สังคม

รวบมิจฉาชีพ หลอกขายผ้าไหมบนเฟซบุ๊ก เหยื่อหลงเชื่อเดือนละ 50 ราย กินเที่ยวหรูเปย์ผู้ชาย

โดย kanyapak_w

18 ก.ค. 2567

451 views

(18 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมนายเอ นามสมุติ สาวประเภทสอง ชาวบ้าน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หลังก่อเหตุสร้างเพจ ชื่อ ดาวเรืองเชียงราย (ผ้าทอผ้าฝ้ายทอมือ) หลอกขายสินค้าตามสื่อออนไลน์ สร้างความเสียหายและเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยสืบสวนและจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงราย โดยพบว่าที่ผ่านมาได้หลอกลวงจนมีเหยื่อที่หลงเชื่อโอนเงินให้เดือนละกว่า 50 ราย ได้เงินประมาณเดือนละ 20,000 บาท จากนั้นนำเงินไปเที่ยวเตร่ยามราตรีและเปย์ชายหนุ่ม

ด้าน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 และ โฆษกตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงจากเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ ดาวเรืองเชียงราย (ผ้าทอผ้าฝ้ายทอมือ) ซึ่งมีการนำเสนอขายเสื้อผ้าทอมือแบบทางภาคเหนือ และมีการถ่ายภาพลงขายทางโซเชียลมีเดีย จนมีผู้สนใจหลงเชื่อและโอนเงินชำระค่าสินค้าผ่านบัญชีธนาคารในชื่อ นายยุทธการ แต่หลังมีการโอนเงินแล้ว กลับไม่มีการส่งสินค้าให้ โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 ทำการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถพบเห็นได้ มีการประกาศโฆษณาขายสินค้าที่ทำจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แต่ไม่มีการส่งสินค้าให้กับลูกค้าจริง โดยพบว่าผู้เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก คือ นายยุทธการ  นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า นายยุทธการ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี ฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น จึงนำกำลังพร้อมหมายจับ เข้าจับกุมตัวได้เมื่อ 17 กรกฎาคม 67 ที่ผ่านมา

โดยผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวจริง โดยตนจะหาภาพสินค้าที่ทำมาจากผ้าไหม ผ้าฝ้ายพื้นถิ่น เช่น กระเป๋า เสื้อ มาโพสต์ขาย โดยตั้งราคาให้ถูกเพื่อจูงใจให้ซื้อ จากนั้นก็จะหลอกให้คนที่สนใจโอนเงินมาให้ แล้วไม่ส่งสินค้าให้แต่อย่างใด เมื่อถูกทวงถามบ่อยๆ ก็จะบล็อกการติดต่อ โดยทำแบบนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 67 โดยการสลับเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กไป เรื่อยๆ โดยใช้ชื่อไม่ซ้ำกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คนติดตามตัวได้ และรับว่าในเดือนหนึ่งจะหลอกคนให้โอนเงินซื้อสินค้าประมาณ 49-50 ราย มีรายได้ประมาณเดือนละ 15,000 – 20,000 บาท รับว่าเมื่อได้เงินมาก็จะนำไปกินเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ กินหรูอยู่สบาย และเปย์ชายหนุ่ม จากนั้นนำตัวดำเนินคดีฐานความผิด ฉ้อโกงทรัพย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวสังคม ,หลอกโอนเงิน

คุณอาจสนใจ

Related News