เมียสงสัย ผัวมีพิรุธชอบหลบๆ ซ่อนๆ แจ้งตร.สอบประวัติ ที่แท้มีคดีลักทรัพย์ โดนหมายจับอื้อ

สาวสงสัยสามีที่เพิ่งอยู่กินกันไม่นาน ทำตัวมีพิรุธ มักมีทีท่าระแวงคน ชอบปิดบังใบหน้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน จึงให้ตำรวจตรวจสอบประวัติ หวั่นเป็นคนไม่ดี ตร.เผยมีคดีลักทรัพย์-ยักยอกทรัพย์ นับ 20 คดี มีหมายจับอื้อ ก่อนตามตัวเจอ เจ้าตัวอ้างต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ แต่คดีที่ทำจริงไม่ถึง 10 คดี ตอนนี้พยายามศึกษากฎหมาย ว่ามีอัตราโทษแค่ไหน ต้องสู้ในทิศทางไหนที่จะชนะหรือลดหย่อนผ่อนโทษให้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.67 เวลา 20.30 น. ตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับแจ้งจาก น.ส.ดาว (นามสมมุติ) ว่า นายธงชัย คูเจริญ ซึ่งเป็นสามี เพิ่งจะอยู่กินด้วยกันเมื่อไม่นานมานี้ มีพฤติกรรมน่าสงสัย คือ มักปกปิดใบหน้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน อีกทั้งเมื่อออกจากบ้านแล้ว จะระวังระแวงคนรอบด้านทุกคน โดยเฉพาะเมื่อกลับบ้านที่ชุมพร จะห้ามไม่ให้ชวนไปไหน โดยสามีกำลังเดินทางโดยรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพ-โคกกลอย-พังงา จะลงไปทำธุระเรื่องกู้ยืมเงินที่ จ.ระนอง จึงต้องการให้ช่วยตรวจสอบประวัติสามีตน ว่าเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุหรือไม่

เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 ตรวจสอบประวัติ พบว่า นายธงชัย คูเจริญ อายุ 38 ปี ชาว ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร มีหมายจับของหลายสถานีตำรวจในจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง ในข้อหาลักทรัพย์ และคดียักยอกทรัพย์ จำนวน 20 คดี มีหมายจับ 14 หมายจับ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมพร มีหมายจับ จำนวน 9 หมายจับ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 จึงวางแผนร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวชุมพร เพื่อตั้งด่านสกัดจับกุมบนถนนสายเพชรเกษม ขาล่อง บริเวณด่านตรวจปฐมพร

จนกระทั่งเวลา 01.00 น.วันที่ 2 มิ.ย. รถทัวร์ปรับอากาศสีฟ้า-ขาว  วิ่งระหว่างกรุงเทพ-โคกกลอย-พังงา ขับเข้ามาในด่าน  เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้จอด ก่อนเรียกเข้าริมทางเพื่อขอตรวจค้น โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้คนบนรถทราบ ทำให้ผู้โดยสารและพนักงานบนรถตื่นตกใจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจค้นบนรถ กลับไม่พบนายธงชัย  

จากการสอบถามพนักงานขับรถทัวร์ ทราบว่า ประมาณ 4 ทุ่มเศษของวันที่ 1 มิ.ย.  มีผู้โดยสารชายหญิง 2 คน ซื้อตั๋วโดยสาร ลงปลายทางที่ จ.ระนอง แต่ได้ขอลงระหว่างทางที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่คาดว่า นายธงชัย คงไหวตัวทัน จึงได้นำกำลังบางส่วนเร่งเดินทางไปตรวจสอบ โดยเชื่อว่า ทั้งสองคงจะต้องหาที่พักเพื่อรอเวลาเดินทางต่อไปยัง จ.ระนอง

ต่อมาเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.8 และตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร สืบทราบว่า นายธงชัย พร้อมภรรยา หลังจากที่ลงจากรถทัวร์แล้วได้เข้าไปเปิดห้องพัก หมายเลข 7 ของโรงแรมแห่งหนึ่งริมถนนสายเพชรเกษม ขาล่อง ใกล้กับจุดที่ลงจากรถทัวร์ไม่มากนัก  จึงเดินทางไปยังโรงแรมดังกล่าว และเคาะประตูห้องเรียกคนในห้องให้เปิดประตู  โดยภรรยาเป็นผู้เปิดประตู ส่วนนายธงชัย นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดขาว หลังทราบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เจ้าหน้าที่ได้นำหมายจับ ของศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.94/2566 ลงวันที่ 11 เมษายน 66 ข้อหาลักทรัพย์ ให้นายธงชัยได้อ่าน โดยนายธงชัย รับว่า เป็นบุคคลดังกล่าวจริง พร้อมให้การในเบื้องต้นว่า การที่ตนเองต้องลงจากรถระหว่างทาง ก็เนื่องจากแอร์ไม่เย็น จึงขอลงดีกว่า แล้วค่อยเดินทางต่อ ไม่ทราบว่าตำรวจรอดักจับอยู่ที่ชุมพร ในส่วนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังตัว หากพบว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ๆ แบบผิดสังเกต ก็จะขอยืมรถคนรู้จักโดยอ้างว่าไปทำธุระ แล้วก็เอาไปจอดทิ้ง เพื่อหนีจากจุดนั้นให้ไกลที่สุด หรือเมื่อครั้งที่ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ สภ.ปากน้ำชุมพร ตนเองไม่ได้ตั้งใจลักทรัพย์ เพียงแต่ว่า ได้เช่าเหมารถแท็กซี่คันดังกล่าวมาชุมพร

ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่ที่ร้านอาหารริมชายหาด ตนเองได้ขอรถออกไปทำธุระ โดยให้คนขับนั่งกินข้าวอยู่ก่อน และเมื่อขับออกไปก็นำไปจอดทิ้งรอยต่อชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์ แค่นั้น และยืนยันว่า คดีที่ตนเองก่อนั้นไม่ถึง 10 คดี และบางคดีตนเองก็ชนะไปก็มี และทุกวันที่หลบหนีนั้นก็พยายามศึกษากฎหมายโดยเฉพาะกรณีลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ มีอัตราโทษเพียงไหนและจะสู้ในทิศทางไหนที่จะชนะหรือลดหย่อนผ่อนโทษให้มากที่สุด

เจ้าหน้าที่ได้บันทึกจับกุมตัวนายธงชัย ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vuq0ZI1qyQ8