สังคม

สาวเอาเรื่องถึงที่สุด หนุ่มหัวร้อนปาดหน้าดึงกุญแจรถปาทิ้ง พบเคยก่อเหตุแบบเดียวกัน 5 ครั้ง

โดย nattachat_c

8 ก.ค. 2567

252 views

จากกรณี มีหญิงคนหนึ่งโพสต์คลิป ถูกหนุ่มหัวร้อนขับรถจี้ท้าย ก่อนขับแซง บีบแตร ปาดหน้า และจอดรถขวาง ก่อนที่ชายคนขับจะลงมาจากรถ ด่าทอว่าเธอขับรถแช่ขวา และเล่นโทรศัพท์ จากนั้น ชายคนดังกล่าวก็ดึงกุญแจรถของหญิงสาว ปาลงข้างทาง ในขณะที่ เจ้าของคลิปอ้างว่าไม่ได้เล่นโทรศัพท์ แต่กำลังเปิดดูแผนที่เพราะไม่ชินทาง


ซึ่งเรื่องนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แตกออกเป็น 2 ฝั่ง ทั้งฝ่ายที่เห็นใจหญิงสาวเจ้าของคลิป และสงสัยว่าทำไมจึงเปิดกระจกรถ จนทำให้ชายคู่กรณีเอื้อมมือเข้ามาดึงกุญแจได้ ขณะที่อีกฝ่ายมองว่า การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการขับรถแช่เลนขวา เป็นอันตรายมาก


สอบถาม นางสาวภิสรินธันญ์ อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย และเจ้าของคลิป บอกว่า เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา เธอเดินทางจากบ้านที่ จ.ลำปาง มาที่ จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางถนนสมโภช 700 ปี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อมาทำธุระคัดเอกสารที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ แต่เธอไม่รู้เส้นทาง จึงใช้โทรศัพท์มือถือเปิดกูเกิลแม็ป  เพื่อนำทาง


ระหว่างนั้น รถคู่กรณีขับตามมาจ่อท้ายรถ และเร่งเครื่องขับรถปาดหน้าแล้วจอด จนต้องเบรกกะทันหัน จากนั้น ชายคนขับรถลงมาตะโกนต่อว่า และเข้ามาดึงกุญแจรถ แล้วปาทิ้ง ซึ่งในรถของเธอ มีแค่ตัวเธอ พี่สาว และลูกชายอายุ 7 ขวบ พากันตกใจ และหวาดผวากับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก

---------------------------------

ต่อมา ช่วงบ่าย วานนี้ (7 ก.ค. 67) ผู้เสียหาย พร้อมทนายความ เดินทางไปที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายในคลิป โดยยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะไม่ขอรับกระเช้าขอโทษ เพราะต้องการให้บทเรียน เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่คุกคามสร้างความหวาดกลัว จะได้ไม่ไปหัวร้อนแบบนี้กับใครอีก


นางสาวภิสรินธันญ์ บอกว่า แม้เหตุการณ์จะผ่านมาหลายวัน แต่ก็ยังคงตื่นตระหนกทุกครั้ง ที่นึกถึงภาพเหตุการณ์วันนั้น เช่นเดียวกับลูกชายที่ยังคงหวาดกลัว ถึงขั้นขอร้องไม่ให้เธอขับรถออกไปไหนอีก เพราะจำติดตากับเหตุการณ์ในวันนั้น เธอเองก็ต้องคอยปลอบใจ และพูดคุยเพื่อให้ลูกคลายกังวล และคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง


นอกจากนี้ หลังจากที่โพสต์คลิปไปแล้ว มีผู้ติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลว่า เคยตกเป็นผู้เสียหายจากผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้อีก 5 ราย ซึ่งมีแม่ลูกอ่อนรวมอยู่ด้วย


รวมทั้ง พบว่า ผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกกระทำเมื่อปี 2566 แล้วเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่ถูกจับกุม และลอยนวลมาได้ จนกระทั่งก่อเหตุกับเธอ


ขณะที่ นายดำรง บุญประคอง ทนายความ ระบุว่า ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 4 ข้อหา คือ

1. ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร

2. ทำให้เสียทรัพย์

3. ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ

6. กระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ


โดยหลังจากนี้ จะไปดูข้อกฏหมายประกอบข้อเท็จจริงว่า จะแจ้งความข้อหาใดเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ ชัดเจน และมั่นใจว่า เอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้แน่นอน


นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายถูกชายคนดังกล่าวคุกคามอีก 1 ราย คือผู้เสียหายในคดีที่เกิดเหตุเมื่อปี 2566 ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.ชียงใหม่ โดยชายผู้ก่อเหตุได้ขับรถปาดหน้า และลงมาจะดึงกุญแจรถ แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากรถเป็นระบบพุชสตาร์ท จึงลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแทน ซึ่งมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.สันทราย แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ ติดต่อเข้ามาให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดีด้วย โดยในวันนี้ (8 ก.ค. 67) จะเดินทางไปติดตามคดีที่ สภ.สันทราย

---------------------------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/iC2GZ4n1nNI







คุณอาจสนใจ

Related News