ปปง.ปลื้มนโยบาย เจ้าของซิมตรงชื่อบัญชี ทำบัญชีม้าลดลง 50%

วานนี้ (15 ก.ค. 67) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ / พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี / พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ประชุมติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแถลงผลการดำเนินงานในมาตรการต่าง ๆ ดังนี้

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ได้กล่าวว่า หลังจาก ปปง. ประกาศมาตรการ ให้ชื่อเจ้าของซิมมือถือต้องตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง พบว่า 'บัญชีม้า' ลดลงครึ่งหนึ่ง จากเดิมที่พบว่า มีบัญชีม้าเปิดใหม่เพิ่มเดือนละ 20,000 บัญชี เหลือแค่เดือนละ หมื่นบัญชี 

จากผลที่เกิดขึ้น แสดงว่ามาตรการนี้ได้ผล โดยพบว่ามีผู้สุจริตชนจำนวนมาก ที่ได้เดินทางไปเปลี่ยนชื่อให้ ชื่อซิมมือถือตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง 

ทั้งนี้ ยังได้บอกว่าอีกว่า เป้าหมายที่ ปปง. เพ่งเล็งคือ บัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ที่เปิดมาไม่เกิน 2 ปี เพราะจะเป็นชวงที่บัญชีม้าแพร่หลาย ทั้งนี้ ถ้าใครชื่อยังไม่ตรงกัน ให้รีบไปเปลี่ยนทันที 

---------------

อย่างไรก็ตาม มีการยกเว้นให้กับ 4 กลุ่ม ที่ 'ชื่อเจ้าของซิม' ไม่ต้องตรงกับ 'บัญชีโมบายแบงก์กิ้ง' ได้แก่

1. บุคคลในครอบครัวเดียวกัน ที่มีหลักฐานพิสูจน์ได้

2. คนทุพพลภาพที่มีผู้ดูแล

3. เบอร์ของอองค์กรและบริษัท ที่ให้พนักงานใช้

4. กลุ่มเบอร์ติดโปรโมชั่น หรือ ซิมกลุ่ม ที่อาจต้องมีการแยกจดทะเบียนเจ้าของซิม และผู้ครอบครองเพื่อกำหนดตัวตนคนใช้งานได้

---------------

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ได้เปิดเผยว่า ยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ด 6 – 100 เลขหมาย ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 67 และเริ่มทยอยระงับการใช้งาน โดยจะมีการระงับการใช้ในกลุ่มนี้ จำนวน 2,141,317 เลขหมาย

ทั้งนี้ จะมีระงับการโทรออก การส่งข้อความ และการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ยังคงรับสายโทรเข้าได้อีกระยะหนึ่งก่อนถูกเพิกถอน

กสทช. ได้รับข้อมูลจากธนาคารทั้ง 21 แห่งผ่านทาง ปปง. แล้ว จำนวน 113,568,836 บัญชี คิดเป็น 79 ล้านเลขหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบแยกเครือข่าย ก่อนส่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ ละราย ตรวจเปรียบเทียบ ว่าเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ กับเจ้าของบัญชีธนาคารนั้น ๆ เป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ จากนั้น กสทช.จะรวบรวม แล้วส่งกลับให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่ง ผ่านทางระบบของ ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในกำหนดในเดือนตุลาคม

----------

มีรายงานว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ประกาศมาตรการใหม่ให้ธนาคารค้าปลีกขนาดใหญ่ทุกแห่งในประเทศ เลิกใช้รหัส OTP (One-Time Password) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

มาตรการนี้เป็นผลจากข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 'รัฐบาล-สมาคมธนาคารสิงคโปร์ (ABS)' เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากการถูกหลอกลวงประเภทฟิชชิ่ง และการฉ้อโกงอื่น ๆ จากมิจฉาชีพ

ทั้งนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และกลโกงของมิจฉาชีพที่ซับซ้อนมากขึ้น  ทำให้ผู้หลอกลวงสามารถหลอกล่อให้ลูกค้าเปิดเผยรหัส OTP ได้ง่ายขึ้น เช่น การสร้างเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบเว็บไซต์ธนาคารจริง

หลังจากนี้ ลูกค้าของธนาคารในสิงคโปร์จะต้องใช้ โทเคนดิจิทัล แทนรหัส OTP โดยต้องเปิดใช้งานโทเค็นดิจิทัลบนอุปกรณ์มือถือของตนเอง

ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากสมาคมธนาคารสิงคโปร์ (ABS) ระบุว่า ปัจจุบันลูกค้าของธนาคารใหญ่สามแห่งของประเทศ ได้แก่ DBS, OCBC และ UOB มีการเปิดใช้งานโทเค็นดิจิทัลแล้ว อยู่ที่ประมาณ 60% ถึง 90%

โดย โทเค็นดิจิทัล จะเป็นวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าสู่ระบบ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ รหัส OTP ที่สามารถถูกขโมย หรือหลอกล่อให้ถูกเปิดเผยได้

--------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OR_bhd60gBs