สังคม

ควบคุมเพลิงได้แล้ว! ไฟไหม้โกดังเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมี จ.อยุธยา

โดย gamonthip_s

2 พ.ค. 2567

128 views

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถควบคุมการลุกลามของไฟที่ลุกไหม้ได้ระดับหนึ่ง และได้ประสานขอรถดับเพลิงโฟม และเคมีขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน จากสำนักงานปภ เขต 2 สุพรรณบุรี เข้ามาสนับสนุน โดยให้รถดับเพลิงทำหน้าที่ฉีดน้ำบล็อกกลุ่มควันไฟ ไม่ให้ฟุ้งกระจายขึ้นบนอากาศ ไปสร้างผลกระทบกับชาวบ้าน ส่วนรถดับเพลิงโฟมและเคมีของปภ เขต 2 สุพรรณบุรี จะทำหน้าที่เข้าไปในโกดัง 4 และ โกดัง 5 ต้นเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันสารเคมีเข้าไปฉีดโฟมดับไฟ นับว่าได้ผลสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่ลุกลามกลุ่มควันไฟลดลงตามลำดับ แต่ก็ยังอยู่ในการเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน ไม่ให้ติดไฟขึ้นมาอีก



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักภาชี ได้เข้ามาตรวจจสอบที่เกิดเหตุหาสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบด้านใน เนื่องจากยังมีกลิ่นของสารเคมีฉุนรุนแรงมาก จะเกิดอันตราย
อย่างไรก็ตามนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุไฟไหม้กากสารเคมีด้วย จากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบไฟไหม้ที่โกดัง 4 และโกดัง 5 เป็นไฟไหม้ ส่วนด้านหน้าของทั้งสองโกดัง กากสารเคมีที่ไหม้ไฟ ส่วนใหญ่เป็นโซลเว้นท์ ที่ใช้สำหรับชะล้างในอุตสาหกรรม เชื้อเพลิงที่ไหม้ไฟส่วนใหญ่เป็นเปลือก



อย่างไรก็ตามนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุไฟไหม้กากสารเคมีด้วย จากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบไฟไหม้ที่โกดัง 4 และโกดัง 5 เป็นไฟไหม้ ส่วนด้านหน้าของทั้งสองโกดัง กากสารเคมีที่ไหม้ไฟ ส่วนใหญ่เป็นโซลเว้นท์ ที่ใช้สำหรับชะล้างในอุตสาหกรรม เชื้อเพลิงที่ไหม้ไฟส่วนใหญ่เป็นเปลือกสายไฟฟ้าจำนวนมาก แต่อย่างไรพรุ่งนี้จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บตัวอย่างสภาพอากาศว่า มีสารตัวไหนที่เป็นอันตรายปนเปื้อนอยู่บ้าง ส่วนสาเหตุขอให้ตรวจสอบอย่างละเอียด



สำหรับการเคลื่อนย้ายกากสารเคมีทั้งหมดที่ล่าช้า อยู่ที่ขั้นตอนขบวนการข้อกฏหมายที่สั่งการให้ผู้ครอบครอง คือเจ้าของโกดัง และผู้เช่าโกดัง เข้ามาดำเนินการขนย้ายหรือเอาไปทำลายตามกระบวนการ แต่เมื่อไม่ดำเนินการรัฐต้องดำเนินการเอง จึงทำให้ล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ไหนจะต้องรอขออนุมัติงบะประมาณปี 67 ได้มาแล้ว 6.7 ล้านบาทก็ไม่เพียงพอ ล่าสุดได้ขออนุมัติโยกงบจากราชบุรีมากำจัดกากสารเคมี ที่อำเภอภาชีก่อน เนื่องจากมีความจำเป็น ได้อนุมัติให้มาแล้วจำนวน 28 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างเขียน ทีโออาร์ ว่าจ้างผู้มาดำเนินการ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน




ส่วนเรื่องการลาออกนั้นนายจุลพงษ์รับว่า ยื่นใบลาออกแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา รอการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา สาเหตุที่ลาออกไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้ถูกบีบบังคับจากผู้บังคับบัญชา แต่พูดอั้มอึ้งว่า เมื่อผู้บังคับบัญชาประสงค์จะเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ เผื่องานจะได้ดีขึ้น เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ขอยื่นลาออก เพื่อเปิดทางให้คนใหม่เข้ามาเป็นแทน งานจะได้ดีขึ้นเท่านั้นเองไม่มีอะไร 

คุณอาจสนใจ

Related News