สังคม

พายุฝนถล่มอุทัยฯ พัดต้นไม้ใหญ่โค่นทับเด็ก 3 ขวบดับ - ต้นมะขามล้มทับโต๊ะหินอ่อน 2 นร.อนุบาล รอดตายหวุดหวิด

14 พ.ค. 2567

35 views

อุทัยธานี ยายร่ำไห้แทบขาดใจ พายุลมฝนพัดกระหน่ำต้นไม้ใหญ่โค่นทับหลาย 3 ขวบดับสลด - ส่วนที่บุรีรัมย์ โต๊ะหินอ่อนช่วยชีวิต 2 นร.อนุบาล ต้นมะขามล้มทับในโรงเรียน


 เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.67)  เวลาประมาณ 16.30 น.  เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ในพื้นที่ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี  ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงนานประมาณ 30 นาที  สร้างความเสียหายอย่างหนัก  ต้นไม้โค่นล้มทับบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย


โดยเฉพาะที่บ้านของนางสาวเดชทอง อายุ 62 ปี  ถูกต้นประดู่แฝด อายุกว่า 50 ปี ล้มทับเพิงพัก ทำให้น้องชมพู หลานสาววัย 3 ขวบ เสียชีวิตทันที  

ยายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ  ยายกับน้องชมพู นั่งอยู่ที่เพิงหลังคาสังกะสีข้างบ้าน โดยยายกำลังป้อนหมี่ผัดให้น้องชมพูกิน ตอนนั้นมีลมแรง และฝนเริ่มจะตก แต่ไม่คิดว่าลมจะแรงจนถึงขนาดพัดเอาต้นประดู่แฝดโค่นล้มลงมาแบบถอนรากถอนโคน ทับเพิงหลังคาสังกะสีพังถล่มลงมา ตัวยายเองได้รับบาดเจ็บ มีแผลฉีกขาดที่แขน ส่วนน้องชมพูเสียชีวิต


ยายเล่าทั้งน้ำตา เพราะยังตกใจและทำใจกับความสูญเสียไม่ได้  ว่า วานนี้ (13 พ.ค.67) เป็นวันเกิดของน้องชมพู น้องบอกกับยายว่า อยากเป่าเค้กวันเกิด ยายก็เตรียมเค้กและไก่ทอดของโปรดไว้ให้ กะว่าตอนเย็นๆ ค่ำๆ รอตากลับจากเลี้ยงควาย ก็จะมาเป่าเค้กและกินไก่ทอดกัน จึงพาน้องมาป้อนหมี่ผัดรองท้องระหว่างรอตากลับบ้าน ไม่คิดเลยว่า จากวันเกิดจะเป็นวันที่น้องชมพูต้องจากตากับยายไปอย่างไม่มีวันกลับ


ด้านนายประสาร วิมลมุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลางดง นำคนงาน ของอบต. และชาวบ้าน  มาช่วยเหลือตัดต้นไม้ที่ล้มออกก่อน และประสานตำรวจกับแพทย์โรงพยาบาลทัพทัน มาชันสูตรศพ เบื้องต้นพบว่า น้องชมพูถูกต้นไม้ล้มทับทั้งตัว จนคอหัก ส่วนตามลำตัวมีบาดแผลเล็กน้อยที่แผ่นหลัง ซึ่งทางยายและญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพน้องชมพูให้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป


ขณะเดียวกันแรงลมพายุพัดกระหน่ำดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายกับตำบลหนองกลางดง  ทั้งหมด 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 10 และหมู่ 15 บ้านเรือนเสียหาย หลังคาปลิวหายไปหลายสิบหลัง และพายุยังพัดถล่มโรงเรือนที่มีรถจอดอยู่พังเสียหายอีก 1 คัน รวมทั้งต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนอีกหลายสาย  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลางดง เร่งนำเจ้าหน้าที่และคนงาน รวมทั้งชาวบ้านอาสาสมัคร ระดมเลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนน จนใช้เส้นทางได้ตามปกติ หลังจากนี้จะเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป

ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีต้นไม้ล้มทับเด็กภายในโรงเรียนอนุบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงนำกำลังเข้าไปให้การช่วยเหลือ


ที่เกิดเหตุพบต้นมะขามจากข้อมูลอายุประมาณ 30 ปี ล้มใส่โต๊ะหินอ่อน  มีเด็กชายชั้นอนุบาล 3 ติดอยู่ในซอกโต๊ะ 2 คน เจ้าหน้าที่จึงตัดกิ่งไม้มะขามออก  แล้วนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นเด็กขาหัก 1 คน เจ็บข้อเท้า 1 คน


สอบถามนายณฐพล อายุ 50 ปี คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนมานั่งที่โต๊ะหินอ่อน เพื่อรอรับลูกกลับบ้าน แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีใครนั่งด้วย เพราะนั่งหันหลังให้โต๊ะ ระหว่างที่นั่งรออยู่ได้ยินเสียงคนตะโกน ว่า “ต้นไม้ล้ม” ตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไร เพราะช่วงนั้นไม่มีลม แต่เพียงเสี้ยววินาที ต้นไม้ก็ล้มครืนลงมา พอรู้สึกตัวก็รีบมุดออกมา รู้สึกเจ็บที่หลัง เมื่อหันไปดู ก็เห็นเด็ก 2 คน งร้องไห้อยู่ใต้โต๊ะหินอ่อน จากนั้นมีครูวิ่งมาหา และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเด็กทั้ง 2 คน  

ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดที่ตนอยู่เพียง 200 เมตร หลังรับแจ้งทางวิทยุ ได้วิ่งเข้ามาดู และเข้าไปช่วยเด็กทั้งสองคนออกมา ซึ่งโชคดีที่มีโต๊ะหินอ่อนบังเอาไว้ และกิ่งไม้ใหญ่ไม่โดนจุดสำคัญของเด็ก

ส่วนที่ จ.ราชบุรี เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 13 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมาว่ามีลมพายุพัดป้ายเหล็กขนาดใหญ่ของปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน เขตตำบลหนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นอกจากนั้นยังมีหลังคาบ้านเรือนถูกลมพายุพัดปลิวหายไปหลายหลังคาเรือนของ ม.3 และ ม.4 ต.หนองปลาหมอ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ


ที่ปั้มน้ำมัน พบป้ายโลโก้ที่ทำด้วยเหล็กขนาดใหญ่ ได้ล้มหักลงมาทับร้านสะดวกซื้อ ทำให้ทางปั้มต้องปิดบริการชั่วคราว และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปในพื้นที่อันตราย และบ้านประชาชนที่อยู่ใกล้ปั้มน้ำมัน พบเศษกระเบื้องหลังคาปลิวตกลงมาแตกกระจายเกลื่อนพื้น จานดาวเทียมถูกแรงลมพัดตกลงมาพังเสียหาย นอกจากนั้นที่บ้านของนางนิด สมพงษ์ ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งก็ถูกลมพายุพัดหลังคากระเบื้องปลิวตกลงมาแตกกระจาย โชคดีที่เวลานั้นร้านได้ปิดไปแล้ว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


นางนิด เล่าว่าก่อนหน้านี้เมฆดำก้อนใหญ่รวมตัวกันได้ สักครึ่งชั่วโมง ลมพายุก็พัดแรงมาก แต่ปริมาณฝนตกไม่มาก แต่ลมแรงมาก ที่บ้านตนกระเบื้องถูกพายุหอบไปจำนวน7-8แผ่น ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางผู้ใหญ่บ้านและทางเจ้าหน้าที่ อบต.หนองปลาหมอ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายแล้ว ซึ่งคาดว่ายังมีอีกหลายหลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kICLWHpHdgw

คุณอาจสนใจ

Related News