สังคม

แฉคลิปเสียง 'มาดาม ป.' ฉุน 'พระมหา ห.' ทำเรื่องฉาวรั่ว ฝ่ายหญิงเตรียมนัดสื่อแถลง อ้างถูกสามีแบล็กเมล

โดย nattachat_c

12 เม.ย. 2567

271 views

ความคืบหน้ากรณี เพจ อีซ้อขยี้ข่าว เปิดคลิปสามีตามจับชู้ถึงบ้านพักต่างจังหวัด โดยฝ่ายภรรยาเป็นถึงนักการเมือง ร่วมห้องกับพระมหาหนุ่มที่เพิ่งรับเป็นลูกบุญธรรม


โดยฝ่ายสามีถ่ายคลิปตั้งแต่ประตูทางเข้าบ้าน เห็นสายรัดประคต สบง จีวร ถูกถอดวางทิ้งไว้หน้าห้องนอน พอเปิดห้องเข้าไป และเปิดผ้าห่มขึ้น ก็เห็นภรรยาตัวเองนอนเปลือยกายอยู่กับพระรูปดังกล่าว  


ซึ่งต่อมา มีการเปิดเผยว่า ฝ่ายหญิงเป็นนักการเมือง ชื่อย่อ ป. เคยลงสมัคร สส. สังกัดพรรคหนึ่งแต่สอบตก ได้อันดับที่ 4 ในการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก


วานนี้ (11 เม.ย. 67) คุณติ สามีของนักการเมืองหญิงคนดังกล่าว เปิดใจว่า ตนกับภรรยา ที่รู้จักกันในชื่อ มาดาม ป. รู้จักกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว  


ขณะนั้น ตนมีภรรยาอยู่แล้ว พอคบหากับ มาดาม ป.ได้เพียง 6 เดือน ก็หย่ากับภรรยา และมาคบหาจริงจังกับ มาดาม ป. จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2565 ก็หมั้นกัน และอยู่กินฉันท์สามีภรรยา โดยตนย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่บ้านของมาดาม ป. ที่ จ. สุโขทัย ชีวิตคู่เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่มีลูกด้วยกัน  


คุณติ บอกว่า ภรรยาเป็นคนเชื่อเรื่องดวง เรื่องอดีตชาติ  ช่วงหนึ่งภรรยาเล่าว่าทำงานติดขัด ขายที่ไม่ได้ ก็ไปหาหมอดู หมอดูบอกว่า ให้ไปตามหาพระ 2 รูป ที่เคยรู้จัก ให้กลับไปทำบุญกับเขา เพราะดวงเกื้อหนุนกัน จะทำให้ชีวิตดีขึ้น ภรรยาตนก็เชื่อ แล้วไปตามหา จนได้พูดคุยกับพระมหารูปนี้ทางโซเชียล และมีการไปทำบุญกับเขาเรื่อยมา ทั้งไปทำที่วัด ทั้งนิมนต์มาทำบุญที่บ้าน


เมื่อได้ทำบุญใกล้ชิดกัน คุณติ ทราบว่าพระมหารูปนี้เป็นลูกกำพร้า มีพ่อพราหมณ์รับมาดูแล  ให้บวชพระตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยใจสงสา รคุณติก็เลยไปขอพระมหาว่า จะขอรับพระมหาเป็นลูกบุญธรรมได้ไหม  จะได้ดูแลกัน  ภรรยาก็บอกว่าดีแล้ว แต่ตัวเขาขอไม่เป็นแม่บุญธรรม  ให้คุณติลงนามทำเรื่องเป็นพ่อบุญธรรมเพียงฝ่ายเดียว


