รวบ ‘คู่รักนักเพาะเห็ดขี้ควาย’ ลักลอบขาย-สอนกิน อ้างตนสำเร็จนิพพาน รู้ทุกสิ่ง รักษาได้สารพัดโรค

รวบ ‘คู่รักนักเพาะเห็ดขี้ควาย’ ลักลอบจำหน่าย-จัดคอร์สสอนรับประทาน รายได้เดือนละหลายแสนบาท อ้างช่วยประชาชนรักษาโรคต่าง ๆ นำไปถวายกรมหลวงชุมพรเชื่อถวายสิ่งที่ดีที่สุด อ้างสำเร็จนิพพานเป็นเทพเจ้ารับรู้ทุกสิ่งบนโลก

ตำรวจชุดสืบนครบาลนำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.อมิตา (สงวนนามสกุล) หรือหยก อายุ 36 ปี และนายบรรยงก์ (สงวนนามสกุล) หรือหยง อายุ 40 ปี โดยจับกุมตัวได้ที่ คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยผิดกฎหมายและร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยผิดกฎหมาย”

พร้อมของกลาง เห็ดขี้ควาย หรือเห็ดเมา เพาะอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 181 ถุง น้ำหนักรวม 116.92 กิโลกรัม อุปกรณ์การปลูกและจำหน่ายอีก 8 รายการ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับติดต่อสื่อสาร 1 เครื่อง, เครื่องฟอกอากาศ 1 เครื่อง, เครื่องทำความชื้น 1 เครื่อง, เครื่องอบแห้ง 1 เครื่อง, เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง, แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาด 1 ขวด, เครื่องวัดอุณหภูมิ 1 เครื่อง และถุงมือ 1 กล่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้มีนายบรรยงก์ และ น.ส.อมิตา พักอาศัยอยู่ที่ คอนโดมิเนียม ลักลอบเพาะปลูกและจำหน่ายเห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ผ่านทางออนไลน์และส่งให้ลูกค้าผ่านทางบริษัทพัสดุเอกชน  

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อเห็ดขี้ควายแห้ง จำนวน 10 กรัม ผ่านแอปพลิเคชั่น Messenger Facebook ของนายบรรยงก์ ในราคา 1,111 บาท นายบรรยงก์ แจ้งว่าไม่มีเห็ดขี้ควายแห้ง มีแต่เห็ดขี้ควายสดและจะขายให้ จากนั้นนายบรรยงก์ ได้แจ้งให้โอนเงินค่าเห็ดขี้ควายสดไปยังบัญชีธนาคาร

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโอนเงินค่าเห็ดขี้ควายสำเร็จ ปรากฎสลิปโอนเงิน แสดงชื่อผู้รับเงิน ชื่อนายบรรยงก์ ต่อมานายบรรยงก์ ได้แจ้งว่าจะส่งเห็ดขี้ควายให้ทาง รถจักรยานยนต์รับจ้าง Grab Express โดยจะส่งจาก หน้าคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ไปยังที่อยู่ของผู้ซื้อ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตที่บริเวณ หน้าคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 และบริเวณใกล้เคียง ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. (27 พ.ค.) พบหญิงสาวตำหนิรูปพรรณตรงกับ น.ส.อมิตา เดินถือถุงสีน้ำตาล ลงมาจากคอนโดมิเนียม อาคาร 1 ในลักษณะมารอส่งของ มีเหตุอันควรสงสัยว่าภายในถุงสีน้ำตาล คือเห็ดขี้ควาย ซึ่งมีไว้ในครอบครองมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในถุงสีน้ำตาล ผลการตรวจค้นพบ เห็ดขี้ควายสด น้ำหนักประมาณ 200 กรัม น.ส.อมิตา รับว่าเป็นเห็ดขี้ควายที่จะนำมาส่งให้ผู้สั่งซื้อจริง จึงแจ้งให้ น.ส.อมิตา ทราบว่าต้องถูกจับกุม สอบถาม น.ส.อมิตาฯ ผู้ต้องหา ให้การรับว่าภายในห้อง คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ซึ่ง น.ส.อมิตา พักอาศัยอยู่กับนายบรรยงก์ ยังมีเห็ดขี้ควายที่เก็บไว้และกำลังเพาะปลูกอยู่อีกจำนวนมาก จึงยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ

เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายใน ห้องดังกล่าว พบนายบรรยงก์ อยู่ภายในห้องและพบเห็ดขี้ควายที่เก็บไว้และกำลังเพาะปลูกอยู่ และอุปกรณ์เพาะปลูกเห็ดขี้ควายจำนวนมาก จึงได้จับกุมตัวดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมาย

