สังคม
รอดแล้ว แมวท้องอ่อน รอดตายไฟไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยง – หดหู่ พบซากงูกัดตัวเอง หลังดิ้นทุรนทุรายหนีไฟ
โดย nattachat_c
13 มิ.ย. 2567
63 views
วานนี้ (12 มิ.ย. 67) ที่ศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานครพร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวด่วน กรณีการจัดการตลาดขายสัตว์เลี้ยง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยงตลาดศรีสมรัตน์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่การรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล
นายชัชชาติกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชี้แจงว่า สำหรับโครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยง เขตจตุจักร เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งแยกกับตลาดนัดจตุจักรที่ กทม. เป็นผู้ดูแล
โดยโซนที่เกิดเพลิงไหม้ มีร้านค้า 118 คูหา และอีกประมาณ 15 คูหาใกล้เคียง พื้นที่รวม 1,400 ตารางเมตร ได้รับแจ้งเหตุเวลา 04.08 น. เจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุ 04.14 น. เข้าควบคุมเพลิงและสงบเวลา 04.37 น. ซึ่งเพลิงลุกลามค่อนข้างเร็ว และไม่สามารถเข้าไปดับได้เนื่องจากมีการล็อกประตู
ภายหลังเพลิงสงบ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต แต่มีรายงานสรุปพบพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 118 ร้าน และมีอีก 15 ร้าน ที่ได้รับผลกระทบบางส่วน
หลังเกิดเหตุมีสัตว์ตายจำนวนกว่า 5 พันตัว
- ปลา 3,500 ตัว
- สุนัข 37 ตัว
- ลิง 2 ตัว
- นก 1,382 ตัว
- กระรอก 30 ตัว
- เต่า 100 ตัว
- แมว 25 ตัว
- แรคคูน 10 ตัว
- ไก่ 217 ตัว
- และมีสัตว์อื่นอีกที่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุถือเป็นบทเรียนที่สำคัญในการกลับมา กลับมาเข้มงวดเรื่องการป้องกันอัคคีภัย เพราะหากมองผู้เสียหายที่แท้จริงคือ สัตว์ที่ตายไปกว่า 5,000 ตัว
-----------------
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ตลาดศรีสมรัตน์ มีการค้าขายสัตว์มาประมาณ 20 ปีแล้ว โดยต่อสัญญาใหม่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ.การสาธารณสุข (ใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แบบ อภ.2) ขอกับ กทม. พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ (ใบอนุญาตให้ทำการค้าหรือซากสัตว์ แบบ ร.10 ) ขอกับกรมปศุสัตว์ และ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์
โดยที่ผ่านมา กทม. ไม่เคยออกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพให้แก่ร้านค้าสัตว์ เนื่องจากยังขาดความชัดเจนในข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม กทม. มีนโยบายเรื่องการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตลอดช่วงชีวิต จึงได้ทำการสำรวจในส่วนของกิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่ เม.ย. - ก.