แจ้งจับอดีต ผจก.ดารา อนาจารนักแสดงสาวในสังกัด ทั้งกอด-จูบ หึงเข้าฉากเลิฟซีนนักแสดงชาย

3 นักแสดงสาว แจ้งจับอดีตผู้จัดการดาราดัง คุกคามทางเพศ แฉพฤติกรรมทั้งกอด-จูบ หึงเข้าฉากเลิฟซีนนักแสดงชาย ‘กัน จอมพลัง’ เผย มีผู้เสียหายประสานมา 7 คนแล้ว ผู้เสียหายบางรายฉีกสัญญารู้สึกไม่ปลอดภัย

วานนี้ (22 พ.ค.) เวลา 10.40 น. ที่ สน.คันนายาว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวลชย์ หรือ กัน จอมพลัง พากลุ่มนักแสดงสาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ราชนัย ชินายศ สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว หลังถูกผู้จัดการดาราดังคุกคาม ประกอบด้วย

-น.ส.ศิรีนน์  หรือน้องไข่มุก อายุ 25 ปี นักแสดงประกอบ โดนหอมหัวไหล่และพยายามดึงมือไปจับบนรถ แต่กลับปฏิเสธว่าจุ๊บแค่หัวเพราะเห็นว่าเล่นดี

 - น.ส.อุรุชา  หรือ น้องพราว อายุ 27 ปี   โดนดึงตัวไปจูบแต่เขากลับอ้างว่าวันนั้นดื่มเหล้าด้วยกัน เมา แต่ตอนที่ทำอ้างว่าสอนการแสดง  

 -น.ส.ธนภรณ์ หรือ น้องมาย ฮาเร็ม อายุ 27 ปี  โดนลูบขาอ่อนใต้โต๊ะ ทั้งที่แฟนของเธอก็นั่งอยู่ตรงกันข้าม

‘กัน จอมพลัง’ เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มนักแสดงที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลผู้จัดการรายนี้ ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการดาราดัง ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับกลุ่มผู้เสียหาย โดยได้มีการจับมือ กอดจูบลูบคลำ นักแสดงในสังกัดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางรายยังโดนจับหน้าอกอีกด้วย ทำให้ผู้เสียหายหลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อมีการพูดคุยกันจึงทราบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกกระทำดังกล่าวหลายราย

โดยจากพฤติกรรมนี้ทำให้บางคนมีการยกเลิกสัญญาพร้อมให้เหตุผลว่าถูกคุกคามทางเพศ ทางผู้จัดการได้ยอมรับในส่วนนี้จึงมีการปล่อยผ่านไป แต่ภายหลังผู้จัดการได้ออกมาอ้างว่าผู้เสียหายเป็นผู้ยินยอมให้กระทำดังกล่าว จึงมีการรวบรวมผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือที่ตน ตนจึงประสาน พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว

น.ส.ศิรีนน์ กล่าวว่า เหตุการณ์เริ่มต้นโดยผู้จัดการคนดังกล่าวพยายามติดต่อมาหาตนผ่านโซเชียลตลอดระยะเวลา 7 เดือน โดยก่อนหน้านี้ตนไม่ได้อยากเข้าวงการบันเทิง แต่ตนเห็นว่าผู้จัดการรายนี้เป็นผู้จัดการดาราดังจึงตัดสินเข้าร่วมเป็นนักแสดงในสังกัดตามสัญญาระยะเวลา 5 ปี  ซึ่งตนคิดว่าผู้จัดการรายนี้เป็นเพศที่ 3 เพราะมีลักษณะท่าทางตุ้งติ้ง ต่อมาตนจึงทราบว่าผู้จัดการเป็นผู้ชายแท้ เพราะผู้จัดการเคยพาแฟนสาวมาพบตน

