พ่อค้าหมึกย่าง อ้างเครียดขายของไม่ดี ต่อยเทศกิจสั่งให้ย้ายรถ เมืองพัทยาเอาเรื่องถึงที่สุด

พ่อค้ารถพ่วงขายปลาหมึกย่าง ฉุนเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา หลังเตือนให้ขยับรถเพราะกีดขวางการจราจร ชกต่อยใบหน้า จนท.เทศกิจ อ้างเครียด ขายของไม่ค่อยดี ด้าน จนท.ไม่เอาความ แต่เมืองพัทยายันต้องดำเนินคดี เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

จากกรณี เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 67 เวลา 20.00 น. ขณะที่ นายอุดร วรนาม เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา กำลังออกปฏิบัติหน้าที่กวดขันผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ บริเวณชายหาดจอมเทียน ซึ่งได้พบพ่อค้ารถพ่วงขายปลาหมึกย่าง จอดรถขายสินค้าโดยกีดขวางการจราจร นายอุดรจึงตักเตือน และแจ้งให้พ่อค้าปลาหมึกย่าง ขยับจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากที่เกิดเหตุ ทำให้พ่อค้ารายนี้ไม่พอใจ เกิดอาการคลุ้มคลั่ง โวยวาย ด่าทอ และทำร้ายร่างกาย ชกต่อยบริเวณใบหน้านายอุดร จนได้รับบาดเจ็บ โดยนายอุดรถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุไว้ด้วย

ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายอุดร ได้ไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อตรวจร่างกาย พร้อมนำคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

-------------

ความคืบหน้า วานนี้ (29 ก.ค.) เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้เชิญตัว นายศิวเชษฐ์ นาคำ อายุ 42 ปี พ่อค้าปลาหมึกย่างคนดังกล่าว มาปรับความเข้าใจกับคู่กรณีคือ นายอุดร วรนาม อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา และสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

โดย นายศิวเชษฐ์ พ่อค้าปลาหมึกย่าง ยอมรับว่า เป็นบุคคลในคลิปจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ต่อยเจ้าหน้าเทศกิจ เป็นแค่เพียงการต่อว่า และกระชากเสื้อเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ทำไปนั้น เกิดจากความเครียด ที่ขายของไม่ค่อยดี มีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ เมื่อเจ้าหน้าที่จะมาจับกุม จึงเกิดการปะทะคารมกันขึ้น และยังอ้างว่า ตนเองเคยทำงานเกี่ยวข้องกับข้าราชการแขวงการทางจังหวัดปราจีนบุรีมาก่อน ไม่คิดที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบอย่างแน่นอน

เบื้องต้น นายศิวเชษฐ์ พ่อค้าปลาหมึกย่าง ได้ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวขอโทษขอโพยกับพฤติกรรมไม่ดีที่กระทำลงไป ซึ่งนายอุดรก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่องเอาราว แต่ขณะที่ต้นสังกัดคือ 'เมืองพัทยา' ยืนยันจะต้องดำเนินคดี เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

นอกจากนี้ นายอุดร ยังฝากเตือนพ่อค้า แม่ค้า ให้ใจเย็น ควบคุมสติอารมณ์ และจำหน่ายสินค้าในที่ที่เหมาะสม เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

-------------

ในวันเดียวกัน เวลา 20.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุม กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าบนถนนหลวง ทางเท้า ทางสาธารณะ ในพื้นที่เมืองพัทยา

หลังจากได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งในเรื่องการจอดรถพ่วงซาเล้งกีดขวางทาง ตั้งสิ่งของบนทางเท้า ทำให้ไม่สามารถเดินสัญจรบนฟุตบาทได้

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปถึงช่วงบริเวณทางโค้งด้านหน้า สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล พบพ่อค้าแม่ค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้โดยสะดวก โดยที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบแต่อย่างใด

ระหว่างที่ เจ้าหน้าที่นำกำลังไปล้อม และแสดงตัวเพื่อจับกุม กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าก็พากันเร่งเครื่องรถซาเล้ง ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ และไม่สนใจว่านักท่องเที่ยวที่ยืนรอซื้อสินค้าจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพื่อต้องการหลบหนีการจับกุมในครั้งนี้อย่างโกลาหล

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไว้ได้ทั้งหมด 12 ราย จึงได้เชิญตัวไปดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ความสะอาด โดยจะมีการเปรียบเทียบปรับตามมาตราการกระทำผิดต่อไป

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังฝากประชาสัมพันธ์กลุ่มพ่อค้าอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่เทศกิจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ จึงได้วางมาตรการ สนธิกำลังร่วมกันทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการลงพื้นที่กวดขันทุกวัน เพื่อคืนพื้นที่ให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่อไป

-------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zzYyompAp8s