พ่อป่วยซึมเศร้า ไลฟ์พาลูกวัย 1 ปี ขับเก๋งดิ่งแม่น้ำตรัง หวังจบชีวิต ล่าสุดทั้งคู่อาการโคม่า

สะเทือนใจ พ่อไลฟ์พาลูกวัย 1 ปี ขับเก๋งดิ่งแม่น้ำตรัง หวังจบชีวิต ชาวบ้านเร่งช่วยชีวิต ล่าสุดทั้งคู่อาการโคม่า เบื้องต้นทราบว่าผู้พ่อ เป็นโรคไบโพลาร์ และโรคซึมเศร้า มักจะชอบโพสต์พ้อชีวิตและจะจบชีวิตบ่อยครั้ง

เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.67) เวลาประมาณ 16.30 น.  ตำรวจ สภ.บ้านโคกยาง อ.กันตัง  จ.ตรัง รับแจ้งมีพ่อรายหนึ่งไลฟ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “ขุนแผน แดนใต้” นำลูกสาวขับรถเก๋งพุ่งตกแม่น้ำตรัง บริเวณใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หรือ สะพานย่านซื่อ ตรงข้ามกับวัดย่านซื่อ พื้นที่หมู่ 3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ และตรวจสอบที่เฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุ พบว่ามีการตั้งกล้องมือถือไว้บริเวณคอนโซลรถ โดยหันกล้องไปฝั่งหน้ารถ ที่จอดอยู่ริมแม่น้ำตรัง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และผู้เป็นพ่อเดินลงไปดูแม่น้ำ

ซึ่งตลอดเวลามีเสียงพูดของลูกสาววัยประมาณ 1 ขวบมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงผู้เป็นพ่อพูดคุยกับลูก จากนั้นก็ขึ้นรถมาและหันกล้องมาจับที่หน้าของคนเป็นพ่อ พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถจับใจความได้ อาจจะเป็นสัญญาณเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร ก่อนที่คนเป็นพ่อจะถอยรถเล็กน้อยจากนั้นก็ขับรถพุ่งลงไปในแม่น้ำ โดยขณะที่รถกำลังลงน้ำ คนเป็นพ่อยังยกโทรศัพท์มือถือมาถ่ายไลฟ์ต่อ ท่ามกลางชาวเน็ตที่เห็นภาพ พากันเข้ามาห้ามปรามและให้กำลังใจ หวังว่าพ่อจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำร้ายตัวเองและลูกสาว แต่ภาพจากไลฟ์ก็ยังเห็นว่ารถจมลงไปในแม่น้ำจนลึกถึงกระจกหน้ารถแล้ว จากนั้นภาพก็ตัดไป

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า มีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 30 คน ช่วยกันลากรถเก๋งที่จมน้ำมิดหลังคาติดกับตอม่อสะพาน ความลึกประมาณ 3 เมตร ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 6 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับช่วยนำตัวนายกวีวัฒน์  อายุ 28 ปี ออกมาจากรถ ในสภาพหมดสติ และนำตัวเด็กหญิงอายุประมาณ 1 ปี 7 เดือน ลูกสาวของนายกวีวัฒน์ ซึ่งหมดสติเช่นกัน  โดยทีมแพทย์พยาบาล รพ.กันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้เร่งปั้มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตกลับคืนมา พร้อมกับนำตัวส่ง รพ.ตรัง เบื้องต้นมีรายงานว่า ทั้งคู่อยู่ในอาการโคม่าและยังไม่รู้สึกตัว

จากการตรวจสอบสภาพรถคันเกิดเหตุ พบว่ากระจกหลังแตก กระจกข้างแตก มีเศษของกระจัดกระจาย และมีขวดนม อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเด็ก พร้อมกับธงพระจีนอยู่ภายในรถ  

จากการสอบถามนายประเสริฐ ใหญ่จริง อายุ 43 ปี  ชาวบ้านในจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนนั้นตนอยู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มาก แฟนของตนเห็นท้ายรถผลุบโผล่อยู่ในแม่น้ำ จึงบอกให้ตนมาช่วย ตนกับพลเมืองดีอีกหลายคน จึงดำน้ำลงไปช่วยกันลากรถขึ้นมา แล้วเอาค้อนทุบกระจก พบว่าคนเป็นพ่อนั่งอยู่เบาะคนขับและรัดเข็มขัดนิรภัย จึงช่วยกันดึงตัวออกจากรถ ส่วนลูกสาวพบว่าอยู่ตรงใต้ที่พักเท้าตรงเบาะข้างคนขับ ตอนนั้นทั้งคู่หมดสติไปแล้ว  เพราะกว่าที่จะมีคนมาช่วย ก็นานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว และน้ำตรงจุดนั้นก็ลึกประมาณ 3 เมตร รถจมมิดทั้งคัน  แต่โชคดีที่น้ำใสทำให้มองเห็นท้ายรถ  และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ มีคนเห็นว่า มาจอดรถอยู่ก่อนแล้ว  

สอบถามพี่ชายของนายกวีวัฒน์  ทราบว่า นายกวีวัฒน์  มีอาการป่วยเป็นโรคไบโพล่า และโรคซึมเศร้า เลิกกับภรรยาไปได้ประมาณ 1 ปีกว่า ส่วนลูกสาวอยู่ในความดูแลของพ่อ ก่อนหน้านี้ผู้เป็นพ่อมักจะโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะตัดพ้อชีวิต และคิดจะจบชีวิตมาแล้วหลายครั้ง  

นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กยังพบว่า  มีการกล่าวอ้างและโพสต์หน้าเฟซบุ๊กของชายคนหนึ่ง พยายามบอกว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดสั้นในครั้งนี้ ซึ่งต่อมา ชายเจ้าของเฟซบุ๊กที่ถูกกล่าวหา ได้โพสต์ใบลงบันทึกประจำวัน ที่ไปแจ้งไว้ที่ สภ.กันตัง ว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องดังกล่าว และมาพบกับพี่ชายของนายกวีวัฒน์ เพื่อจะให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ นายกวีวัฒน์  มาขอยืมเงิน แต่ตนไม่ให้ ทำให้นายกวีวัฒน์  ไปโพสต์เฟซบุ๊กต่อว่า ว่า “พร้อมจบชีวิตเอง มึงต้องการแบบนี้ใช่ไหมงานขาวดำกูจัดให้” ก่อนจะไลฟ์ฆ่าตัวตาย

ทางตำรวจ จะเร่งสอบปากคำญาติและพยานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนอาการสองพ่อลูกขณะนี้ ยังโคม่า และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/72DUCTv3d_0