จากการซักถาม น.ส.อมิตา แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้ประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ต่อมาได้ลาออกจากงานมาพักอาศัยกับนายบรรยงก์ เนื่องจากชอบและศึกษาในหินแร่ประเภท Moldavite อ้างเป็นสะเก็ดดาวที่ตกมาบนโลก ซึ่งนายบรรยงก์ประกอบอาชีพซื้อแร่ดังกล่าวจากต่างประเทศมาขายต่อให้ผู้สนใจ รายได้หลักหมื่นและหลักแสนบาท และ น.ส.อมิตา เคยมีเพื่อนชักชวนให้มาหาสัจธรรมและสามารถหลุดพ้นได้โดยใช้เห็ดขี้ควาย จึงคบหากับนายบรรยงก์ และพักอาศัยด้วยกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา  อีกทั้งได้รับประทานและปลูกเห็ดขี้ควายด้วยกัน

ด้านนายบรรยงก์ ให้การว่า ตนได้เพาะเห็ดขี้ควายจำหน่ายและรับประทานเอง เริ่มทำมาประมาณ 2 ปี โดยศึกษาจากช่องทางออนไลน์ ยูทูป, Tiktok และค้นหาข้อมูลผ่านทาง Google จนได้สั่งซื้อมาเพาะเองที่ห้อง เปิดเครื่องปรับอากาศและให้ความชื้นจนสามารถเพาะเห็ดขี้ควายได้จำนวนมาก  

นอกจากนี้ทั้งสองคนได้มีการจัดคอร์สเป็นทริปสอนรับประทานเห็ดขี้ควาย อ้างว่ารักษาจิตเวช และรักษาโรคได้ทุกโรค บำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดได้ทุกประเภท ผู้ใดที่สนใจเข้าคอร์สเป็นทริปกับตนคิดค่าสอน 11,111 บาท  ทั้งยังอ้างว่าตนเองสำเร็จนิพพาน เป็นเทพเจ้า มีคลื่นความถี่ที่สามารถรับรู้ทุกสิ่งบนโลกได้ โดยหินแร่ที่ตนขายอยู่สัมพันธ์กับเห็ดขี้ควายที่ปลูกเชื่อมโยงทุกสิ่ง อ้างว่าเคยนำเห็ดขี้ควายให้เด็กอายุ 3-4 ขวบ รับประทานเพื่อรักษาจิตเวชเนื่องจากผู้ปกครองเด็กเชื่อว่ารักษาได้  

ล่าสุดเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายบรรยงก์ และ น.ส.อมิตา ได้จัดทริปคอร์สสอนที่ จ.ตราด ได้นำเห็ดขี้ควายให้ประชาชนละแวกนั้นรับประทาน และมีผู้ที่รับประทานแล้วอาเจียนออกมา จากนั้นได้นำเห็ดขี้ควายไปถวายต่อกรมหลวงชุมพรที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เนื่องจากเชื่อว่าถวายสิ่งที่ดีที่สุดให้ไป

เห็ดที่จำหน่ายให้แก่ผู้อื่นผ่านช่องทางออนไลน์อ้างว่าเพื่อช่วยชีวิตผู้คน การจำหน่าย จำหน่ายในราคากรัมละ 100 บาท รายได้รวมจากการจำหน่ายเห็ดขี้ควายและคอร์สสอนรับประทานเห็ดเดือนละหลายแสนบาท อีกทั้งยังได้มีการโพสต์ท้าทายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมตน เนื่องจากไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน

ขณะที่ทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบบัญชีติ๊กต๊อกของนายบรรยงก์ (ผู้ต้องหา) ซึ่งใช้ชื่อว่า ‘หยง แซ่แต้’ มีการ โพสต์คลิปขายเห็ดขี้ควาย บางช่วงพูดว่า “กูกำลังขายยาเสพติดประเภทที่ 5 อยู่” พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “เอาหน่อยเว้ย ๆๆ ผู้รักษากฎหมายพร้อมบอก”

และมีคลิปพี่นายบุญยงก์ นำเห็ดขี้ควายไปถวายต่อกรมหลวงชุมพร เจ้าตัวเขียนแคปชั่นในคลิปนี้ว่า “ประโยคที่ว่าโชคดีแค่ไหนที่เจอพุทธศาสนาไม่มีใครเข้าใจดีไปกว่าผมอะไรที่ใช้จะง่าย ๆ” โดยในคลิปเจ้าตัวพูดว่า “ขอถวายพลังงานที่อยู่ในมือผมเรียกว่าเห็ดวิเศษ เป็นเห็ดราที่มีก่อนกำเนิดสรรพสิ่งทุกสรรพสิ่ง พลังงานที่อยู่ในมือผมคือสิ่งวิเศษที่เมื่อใครให้ค่าหรือเชื่อมต่อพลังงานแล้วจะสามารถย่อยสลายสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์ทั้งปวงได้ ขอถวายแด่เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร ขอให้เสด็จตาช่วยส่งเสริมให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยหรือทั่วโลกได้รู้จักสิ่งนี้และมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งนี้ด้วยปัญญา”

