สาวเลี้ยวรถตัดหน้า ทำจยย.สองพ่อลูกล้ม เด็ก 4 ขวบ สอนคู่กรณีอย่าขับประมาท

18 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากนายพีระกานต์ อายุ 25 ปี หนุ่มวิน จักรยานยนต์รับจ้าง ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งถูกคนขับขี่รถจักรยานยนต์คู่กรณี เลี้ยวรถตัดหน้ากะทันหัน จนทำให้รถ จยย.ของนายพีระกานต์ซึ่งขับขี่มาทางตรง พร้อมกับบุตรชายวัย 4 ขวบเศษ ถูกชนอย่างจัง จนรถล้มไถลไปกับพื้น เป็นทำให้นายพีระกานต์และบุตรชายวัย 4 ขวบเศษได้รับบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุคู่กรณีจ่ายค่าทำแผลให้เพียง 1,800 บาท แล้วไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับทางผู้สื่อข่าว เนื่องจากต้องแบกค่าใช้จ่ายล้างแผลวันละ 1,200 บาททุกวัน จนกว่าแผลจะหายแต่ไม่สามารถติดต่อกับทางคู่กรณีได้อีก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในซอยจันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พร้อมกับ นายพีระกานต์ และ ด.ช กรวัฒน์ อายุ 4 ขวบเศษ สองพ่อลูกที่ได้รับบาดเจ็บ ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ก.ค. ขณะที่ตนขับขี่รถ จยย.ยามาฮ่า นูโว มาพร้อมกับน้องพอร์ช บุตรชายวัย 4 ขวบเศษ เพื่อจะไปหาภรรยาที่ซอยท่าอิฐ เมื่อขับขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ถูกรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำแดง ของหญิงสาวคู่กรณี ที่วิ่งสวนกันมาเลี้ยวกลับรถตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถจักรยานยนต์ของตน ถูกชนเข้าที่ล้อหน้าจนเสียหลักล้มลง ทำให้ตนเองกับบุตรชายได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลตามลำตัวทั้งซ้าย ส่วนน้องพอร์ชได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกตั้งแต่ขา แขน มือ ใบหน้าและศีรษะเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมกับคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

หลังล้างแผลออกจากโรงพยาบาล ตนได้เดินทางไปเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง พร้อมกับคู่กรณี โดยทางคู่กรณียอมรับว่า ประมาทที่เลี้ยวกลับรถกลางถนนกะทันหัน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และพร้อมยินยอมที่จะจ่ายค่าปรับให้กับทางพนักงานสอบสวนในความผิดตามข้อหาจราจร ซึ่งเขามีเงินติดตัวมา 2,000 บาท แต่ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งกับทางคู่กรณีไปว่า ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวจ่ายค่าเยียวยารักษาให้กับตนและลูกก่อน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง คู่กรณีจึงยินยอมจ่ายเงินค่าล้างแผลมาให้ตนจำนวน 1,800 บาท และรับปากว่าเยียวยาค่ารักษาและค่าซ่อมรถ จยย.ให้แทน เนื่องจาก พรบ.รถ จยย.ของเขาขาด ทำให้เบิกเงินช่วยเหลือไม่ได้

ตนกับลูกเดินทางไปล้างแผลที่โรงพยาบาลเป็นประจำทุกวัน โดยต้องควักเงินส่วนตัวจ่ายค่าล้างแผลทุกวัน ซึ่งตนทีอาชีพขับวิน จยย.รับจ้าง ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงได้พยายามติดต่อไปหาหญิงสาวคู่กรณีเพื่อให้ช่วยเหลือค่าล้างแผลในเบื้องต้นมาก่อน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จนเหมือนถูกลอยแพ ไม่รับผิดชอบ จึงตัดสินใจขอสื่อให้ช่วยเหลืออเพื่อหวังให้คู่กรณีสำนึกผิดหันกลับมารับผิดชอบกับเหคุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ออกไปขี่ จยย.รับจ้างไม่ได้ แถมบุตรชายก็ต้องหยุดเรียนอีก

นายเกษม อายุ 31 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า หญิงสาวคู่กรณีได้เลี้ยวรถ จยย.กลับรถตัดหน้าอีกฝ่ายอย่างกะทันหัน ทำให้รถพุ่งไปชนรถ จยย.อีกฝั่งที่ฝ่ายผู้ชายขับขี่มาพร้อมกับลูกชาย จนรถล้มลงทำให้สองพ่อลูกได้รับบาดเจ็บ ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเห็นเด็กยังถูกรถ จยย.ทับอยู่ ตนตึงรีบช่วยประคบร้อนประคบเย็นให้กับเด็กในเบื้องต้น จนกระทั่งมีรถของมูลนิธิมารับตัวไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาการของเด็กชายที่ตนเห็นน่าจะเจ็บไปทั้งตัว แม้จะมีแผลแตกที่ศีรษะด้วยก็ตาม แต่เขาฮึดไม่ร้องไห้ออกมาเลย แถมยังพูดเตือนคู่กรณีฝ่ายหญิงอีกด้วยว่า พี่อย่าขับรถประมาทแบบนี้อีกนะ