ต่อมา พระมหาแนะนำให้ภรรยาตนไปหาพระครูบาชื่อดัง  มีญาณระลึกอดีตชาติได้ ก็ไปตามที่เขาแนะนำ  หลังภรรยาไปสนทนากับครูบา ก็มาบอกตนว่า เขารู้แล้วว่าตัวเขาเป็นใครในอดีตชาติ ครูบาบอกเขาแล้ว แต่ภรรยาไม่ยอมบอกรายละเอียดว่าอดีตชาติเป็นใคร  


หลังจากนั้น ครูบารูปเดิม ก็แนะนำให้ภรรยาตนไปที่ดอยสะเก็ด ไปพบหมอดูที่เป็นแม่บุญธรรมของครูบา ตอนที่เข้าไปฟังหมอดูคนนี้ ตนไม่ได้เข้าไปร่วมรับฟัง  มีแค่ตัวภรรยา พระมหา และหมอดูเท่านั้น แต่ตอนนั้นตนก็มองว่าเป็นเรื่องความเชื่อ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร


กระทั่งช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนถึงเดือนมีนาคม ตนเริ่มระแคะระคาย เพราะตนต้องมาทำงานที่กรุงเทพฯ พอกลับบ้านก็สังเกตเห็นว่า ห้องนอนผิดปกติ คล้ายกับมีคนมานอน มีเหยือกน้ำขนาดใหญ่วางในห้องนอน ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมี และไม่ใช่ของตนหรือของภรรยา


นอกจากนั้น ยังมีคนมาบอกว่า ภรรยาไปหาพระมหาที่วัดบ่อยครั้ง บางครั้งไปในเวลากลางคืน นั่งคุยกันในรถนาน ๆ  นอกจากนี้ ภรรยายังโทรศัพท์คุยกับพระมหาบ่อย ๆ เป็นเวลานาน บางทีก็คุยกันตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เนื่องจากช่วงนั้นที่บ้านมีปัญหาหลายเรื่อง จึงคิดว่าภรรยาคงต้องการคำปรึกษา หรือที่พึ่งทางใจ นอกจากนี้ พระมหายังมาที่บ้านบ่อยครั้ง มาสวดมนต์บ้าง ทำพิธีต่าง ๆ บ้าง จนบางครั้งอยู่ถึงดึกดื่น จึงต้องจัดห้องไว้ให้สำหรับพระมหา


ยังมีเหตุการณ์ในรีสอร์ต ที่ทำให้ตนเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของภรรยากับพระมหา คือ ตนกับเพื่อนออกไปซื้อของ ให้ภรรยาของตนกับภรรยาของเพื่อนอยู่ที่รีสอร์ต แต่ภรรยาของเพื่อนเล่าว่า เห็น มาดาม ป. เข้าอยู่ในห้องของพระที่ปิดม่านมิดชิด พอเคาะประตูเรียก ก็เจอพระมหาอยู่ในห้องกับมาดาม ป.สองต่อสอง


จนกระทั่งก่อนวันเกิดเหตุ มีคนใกล้ชิดมาแจ้งว่า พระมหาที่มานอนที่บ้าน  ตนจึงขับรถกลับบ้านที่สุโขทัยโดยไม่บอกภรรยา ถึงบ้านตอนเกือบรุ่งสาง เปิดประตูเข้ามา เจอรองเท้าพระในตู้  แต่พอไปดูที่ห้องนอนของพระ กลับไม่เจอตัว  


ตนจึงเดินไปที่ห้องภรรยา และถ่ายคลิปไปด้วย เห็นทั้งสายรัดประคต จีวร สบง ถูกทอดทิ้งเรี่ยราดอยู่หน้าห้อง เมื่อเปิดประตูเข้าไป กระชากผ้าห่มออก ทั้งพระมหาและภรรยาที่อยู่ในสภาพเปลือยกาย ต่างก็ลุกหนีคนละทิศละทาง พอเห็นว่าตนถ่ายคลิป ทั้งสองคนก็วิ่งเข้ามาแย่งโทรศัพท์ชุลมุน ตนพยายามอดทนอดกลั้นกับภาพที่เห็น และให้ลงมาคุยกันข้างล่าง


