สังคม

รองอธิบดีอัยการยันอัยการสูงสุด ตั้งคดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ เป็นคดีนอกราชอาณาจักร

โดย kanyapak_w

15 มิ.ย. 2567

266 views

รองอธิบดีอัยการ ยันอัยการสูงสุด ตั้งคดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ เป็นคดีนอกราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง โดยจะมีทีมพนักงานอัยการเข้าไปร่วมสอบสวนคดีนี้กับตำรวจชุดทำคดี



นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงคดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เเละเกิดเรือของกลางหายว่าทางตำรวจ ปอศ. มีหนังสือกราบเรียนท่านอัยการสูงสุดมาเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 อ้างว่ามีการจับกุมเรือทั้งหมด 5 ลำ ซึ่งมีการบรรทุกน้ำมันเถื่อนโดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 28 คน ให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาเนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร



โดยขั้นตอนก่อนที่จะถึงอัยการสูงสุดคดีจะต้องผ่านสำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นสำนักงานที่จะรับผิดชอบคดีนอกราชอาณาจักร เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรก็ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 ปอศ. เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมกับมีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค.2567 ให้มีอัยการเข้าไปร่วมการสอบสวน โดยมีอัยการ 2 คนซึ่งตนเป็นหัวหน้าทีม เข้าไปร่วมสอบสวนโดยนัดหมายประชุมพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ แต่เกิดเหตุการณ์เรือหายไปจำนวน 3 ลำโดยที่ยังไม่ได้มีการประชุมกัน



ทั้งนี้คดีต้องเเยกคนละส่วน เพราะการกล่าวหาในคดีน้ำมันเถื่อนนี้เป็นการกล่าวหาโดยชุดจับกุม โดยคดีการจับกุมเรือทั้ง 5 ลำ จะเป็นคดีหลักเเต่เมื่อตอนพนักงานสอบสวนส่งมา ให้พนักงานอัยการพิจารณา ว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรฯหรือไม่ทางพนักงานสอบสวนจะต้องส่งคำให้การมาให้พนักงานอัยการบางส่วน เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เเละเมื่อเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้วเป็นอำนาจอัยการสูงสุดโดยตรงตาม ป.วิอาญามาตรา 20 ซึ่ง อัยการสูงสุดสามารถให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนฝ่ายเดียวก็ได้ เเต่เรื่องนี้อัยการสูงสุดเห็นว่าเป็นคดีสำคัญเลยมอบหมายอัยการสำนักงานการสอบสวนเข้าไปร่วมสอบสวน



ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ขบวนการนี้วางแผนเพื่อเอาน้ำมันกว่า 3 แสนลิตรคืน ส่วนเรือจะตามมาประมูลซื้อคืนในภายหลัง โดยเมื่อเอาเรือของกลางออกไปได้แล้ว ก็จะขนถ่ายน้ำมันออกจากเรือกันกลางทะเล แล้วก็ปล่อยให้เรือของกลาง ลอยลำไว้เช่นนั้น เนื่องจากมูลค่าน้ำมัน เมื่อเอาไปขายจะมีมูลค่ามากกว่าเรือที่ถูกยึด



ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ากลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนใช้เงินจำนวน 30 ล้านบาท วิ่งเต้นเพื่อไม่ให้มีการสั่งฟ้องคดีอ้างว่าเรือมีการลักลอบกระทำความผิดนอกน่านน้ำไทย



คุณอาจสนใจ

Related News