ตนจึงรู้สึกไว้วางใจ แต่หลังจากเริ่มทำงานได้ 6 เดือน ผู้จัดการก็เริ่มมีพฤติกรรมขอจับมือ 2-3 ครั้งบนรถ และขอกอดบนรถ 2-3 ครั้ง ส่วนที่บ้านของผู้จัดการมีการดึงเข้าไปกอดโดยไม่ขอ 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการชักชวนตนให้ไปนอนพักที่บ้านของผู้จัดการโดยอ้างว่าเพื่อไปทำกิจกรรมเวิร์คช็อป มีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนี้ยังมีการจูบหน้าผากและไหล่กลางกองถ่ายต่อหน้าทุกคนพร้อมถามว่า “รักพ่อไหม” โดยอ้างว่าเป็นการให้รางวัลซึ่งตนไม่ได้ต้องการ

น.ส.ศิรีนน์ กล่าวอีกว่า ผู้จัดการยังมีพฤติกรรมหึงหวงตนเวลาเข้าฉากกับนักแสดงชายที่มีฉากเลิฟซีน ผู้จัดการมักจะพูดว่า “เห็นแล้วเลือดขึ้นหน้าเลย” และยังไม่ให้ไปทานข้าวร่วมกับเพื่อนนักแสดง ไม่ให้ติดตามโลกโซเชียลของเพื่อนนักแสดงอีกด้วย ซึ่งมีการขมขู่ว่าหากไม่เชื่อฟังผู้จัดการจะไม่ได้รับงาน ในตอนนี้ตนได้มีการฉีกสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยผู้จัดการไม่ได้มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด

แต่เมื่อล่าสุดที่ได้มีโอกาสเจอกันที่งานกาล่าภาพยนตร์ผู้เช่า ทางผู้จัดการได้เข้ามาทักในท่าทีที่ไม่มีการสำนึกผิดและพูดว่า จะต่อว่าพร้อมกันทีเดียว พร้อมทิ้งท้าย “ขอให้มึงไปได้ดีแล้วกัน” จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นแผลใจของตน ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและไม่มีการยอมความ ทั้งนี้ตนอยากฝากเตือนทุกคน หากมีใครชักชวนให้ไปเป็นนักแสดงในสังกัด ให้ตรวจเช็คประวัติผู้จัดการให้ดีก่อนจะทำการเซ็นสัญญา

ขณะที่ ‘กัน จอมพลัง’ กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครที่ได้รับผลกระทบแบบเดียวกันจากผู้จัดการรายนี้ให้ประสานมายังตน ขณะนี้มีผู้เสียหายได้ประสานมายังตน 7 คน แล้ว หรือหากใครต้องการเข้ามาเป็นพยานก็สามารถประสานมาที่ตนได้เช่นเดียวกัน เบื้องต้นทราบถึงโปรไฟล์ผู้จัดการคนดังกล่าวแล้ว แต่ขอให้เป็นตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้มีแชตไลน์ที่ผู้เสียหายคุยกับอดีตผู้จัดการ “พอมีพี่แพรวดีน่าก็ปกติ แต่พ่อไม่ปกติ ที่หนูรู้สึกนะและสังเกต” /อดีตผู้จัดการตอบ “พ่อถึงบอกเวลาอยู่คนเยอะ ๆ พ่อต้องเป็นผู้นำ ผู้ใหญ่”/ ผู้เสียหายตอบกลับ “แต่พ่อคุยกับดีน่ากับพี่แพรวปกตินะ แต่ไม่กับหนู”/อดีตผู้จัดการตอบ “หนูไม่คุยกับพ่อ”/ ผู้เสียหาย “พ่อไม่มองหน้าหนู” /อดีตผู้จัดการตอบ “อยากจะมองอยากจับมือ”

และมีแชตที่อดีตผู้จัดการคนนี้คาดว่าคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง พิมพ์ข้อความในแชตไลน์ว่า “สวัสดีครับ …..ครับ เป็น ผจก นักแสดง

นอกจากนี้มีคลิปเสียงที่นักแสดงสาวซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย โทรคุยกับอดีตผู้จัดการและได้บันทึกเสียงไว้ ผู้เสียหายจะเรียกว่า “พ่อ” โดยพยายามสอบถามว่าพ่อทำใช่มั้ย หนูไม่เคยพูดเรื่องนี้โคตรจะเป็นแผลใจเลย พ่อทำกับหนูอย่างนั้นได้ยังไง หนูเคารพหนูให้เกียรติ โดยอดีตผู้จัดการบอกว่า วันนั้นเรากินเหล้านานมาก พูดตามตรงภาพไม่ปะติดปะต่อ ภาพติด ๆ ดับ ๆ เมาสุด

