หนุ่มร้องเพื่อนบ้านสังสรรค์เปิดเพลงดังกระหึ่ม ยืนไหว้ขอเบาเสียงยังไม่สนใจ จนป่วยซึมเศร้า

หนุ่มร้องเพื่อนบ้านชอบสังสรรค์ เปิดเพลงเสียงเบสดัง ยืนไหว้ ขอให้ช่วยลดเสียง เพราะตัวเองป่วยเป็นแพนิก เพื่อนบ้านกลับไม่สนใจ แจ้งหน่วยงานหลายครั้งก็ยังเหมือนเดิม


นี่เป็นคลิปวงจรปิดที่บันทึกเสียงเพื่อนบ้านตั้งวงดื่มกิน และเปิดเพลง ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานแบบไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน


โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 17.17 น. ช่วงเย็นๆ เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดังมาก
ต่อมา วงจรปิดวันที่ 25 มกราคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 3 ทุ่มกว่า เพื่อนบ้านเริ่มตั้งวงสังสรรค์เปิดเพลงเสียงดัง
ยาวไปจนถึง 5 ทุ่มกว่า ยิ่งดึกก็ยิ่งดัง ทั้งส่งเสียงพูดคุย และร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน


หลังจากนั้น 5 ทุ่ม 54 มีตำรวจเข้ามาบอกให้เบาเสียง และขับรถออกไป เพื่อนบ้านก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไร แถมยังตะโกนเสียงดัง ทั้งเสียงผู้ชาย ผู้หญิง ว่าตำรวจมาแล้ว ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ แล้วหลังจากนั้นพอตำรวจขับรถออกไป เพื่อนบ้านก็เปิดเพลงเสียงดังอีกครั้ง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ทีมข่าวคุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ได้พูดคุยกับคุณธนกร อายุ 38 ปี ผู้ร้อง เล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่อาศัยที่บ้านหลังนี้มาประมาณ 4 ปี อยู่ที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตนเอง ภรรยา และลูกเล็กอีก 2 คน (4ขวบ กับ 2 ขวบ)


ต่อมาเมื่อปี 2566 ตนเองมีอาการป่วยเป็นโรคแพนิก และซึมเศร้า เนื่องจากประสบปัญหาเพื่อนบ้านที่เขาเป็นกลุ่มเพื่อนกัน ทำงานด้วยกัน มักจะตั้งวงดื่มสังสรรค์กันบริเวณหน้าบ้านในทุกๆ วันหยุด ซึ่งบ้านติดกับบ้านของตนเอง มีการเปิดเพลงเสียงดัง บางครั้งตนเองถึงขั้นมีอาการแพนิกกำเริบ เครียดนอนไม่หลับ อาการแย่ลง รวมทั้งลูกเล็กทั้ง 2 คน ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย


ตอนแรกตนเลือกที่จะเข้าไปพูดคุยก่อน ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ซึ่งก็ได้ไปพูดคุยหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่ได้ดังอะไรเลย เพิ่งจะเปิด ยังไม่มืดเลย จะอะไรนักหนา หลายรอบแล้วนะ" ซึ่งตนก็ได้แจ้งไปว่าตนป่วย มีปัญหาสุขภาพ พอได้ยินเสียงเบสที่ดังมากๆ จะมีอาการใจสั่น ตัวสั่น และที่สำคัญตนย้ำว่า ไม่ได้ต้องการให้ปิดเพลง ขอแค่ช่วยเบาเสียงเบสลงเท่านั้น


ตนเองพยายามแก้ปัญหาที่ตัวเอง โดยการไปปรึกษาคุณหมอ ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการของตนหนักขึ้น จากกินยาเพียง 1 เม็ด ก็ต้องกินเพิ่มเป็น 3 เม็ด และแนะนำให้แก้ปัญหาเรื่อง ภาวะทางเสียง ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีโอกาสหาย เคยคิดจะย้ายบ้านหนีแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย


จนปัญหาสะสมเรื่อยมา สุดท้ายตัดสินใจแจ้งตำรวจ พอสายตรวจ สภ.บ้านโพสต์มา เพื่อนบ้านก็หยุดไปช่วงหนึ่ง แต่พอตำรวจออกไปก็เปิดเสีงดังอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง และตำรวจแจ้งว่าไม่มีอำนาจจับกุม ให้ตนไปร้อง อบต.ในพื้นที่


ตนจึงเดินทางไปร้องเรียนที่ อบต.หนองบัว แต่ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งตนเริ่มไม่ไหว เพราะเพื่อนบ้านก็เริ่มไม่กลัวเกรง พอเจ้าหนาที่กลับออกไปปุ๊บ ก็จะตะโกนด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย จึงเข้าไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม


ทางศูนย์ดำรงธรรม ได้สอบถามไปที่ อบต. แจ้งกับตนว่า มีการส่งหนังสือตอบกลับแล้ว แต่ตนไม่เคยได้รับหนังสืออะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็พูดว่า "อ้าว ไม่ได้รับหรอ" ก่อนจะไปนำหนังสือนั้นมาให้


โดยในหนังสือระบุผลการตรวจสอบ ว่า ลงพื้นที่ละแวกที่เกิดเสียง ได้ความว่าช่วงเทศกาลและวันหยุดมีเพื่อนมาดื่มกินบ้าง แต่ไม่ได้บ่อยนัก ซึ่งช่วงดึกก็ไม่ได้เปิดเพลงดังแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ หากต้องการจัดงานรื่นเริงหรือใช้เสียงก็ควรต้องขออนุญาตก่อน ส่วนบ้านต้นเสียงยังไม่สามารถระบุได้ชัด เพราะขณะตรวจสอบไม่มีผู้พักอาศัย และไม่มีผู้กระทำผิดในลักษณะนั้น หากเกิดเหตุขึ้นอีก ให้แจ้งมายัง อบต.หนองบัว …"


ที่ผ่านมาตนเห็นข่าวเพื่อนบ้านมีปัญหากันเรื่องเสียง แล้วเกิดทะเลาะกัน บางเคสกลายเป็นความรุนแรง ตนเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพียงต้องการอยู่อย่างสงบ หากเพื่อนบ้านได้ดูข่าวอยู่ อยากขอร้องให้ช่วยเห็นใจด้วย ช่วยลดเสียงเบสหนักๆ เท่านั้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lp08BMEKTuc