สุพรรณฯระทึก! รถบรรทุกก๊าซระเบิดในโรงบรรจุก๊าซ ไฟลุกท่วมคลอกคนงานสาหัส 1 ราย ชาวบ้านหนีตายวุ่น

รถบรรทุกก๊าซระเบิด ในโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม จ.สุพรรณบุรี คนขับรถโดนไฟคลอกบาดเจ็บสาหัส ระทึก จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้ปั๊ม ชาวบ้านเล่านาทีช่วยคนเจ็บ  เผยสูดดมกลิ่นก๊าซจนแน่นหน้าอกสาเหตุยังไม่ชัดคนเจ็บยังให้การไม่ได้ พฐ.ลงพื้นที่ตรวจสอบ

วานนี้ (11 ก.ค.) เวลา 13.20 น.เกิดเหตุรถบรรทุกก๊าซระเบิดภายในโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม "เดิมบางประกอบพาณิชย์"  ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี พบมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นเต็มท้องฟ้า และมีเพลิงลุกไหม้  ต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหต

โดยช่วงแรกที่เกิดเหตุ ยังไม่มีเปลวไฟมากนัก แต่มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลิ่นก๊าซฟุ้งทั่วบริเวณ ชาวบ้านต้องใช้ผ้าปิดจมูก และช่วยกันประสานรถพยาบาล  ชาวบ้านละแวกจุดเกิดเหตุบางคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้  เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังฉีดน้ำจากด้านนอกถนน เข้าไปภายในโรงบรรจุก๊าซ

จากนั้น ก็เกิดเปลวเพลิงโหมลุกไหม้รถบรรทุกก๊าซหุงต้มเสียหาย 2 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน  กระบะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ได้รับความเสียหาย พนักงานปั๊มน้ำมันและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง  ต้องพากันวิ่งหนีจ้าละหวั่น เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุ  อยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมันบางจาก 100 เมตร ใกล้กับสี่แยกไฟแดงเขาพระ จึงกลัวว่าปั๊มน้ำมันจะระเบิด

จากการตรวจสอบทราบว่ามีพนักงานติดอยู่ภายในโรงบรรจุก๊าซ  ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบคนงานโดนไฟคลอกบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายสัมริต  อายุ 66 ปี ชาว ต.เดิมบางนางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี  แต่ไม่มีคนอื่นๆ ติดค้างภายใน  จากรายงานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้  มีคนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่อง 3 ครั้ง ก่อนที่ไฟจะโหมลุกรุนแรง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง  ระดมฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม กระทั่งเวลา 14.40 น.ก็สามารถควบคุมเพลิงได้  เนื่องจากก๊าซที่ระเบิดจนเกิดไฟไหม้นั้น  เป็นก๊าซหุงต้มทั่วไปไม่ใช่ก๊าซอันตรายและสามารถระเหยเองได้เร็ว  จึงใช้เวลาฉีดน้ำสกัดไม่นานมากนักเปลวเพลิงจึงสงบ  แต่ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ไม่ปะทุอีก เนื่องจากยังมีควันขึ้น

ทีมข่าวได้คุยกับนายนิรันต์  อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลเขาพระ เล่าว่า หลังได้รับแจ้ง ว่าเกิดเหตุก๊าซรั่ว ตนจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที   เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุยังไม่มีประกายไฟหรือแรงระเบิด  มีเพียงกลุ่มควันก๊าซพวยพุ่งขึ้นมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที ถึงเกิดประกายไฟขึ้น ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นมา 2-3 ครั้ง จากนั้นตนและลูกน้องจึงเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ทันที

ในการเข้าระงับเหตุนั้น ยอมรับว่าค่อนข้างยาก ด้วยความที่จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงมาก เพราะใกล้ปั๊มน้ำมันเพียง 100 เมตรเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องวางแผนในการเข้าระงับเหตุ เพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด  โดยในขณะที่ตนเข้าระงับเหตุ  ได้สอบถามเจ้าของโรงบรรจุก๊าซ  ซึ่งเจ้าของยืนยันว่าได้ปิดวาล์วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น  มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือ มีกำแพงปิดล้อม  ทำให้สามารถควบคุมได้ หากไม่มีกำแพงปิดกั้น ตนเชื่อว่าความเสียหายคงมากกว่านี้ เพราะแก๊สมันไหลตามลม  โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง


นายพิทักษ์  อายุ 49 ปี ชาวบ้านในพื้นที่และพลเมืองดีที่ช่วยคนเจ็บ  เล่าว่า ตนเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ   ก่อนเกิดเหตุตนและชาวบ้านประมาณ 3-4 คนนั่งอยู่หน้าร้าน จากนั้นตนได้ยินเสียงเหมือนสายอะไรบางอย่างหลุด ก่อนที่จะมีก๊าซพวยพุ่งออกมา ขณะนั้นยังไม่มีเปลวไฟ ด้วยความตกใจตนและเพื่อนบ้านจึงพากันวิ่งหนี  เพราะว่ากลิ่นก๊าซแรงมาก