ตนถามกับภรรยาไปว่า “สิ่งที่ทำมันใช่ไหม มันถูกต้องไหม” แต่เขายืนยันว่าไม่มีอะไรกัน ไม่ใช่อย่างที่คิด แต่ความรู้สึกของตนตอนนั้นมันเลยคำว่าโมโหไปแล้ว ไม่รู้จะพูดคำไหนสำหรับพฤติกรรมของสองคนนี้  


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าทั้งสองคนสมยอมกัน และภรรยาน่าจะถูกพระมหาใช้กลอุบายต่าง ๆ ล่อลวงให้หลงเชื่อ ยอมมีสัมพันธ์กัน เพราะภรรยาเป็นคนที่เชื่อเรื่องหมอดู เรื่องอดีตชาติแบบสุดขีด


คุณติ บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ คนที่บ้านเคยสงสัยถึงความสัมพันธ์ของภรรยาและพระมหารูปนี้ แต่ตนไม่ได้เชื่อ 100% เพราะตนกราบไหว้นับถือพระรูปนี้  และภรรยาก็อยู่ในศีลธรรม จึงไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  


ถึงตอนนี้ ยังไม่ได้คุยกับภรรยา และยังไม่ได้รับคำขอโทษจากฝ่ายหญิง รวมถึงพระมหา อีกทั้ง ตนยังได้ยินมาว่าฝ่ายหญิงยังมาตำหนิตนให้คนอื่นฟังอีกด้วย ตอนนี้สำหรับพระมหา ถือว่าขาดจากการเป็นลูกบุญธรรมไปโดยปริยาย จากนี้ ตนคงต้องปรึกษาทนายว่า จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรได้บ้าง


หลังจากเกิดเหตุ ยอมรับว่า ความรัก และห่วงใยที่เคยมีให้ ลดน้อยลง ไม่มีใครรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งในทางศาสนา ยิ่งผิดเข้าไปอีก สิ่งที่ตนเจอมันเกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งคนที่อยู่ในผ้าเหลือง ทั้งภรรยาเราที่ทุกคนรู้ว่าเป็นอะไร เป็นยังไง มันรับไม่ได้ มันไม่มีอะไรต่อติดแล้ว มันไม่มีทางแล้ว


ส่วนพระมหา ตนคิดว่าไม่ควรจะสึกเอง สมควรต้องปาราชิก โดนจับสึก ไม่ควรได้กลับมาบวชอีก จึงอยากร้องเรียนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ให้จัดการเรื่องนี้ รวมถึงสำนักหมอดูต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้เกิดเรื่องขึ้น


สุดท้ายนี้ ตนคงไม่มีอะไรจะฝากถึงฝ่ายหญิง เพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าตนอดทนอดกลั้นมากกับภาพที่เห็น และตนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น ตนไปวันนั้น เพื่อจะพิสูจน์ว่า สิ่งที่คนมาบอกตนมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

--------------

ล่าสุด มีรายงานว่า หญิงนักการเมืองที่ถูกกล่าวหา เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยบอกว่า ชายที่อ้างว่าเป็นสามี ไม่ได้จดทะเบียนสมรส อาจจะเป็นเรื่องแบล็กเมลทางธุรกิจ อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมด้วย

--------------

วานนี้ (11 เม.ย. 67)  เพจ อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์คลิปเสียง โดยระบุว่า "คลิปเสียงสนทนาที่อ้างว่าเป็นของ พระมหา ห. และ มาดาม ป. หลังพระมหา ห. ยอมรับกับโยมอุปัฏฐาก ทำให้มาดามไม่พอใจ ที่ความลับรั่วไหลไปถึงบุคคลอื่นภายนอก"