ค. 66 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 66 ได้ทำหนังสือถามถึงข้อกฎหมายไปยังกรมอนามัย เรื่องกิจการที่ต้องขอใบอนุญาตกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และได้รับคำตอบกลับมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 ว่า กิจการค้าสัตว์เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งชัดเจนว่าต้องขออนุญาตทั้งหมด ทั้งประเภทฟาร์ม ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง ประเภทคาเฟ่สัตว์เลี้ยง และประเภทกิจการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับฝากสัตว์เลี้ยงชั่วคราว จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตลงพื้นที่ เพื่อตรวจประเมินกิจการที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายการตรวจประเมินเสร็จสิ้น 15 ก.ค. 67 แต่ก็มามีเหตุเพลิงไหม้ตลาดศรีสมรัตน์ ในวันที่ 11 มิ.ย. 67
“จากนี้ กทม. จะทำการสำรวจกิจการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ โดยจุดใหญ่ ๆ คือ สนามหลวง 2 และตลาดจตุจักร 2 มีนบุรี ซึ่งจะต้องชัดเจน ทำให้ละเอียด เพราะสัตว์เลี้ยงมีบทบาทสำคัญกับหลายครอบครัว ถ้าจะให้ขายต้องมั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงจะอยู่ในที่ที่มีคุณภาพ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวสรุปว่า จากนี้ ต้องลุยเต็มที่ กทม.มีอาวุธคือ ใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่หัวใจคือต้องมีข้อกำหนด มี Check List ที่ชัดเจนในการตรวจพิจารณา และควบคุมมาตรฐาน ไม่ใช่ใช้เพียงวิจารณญาณเจ้าหน้าที่ และต้องร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่มีความรู้เพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งจะสามารถลดแรงปะทะกับผู้ประกอบการได้ด้วย
“ร้านที่จะประกอบกิจการเลี้ยง จำหน่ายสัตว์ ต้องขอใบอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ และ กทม. รวม 2 ใบ รับรองว่าถ้าไม่ดีจริง กทม. ไม่ให้ผ่าน และในอนาคต หากตลาดไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนได้ว่าสัตว์จะปลอดภัยก็จะไม่ให้เปิดตลาดขายสัตว์อีก” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
สำหรับ ตลาดที่เกิดเหตุจะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งในขณะนี้ ต้องระงับการเปิดตลาดใหม่ หากจะเปิดทางการรถไฟต้องมาขออนุญาตกรุงเทพมหานครก่อน และในส่วนของผู้ค้าที่จะทำกิจการค้าสัตว์เลี้ยงต้องขออนุญาตประกอบกิจการเช่นกัน
----------------------
วานนี้ (12 มิ.ย. 67) บรรยากาศโครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยง เขตจตุจักร หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ เกิดโศกนาฏกรรมสัตว์ตายนับ 1,000 ตัว พบว่ายังคงมีประชาชนนำดอกไม้ อาหารสุนัข อาหารแมว อาหารนก และของเล่นสัตว์เลี้ยง มาวางเพื่อไว้อาลัยให้กับสัตว์ที่ตาย
และภายหลังสำนักงานเขตจตุจักร ได้ติดคำสั่งห้ามใช้อาคารตลาดสัตว์เลี้ยงที่เกิดเพลิงไหม้ และปิดกั้นพื้นที่ไว้ ทำให้เจ้าของร้านหรือผู้ประกอบการ ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินและความเสียหายได้ ส่วนสัตว์ที่ตายบางส่วน อาทิ สุนัข แมว ไก่ เหลือให้เห็นเศษซากที่ถูกไฟไหม้เกรียมอยู่ภายในกรง เริ่มส่งกลิ่นเหม็นอบอวน ซึ่งยังไม่สามารถเข้าไปจัดการซากสัตว์ที่ตายได้