จากนั้นก็เกิดเปลวไฟและได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะเห็นคนเจ็บเดินออกมาจากโรงงานในสภาพถูกไฟลวกตัว ไม่มีเสื้อผ้า  มานอนอยู่ริมถนนหน้าโรงงาน ตนจึงเดินไปช่วยเหลือและพยามสอบถามอาการ ก่อนที่จะมีรถกู้ชีพมาถึงและนำตัวส่งโรงพยาบาล  ส่วนตนเองสูดก๊าซเข้าไปเกิดอาการแน่นหน้าอกจึงเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจ เช่นเดียวกับชาวบ้านรายอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงก็สูดก๊าซเข้าไปเช่นกัน

 ยอมรับว่ารู้สึกกังวลและกลัวเป็นอย่างมาก  เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากปั๊มน้ำมันเพียงแค่ 100 เมตร แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ระงับเหตุได้ทัน  จึงไม่เกิดความเสียหายอะไรมากนัก ตนอาศัยอยู่ที่นี่มา 7 ปี ยอมรับว่าก็รู้สึกกังวลในเรื่องความปลอดภัยบ้าง แต่ก็เชื่อมาตรฐานการป้องกัน  เพราะเขามีการฝึกฝนความปลอดภัยกันมาอย่างดี ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน


ขณะเดียวกันเจ้าของโรงบรรจุก๊าซ ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจภายในพื้นที่ของโรงงาน  โดยคุณปารามี พานิช เจ้าของโรงบรรจุก๊าซ ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 30 นาที เพราะระบบเซฟตี้ทำงาน และโรงงานมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุทุก ๆ ปี และช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุเพราะอยู่ที่สำนักงาน แต่ได้รับรายงานว่า พนักงานได้รับบาดเจ็บและไม่มีคนติดค้าง ส่วนถังก๊าซหุงต้มไม่ได้เกิดการระเบิดและไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า 10 ล้านบาท

ด้านนายสมเกียรติ ศิริไพบูลย์ทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดก๊าซหุงต้ม ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก บอกว่า สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นและจุดต้นเพลิงจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสรุป หลังเข้าไปตรวจสอบเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ในจุดเกิดเหตุ เท่าที่ดูสถานที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่ามียางรถยนต์ที่ไหม้ และสายที่ขนถ่ายก๊าซไหม้ ส่วนถังก๊าซหุงต้มไม่ได้รับความเสียหาย ไม่มีการรั่วไหลของก๊าซ เซฟตี้วาล์วปิดอยู่ปกติ

ทั้งนี้ คาดว่าขณะเกิดเหตุอยู่ในกระบวนการขนถ่ายก๊าซ จากถังที่อยู่บนรถ ไปยังถังที่อยู่ภายในโรงบรรจุและหลังเกิดเหตุพนักงาน คนที่บาดเจ็บเข้าไปปิดวาล์วได้ทันทีตามแผนเผชิญเหตุที่มีการซักซ้อมกันมาโดยตลอดทำให้ ระงับเหตุได้และควบคุมเพลิงได้ใช้เวลากว่า 20 นาที เท่านั้น

สำหรับสาเหตุยังไม่ชัดเจนว่า เกิดจากอะไร เพราะคนขับรถบรรทุกก๊าซซึ่งได้รับบาดเจ็บ  ยังให้การไม่ได้ ขณะที่นายชาตรี ฉิมพรัตน์ นายอำเภอเดิมบางนางบวช เปิดเผยว่า ต้นเพลิงมาจากรถที่มาส่งก๊าซจำนวน 15 ตัน แล้วเกิดวาล์วรั่ว คนขับรถหาที่ปิดวาล์วไม่เจอจนทำให้เกิดประกายไฟแล้วระเบิดขึ้น

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ให้ข้อมูลหลังจากได้รับรายงานจาก สภ.เดิมบางนางบวช ว่าจากการสอบสวนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า พนักงานจะถ่ายก๊าซจากรถบรรทุกถังก๊าซ มาใส่ถังภายในโรงบรรจุ แต่เกิดสายหลุด ทำให้มีก๊าซรั่วแพร่กระจาย จากนั้นพนักงานพยายามวิ่งมาเปิดถังน้ำเพื่อไล่ก๊าซ แต่เกิดการระเบิด ทำให้ไฟไหม้ตัวได้รับบาดเจ็บ

แต่จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า ขณะที่รถบรรทุกกำลังนำก๊าซบรรจุเข้ากับหัวจ่าย อยู่ ๆ ก๊าซก็เกิดรั่วซึมออกมานานประมาณ 10 นาที เมื่อคนขับรถเห็น จึงรีบวิ่งไปสับคัตเอาต์ที่ดับเพลิงฉุกเฉิน ทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรี มาตรวจสอบ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PGL_W9R9iPw