โดยเสียงภายในคลิป เป็นการสนทนาหลายสาย มีผู้หญิง 2 คน และผู้ชายหนึ่งคน คาดว่าเป็น พระมหา ห. , มาดาม ป. และบุคคลที่สาม มีการโต้เถียงกัน ในประเด็นที่บุคคลที่สามเอาเรื่องไปพูดให้เกิดความเสียหาย ใจความว่า


มาดาม ป. : คุณเอาหลักฐานอะไรไปบอกว่าได้กับหลวงพี่ 2 ครั้ง

บุคคลที่ 3 : หลวงพี่ยอมรับเอง

มาดาม ป. : หลวงพี่พูดมา ได้ตอนไหน คุยเรื่องนี้เมื่อไร เรื่องนี้ฉันไม่จบนะ เรื่องจริงไม่จริงไม่รู้ แต่คุณคุยด้วยเรื่องอะไร มีสิทธิ์อะไรเอาไปพูด คุณหมิ่นประมาท ติดคุกนะ

บุคคลที่ 3 : ก็หลวงพี่ยอมรับเอง

พระมหา ห. : ผมไม่ได้ยอมรับ คุณพี่ถามผมเพื่ออะไร แล้วเอาไปพูดต่อเพื่ออะไร

--------------

หลังจากนั้น เพจก็แฉอีกรัว ๆ โดยเปิดเผยรูปภาพ ที่ระบุว่าเป็นภาพลับ เป็นภาพภายในห้อง ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคลิปที่ถูกปล่อยออกไป 


โดย เพจ อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์แคปชั่นว่า “ความสุขของเธออีกหนึ่งอย่างคือการคอลกับพระที่ไม่ใช่พระมหา…(เปรียบเทียบประตูค่ะ)”


นอกจากนี้ ในคอมเมนต์ ทางเพจยังโพสต์ภาพหญิงสาวคนหนึ่ง นอนอยู่เตียง เปลือยหน้าอก เป็นภาพในลักษณะที่กำลังวิดีโอคอลคุยกับใครบางคน  โดยทางเพจระบุว่า “ภาพเต็มคือเห็นหมดค่ะ”


อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ถือว่าไม่สามารถเอาผิดได้แล้ว เนื่องจาก ฝ่ายชายได้ลาสิกขา และฝ่ายหญิงเพียงแต่หมั้นเอาไว้ ตามกฎหมายจึงไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ฝ่ายคู่หมั้นสามารถเรียกสินสอดทองหมั้นคืนได้

--------------
ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับคุณตาของพระมหา ห. เปิดเผยว่า
หลังจากที่พระมหาสึกมา ตนเคยถามว่า สึกมาทำไม ซึ่งหลานชายบอกว่า  “บวชมานานแล้ว อยากออกมาดูแลพ่อแม่”   ซึ่งตนเพิ่งมาเห็นข่าวหลานชาย ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลานชายจะผิดปาราชิก เพราะตอนเขาบวช เขามุ่งมั่นมาก เขามีแววเป็นพระดี แต่ด้วยความที่เขาเป็นพระที่พูดจาดี เนื้อหอม มีผู้หญิงหลายคนเข้ามาหา ผู้หญิงก็มักจะเอาสิ่งของมาถวายเยอะ


อย่างเช้าวานนี้ (11 เม.ย. 67) ก็มีผู้หญิงที่เคยชอบหลานชาย แวะซื้อของมาฝากด้วย โดยผู้หญิงคนนี้เคยพูดคุยกับหลานชายตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงปัจจุบันด้วย  เช้าวานนี้ ผู้หญิงคนนี้ยังมาถามตนว่า  “ได้ยินว่าพระสึกแล้ว เขาไปไหน?”


ตาเล่าต่อว่า  หลังจากหลานชายสึกและก็มาอยู่ที่บ้านตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว  รู้แค่ว่าตอนนี้เขาไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ที่ จ.พิษณุโลกแล้ว

---------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Y4G3e75-Uj8

คุณอาจสนใจ

Related News