นอกจากนี้มีคลิปที่นายบรรยงก์ (ผู้ต้องหา)ได้โพสต์ในติ๊กต๊อกส่วนตัว “สอนรับประทานของพิเศษ” ในคลิปเป็นเห็ดขี้ควายแห้ง มีการพูดว่า “สอนเด็กน้อยกินเห็ด เห็ดวิเศษคุณสมบัติคือการรักษาอาการทางจิต” ซึ่งก็มีการพูดตอบโต้คนที่ไปคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกินเห็ดขี้ควาย ระบุ กินเห็ดกินให้ถึงไว้ก่อน

จากนั้นตำรวจชุดสืบนครบาลนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ระหว่างนำตัวออกจากห้องขังมาสอบปากคำ ทีมข่าวได้คุยกับนายบรรยงก์ เจ้าตัว ยอมรับว่าเพาะเห็ดขี้ควายไม่ถึงปี อ้างว่าสามารถรักษาโรคได้จริง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงผิดกฏหมาย ตนเองไม่ได้ขาย แต่ตนรับเรื่องจากผู้ที่มีปัญหา และตนก็เสนอวิธีรักษาให้เขา หลาย ๆ ครั้งตนก็ไม่ได้ใช้เห็ดด้วย ใช้แค่ความรู้ของตัวเอง

ตนเองมีข้อมูลความรู้มากมาย และมีความรู้เรื่องด้านจิตวิญญาณ เมื่อถามว่าทำไมถึงนำไปถวายกรมหลวงชุมพร เจ้าตัวบอกขอให้ไปดูทั้งคลิปว่าตนพูดอะไรบ้าง และให้ไปหาข้อเท็จจริงว่าตนเองพูดจริงหรือไม่ และยังอ้างอีกว่าตนเองทำเพื่อโลกใบนี้มาเยอะแล้ว คนที่ไม่มีทางเลือกในการรอดชีวิตมากมายรอดเพราะตน  นายบรรยงก์ อ้างรู้ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ เมื่อถามว่ารู้ว่าตัวเองจะถูกจับมั้ย เจ้าตัวตอบว่า “ผมเคยพูดไปแล้วว่าผมจะสำเร็จภารกิจนี้ ผมอาจจะต้องโดนจับก่อน”

ทีมข่าวได้คุยกับเพื่อนของ น.ส.อมิตา หรือหยก เผยว่า เพื่อนของตนรู้จักกับนายหยง เมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เพื่อนของตนชอบเรื่องหินและผู้ชายคนนี้เขาขายหินแร่ หินธรรมชาติ เพื่อนของตนจึงไปซื้อและผู้ชายคนดังกล่าวได้ชักชวนให้ลองกินเห็ดขี้ควาย หลังจากเจอผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน พฤติกรรมเปลี่ยนไป วันเดียวสามารถตัดสินใจลาออกจากงาน ออกจากบ้าน และเลิกกับแฟนหนุ่มที่คบหากันนาน 10 ปี  ไปคบหากับนายหยง ซึ่งเพิ่งรู้จักกัน

นอกจากนี้ น.ส.หยก เพื่อนของตน ยังพูดเเพ้อไม่มีสติพูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ โดนผู้ชายคอนโทรลตลอดเวลา โทรศัพท์มือถือของเพื่อนผู้ชายสามารถหยิบจับได้หมด พิมพ์แชตตอบแทนหยก เวลาตนวิดีโอคอลไปหาหยกเขาก็เป็นคนรับแทน อีกทั้งนายหยงก็พยายามชักชวนให้ตนและเพื่อนอีกหลายคนไปกินเห็ดขี้ควายด้วย แต่พวกตนปฏิเสธ นายหยงก็จะบอกหยก ให้เลิกคบเพื่อน หยกเหมือนมีอะไรบังตาเชื่อนายหยง จนหมดใจ พฤติกรรมของนายหยง ก็ผิดปกติมาก

“อยากจะบอกเพื่อนว่า ฉันไม่รู้หรอกว่าเห็ดนี้ทำอะไรให้เธอมีความสุขได้บ้าง แต่ถ้าเธอยอมกลับมาหาคนที่เธอรัก พร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอ ไม่รู้จะได้เพื่อนคนเดิมกลับมาหรือเปล่า คาดหวังว่าสิ่งที่เขากินเข้าไปแล้วทำให้หลงผิดขนาดนี้ จะสามารถรักษาบำบัดให้กลับมาเป็นคนเดิมได้” พอเพื่อนกินเห็ดขี้ควายเข้าไปก็หลงผิดคิดว่านายหยง เป็นเทพเจ้า ที่ผ่านมาพยายามตามตัวหยกแต่ติดต่อไม่ได้เพราะถูกตัดขาดทุกช่องทาง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7pxdMR2R9hA