จากนั้นผู้เสียหายตอบกลับจะมาพูดว่าเมาไม่ได้ เพราะพ่อไปพูดกับคนอื่นว่าสอนพี่พราวแสดง และพ่อจะทำอีกครั้งที่หน้าบ้าน ผู้เสียหายบอกว่าถ้าเมาแล้วมีเรื่องลวนลามแบบนี้จะเชื่อใจอยู่ต่อได้ยังไง/ โดยอดีตผู้จัดการระบุว่าที่ตนพูดไม่ได้แก้ตัว ตนพูดอะไรไม่ได้แค่รับสภาพ รู้เพียงว่าภาพไม่ปะติดปะต่อแล้วเมามากจริง ๆ จะให้พ่อพูดขอโทษหรือทำยังไง

ขณะที่ น.ส.ธนภรณ์  หรือ น้องมาย ฮาเร็ม ได้โพสต์อินสตราแกรม บางช่วงระบุว่า “ไม่สามารถร่วมงานกับบุคคลที่มีพฤติกรรม SEXUAL HARASSMENT และมีพฤติกรรมอื่น ๆ  ที่ไม่ส่งผลดีต่อตัวมายและบุคคลในค่ายได้อีกต่อไป ก่อนหน้านี้มายได้ให้โอกาสและพยายามเข้าใจเขาเป็นอย่างมาก เพียงเพราะไม่อยากทำลายชีวิตใครให้พังลง และไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้ามาแสดงตัวเรื่อย ๆ จนมายค่อนข้างตกใจและได้รับรู้ว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้มาตั้งแต่ 10 ปีก่อนแล้ว ไม่เปลี่ยนเลย จริง ๆ มีคนทักมาเตือนเยอะมากค่ะ แต่มายก็คิดว่าคนเราเปลี่ยนกันได้ บอกตามตรงผิดหวังมากค่ะ ที่มายออกมาแสดงจุดยืนครั้งนี้เพราะไม่ต้องการให้มีเหยื่อเพิ่มขึ้น และสงสารน้อง ๆ ในค่ายจริง ๆ ค่ะ จึงไม่ร่วมงานกับบุคคลที่มีพฤติกรรมฉวยโอกาสหากินกับความฝันของเด็ก”

ด้าน น.ส.อุรุชา กระสายแก้ว หรือ น้องพราว  ได้โพสต์อินสตราแกรมระบุว่า “จากกรณีข่าวที่หลายคนทราบเรื่อง sexual harassment ที่เกิดขึ้นกับพราวโดยอดีตผู้จัดการ พราวขออนุญาตออกมาชี้แจงว่า พราวได้ยกเลิกสัญญาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตผู้จัดการท่านนี้อีก เพื่อความสะดวกในการทำงานมากขึ้นจึงออกมาชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกัน

นอกจากนี้มีผู้ใช้อินสตราแกรมอีกรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นอีก 1 พยาน พูดถึงเรื่องที่มีกระแสข่าวออกไปบ้างแล้ว เกี่ยวกับผู้จัดการคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพื่อช่วยยืนยันว่าบุคคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมดังนั้นจริง ในเรื่องของการถึงเนื้อถึงตัวต่าง ๆ กับนักแสดงรอบตัวและเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคราว ไม่ควรมีใครจะต้องมีแผลในใจกับเรื่องแบบนี้และไม่ควรกล่าวโทษเหยื่อที่ถูกกระทำ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มี่ไม่สะดวกใจที่จะอยู่ใรความดูแลของบุคคลดังกล่าวอีกแล้ว ขอบคุณค่ะ”

พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว รับแจ้งความแล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหากับทางผู้ก่อเหตุอีกครั้ง เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดฐาน "อนาจารต่อหน้าธารกำนัน" มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ต้องเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vjQCnOkOj2w