จากเหตุที่เกิดขึ้นชุดทีมเฉพาะกิจ จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม นำโดยนายสุชาติ เพชรไทย เจ้าหน้าที่อาสาปฏิบัติการ ได้เข้าช่วยเหลือแมวตัวหนึ่ง ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ตลาดศรีสมรัตน์ เมื่อช่วง 04.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งแมวตัวดังกล่าว กำลังนอนหมอบหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณคานหลังคาเหล็ก ของอาคาร โดยนายสุชาติ ได้นำไม้อุปกรณ์คล้องเกี่ยวเข้าที่บริเวณลำตัวของน้องแมว ลงมาได้อย่างสำเร็จ และปลอดภัย ก่อนนำใส่กรงอย่างทุลักทุเล เนื่องจากน้องแมวยังคงอยู่ในอาการหวาดกลัว
ตรวจสอบเบื้องต้นน้องแมวเป็นเพศเมีย สีเทา หางลายดำ ยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา มีแววตาที่ตื่นตระหนกหวาดกลัว บริเวณขามีร่องรอยบาดแผลฉีกขาด ลักษณะถูกเกี่ยว มีเลือดเปอะเปื้อน และถูกไฟไหม้ดำตามขน และนอกจากนี้ยังพบอีกว่าน้องแมวตัวนี้ น่าจะกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ทีมชุดเฉาะกิจที่ให้การช่วยเหลือได้นำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสัตว์ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ล่าสุดอาการปลอดภัย
---------------
ขณะเดียวกัน ในโซเชียล ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ตอนไฟไหม้ร้าน งูก็คงจะทรมานมาก ถึงขนาดต้องกัดตัวเอง ผมดูลักษณะงูที่ตายเป็นร้อย ๆ ตัว ในเช้าวันอังคาร 11 มิถุนายน 2567 จำนวนไม่น้อยต้องกัดตัวเอง ขอให้ไปสู่สุคติภูมิ อย่าได้มาเกิดให้มนุษย์กักขังอีกเลย” พร้อมแนบภาพประกอบเผยให้เห็นเหล่าสัตว์ที่ตายจำนวนมาก อาทิ งู, เต่า, เป็ด, แมงมุม, กิ้งก่า และสัตว์แปลก
สำหรับงูตายในสภาพกัดตัวเองนั้น “นิรุทธ์ ชมงาม” (นิค อสรพิษวิทยา) ประธานกลุ่มอสรพิษวิทยา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงู และเจ้าของเพจ Nick Wildlife ให้ข้อมูลว่า งูในกรณีงูกัดตัวเอง จากเหตุไฟไหม้ที่จตุจักร พฤติกรรมเช่นนี้ สาเหตุน่าจะมาจากภาวะของงูที่อยู่ในช่วงโคม่าแล้ว และกัดตัวเองโดยไม่ตั้งใจ ภาวะนี้งูจะไม่รับรู้อะไรแล้ว และจะนอนดิ้นไปมา ปากจะอ้าอยู่ตลอด หากไปโดนอะไร มันก็จะงับทันที ไม่ว่าคน สิ่งของ หรือกระทั่งตัวมันเอง
คราวนี้ปัญหาคือฟันของงูจะมีลักษณะงุ้มเข้าด้านในปากเป็นตะขอทั้งปากบนปากล่าง เพื่อไว้ใช้ประโยชน์เวลาจับเหยื่อ เหยื่อก็จะดิ้นหลุดยาก พอกัดเข้าไปแล้ว หากดึงออกมาตรง ๆ ก็จะไม่หลุด หากงูยังปกติดี มันก็ก็จะดันปากสวนขึ้นไปด้านหน้าแล้วอ้าปากดึงฟันตัวเองออกมา แต่ในกรณีของงูที่อยู่ในภาวะไร้การสั่งการของสมองก็จะดึงออกยาก และติดอยู่แบบนั้น
นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว การกัดตัวเองก็จะมีอีกหลายสาเหตุเช่น ความเครียด มีกลิ่นเหยื่อติดที่ตัวงู ตกใจแล้วโจมตีผิดคิดว่าตัวเองเป็นศัตรู ความเจ็บป่วยและภาวะไม่ปกติทางระบบประสาทเป็นต้น
เหตุการณ์แบบนี้เราก็จะพบอยู่เรื่อยๆ หากสังเกตุตามถนนก็อาจพบอยู่บ้าง ซึ่งงูไม่ได้คิดที่จะทำร้ายตัวเองแค่อย่างใด เพราะความจริงแล้ว ต่อให้ทรมานแค่ไหนเพื่อมีชีวิตรอด มันก็จะดิ้นรนจนลมหายใจสุดท้ายของมันนั่นเองที่สำคัญที่สุดงูที่กัดตัวเอง หลาย ๆ ตัวในภาพข่าว เป็นงูไม่มีพิษทั้งนั้นครับ กัดตัวเองก็ไม่มีผลอะไรเลย
----------------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/xbPITsKcwj4