก.ค. 2567

31 views

พอแม่ชาวจีนช็อก หลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งคลิปตรงจากไทย ลูกสาวถูกปิดตา มัดมือมัดเท้า เรียกค่าไถ่ 3 ล้านหยวน (ราว 15 ล้านบาท) บินด่วนมาไทยให้ตำรวจช่วย ใช้เวลาแค่ 1 วัน สืบสวนจนช่วยหญิงชาวจีนได้สำเร็จ

วานนี้ (30 ก.ค. 67) เวลา 21.00 น. ที่สถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการประชุมทีมสอบสวน พร้อมกับสอบปากคำผู้เสียหาย ภายหลังจาก นางสาวณปภัช นพเศรษฐการ ผู้รับมอบอำนาจจาก MR.LUI HUAILIANG สัญชาติจีน มาแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 06.50 น. ขณะที่ MR.LUI HUAILIANG ซึ่งเป็นบิดาของ MISS WANG JIABAO อยู่ที่ประเทศจีน ได้รับข้อความทางวีแชตจากคนร้าย เป็นชายไม่ทราบชื่อ ได้โทรศัพท์แจ้งว่า ต้องการเงินจำนวน 3 ล้านหยวน (15 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการปล่อยตัว MISS WANG JIABAO อายุ 21 ปี บุตรสาว แต่ทาง MR.LUI HUAILIANG ยังไม่โอนเงินให้ พร้อมกับแจ้งว่า จะไปแจ้งความเรื่องคนหาย ซึ่งทางคนร้ายได้แจ้งว่าหากแจ้งตำรวจจะไม่ได้เห็นหน้าบุตรสาวอีก


หลังจากนั้น MR.LUI HUAILIANG ได้โทรศัพท์ไปแจ้งความที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่บุตรไปเรียนอยู่ ทำให้ทราบว่าบุตรสาวได้เดินทางมาที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้น MR.LUI HUAILIANG จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ประเทศจีน และได้มอบอำนาจให้นางสาวณปภัช นพเศรษฐการ เพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกัน มาแจ้งความที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งไว้


จากนั้นได้ประสานขอดูกล้องวงจรปิด กับศูนย์กล้องวงจรปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจากการดูกล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 15.04 น. MISS WANG JIABAO ได้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้ผ่านช่องตรวจคนเข้าเมือง


หลังจากนั้น ได้เดินไปฝากกระเป๋าที่ร้านรับฝากกระเป๋าชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร ต่อมา เวลาประมาณ 16.03 น.ได้เดินไปขึ้นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน 1มค 685 กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณชั้น 1 ช่องจอดที่ 23

จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้เดินทางไปประสานขอรายชื่อพร้อมเบอร์โทรกับทางผู้ให้บริการศูนย์แท็กซี่ที่บริเวณชั้น 1 ทำให้ทราบชื่อผู้ขับ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้ขับรถแท็กซี่


คนขับแท็กซี่ ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ MISS WANG JIABAO ขึ้นรถแท็กซี่ ได้ส่งโทรศัพท์มือถือให้ดูโดยให้ไปส่งตามสถานที่ที่มีการปักหมุดไว้ ซึ่งเป็นซอยเกษมสันต์ 2 ย่านมาบุญครอง ใกล้กับสนามกีฬาแห่งชาติ จึงได้ไปส่งบริเวณท้ายซอยซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ จิม ทอมป์สัน


ต่อมา เวลาประมาน 18.10 น. MISS WANG JIABAO ได้เดินทางออกจากพิพิธภัณฑ์ จิม ทอมป์สัน (หลังจากแวะเข้าไปซื้อหมวกและผ้าพันคอ) และทำการเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้น โดยไปขึ้นรถ 3 ล้อรับจ้าง (ตุ๊กตุ๊ก) ทะเบียน สก 2427 กทม. ที่บริเวณปากซอยเกษมสันต์ 3 ย่านมาบุญครอง เพื่อเดินทางไปที่ตลาดนัดสวนจตุจักรประตู 28


ต่อมาวันที่ 30 ก.ค.67 เวลาประมาน 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรปราการสืบทราบว่า MISS WANG JIABAO พักอาศัยอยู่ที่คอนโดย่านสุขุมวิท 81 ชั้น 3 ห้อง 23 จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่า MISS WANG JIABAO พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักดังกล่าว ปลอดภัยดี ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย หรือได้รับบาดเจ็บเเต่อย่างใด จึงนำตัวไปพบญาติก่อนนำตัวมาสอบสวน


นางสาวณปภัช นพเศรษฐการ เพื่อนร่วมธุรกิจของพ่อผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้เสียหายเป็นชาวจีน ที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกว่าเป็นตำรวจจีน บอกว่าผู้เสียหายกระทำผิดกฏหมายในประเทศจีน ก่อนที่จะออกอุบายขอตรวจสอบบัญชี และหลอกให้โอนเงินหลายครั้ง เป็นจำนวนกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายก็ไปโกหกขอเงินแม่เพราะกลัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงบอกแม่ว่าเป็นเงินค่าโปรแกรมที่เรียน


แล้วแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังหลอกให้ผู้เสียหายเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาที่ไทย โดยบอกว่าจะช่วยในเรื่องคดีให้เบาลง ส่วนภาพในคลิปนั้น น้องผู้เสียหายก็เป็นคนทำเอง เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ทำ เพื่อนำคลิปไปขู่เรียกเงินกับครอบครัวผู้เสียหาย จำนวน 3 ล้านหยวน (15 ล้านบาท) แต่ครอบครัวน้องยังไม่ได้โอนให้คนร้าย เพราะเจ้าหน้าที่สามารถตามตัวน้องเจอก่อน

-------------

ด้าน พันตำรวจเอก จักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายคือนักศึกษาชาวจีน ที่เรียนอยู่ในประเทศญี่ปุ่น แล้วถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่คาดว่าน่าจะเป็นชาวจีนด้วยกัน ใช้อุบายหลอกลวงที่ประเทศญี่ปุ่นให้มาที่เมืองไทย หลอกให้ทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่


พอได้ภาพมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เอาภาพส่งให้ผู้ปกครองที่อยู่ประเทศจีนเพื่อข่มขู่เรียกเงิน เมื่อผู้ปกครองรู้ข่าวก็ได้ติดต่อให้เพื่อนคนไทยที่ทำธุรกิจร่วมกัน ช่วยเดินเรื่องแจ้งความให้


หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ก็รีบดำเนินการสืบสวนทันที ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าน้องเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นคนเดียว ส่วนที่น้องต้องทำตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เพราะว่ากลุ่มคนร้ายนั้น มีจิตวิทยาในการหลอกล่อ จนน้องเขาเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง


ส่วนการที่คนร้ายเรียกเงินจำนวน 3 ล้านหยวน นั้น ผู้เสียหายยังไม่ได้โอนให้ เพราะทางตำรวจไทยไปติดตามตัวเจอก่อน ส่วนเป้าหมายของแก๊งนี้ก็จะเป็นนักศึกษาที่ไปเรียนที่ต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ก็จะมีคดีในลักษณะนี้ ที่ถูกหลอกมาจาก ออสเตรีย นิวซีแลน แคนดา และ ญี่ปุ่น

----------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3cSQJWmYOMM


คุณอาจสนใจ

Related News