อดีตเจ้าอาวาส ในคลิปช่วยตัวเอง ยัวะชี้หน้าถามกลับ พระที่นั่งอยู่ ใครไม่เคยชักว่าวบ้าง?

เดือด! ทนายอนันต์ชัยพร้อมคณะสงฆ์ เข้าตรวจสอบวัดดังเมืองปทุม หลังมีคลิปอดีตเจ้าอาวาสช่วยตัวเอง พบมีเส้นเงินเข้าบัญชี 11 ล้านบาท ด้านอดีตเจ้าอาวาส ยัวะถามกลับ พระที่นั่งอยู่ ใครไม่เคยชักว่าวบ้าง? ฝั่งญาติเข้าปกป้องยัน หลานฉันเป็นคนดี

วานนี้ (2 เม.ย. 67) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี และฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจสอบวัดทวีการะอนันต์ ในพื้นที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี  

เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ว่า  เจ้าอาวาสรูปก่อนกระทำเสื่อมเสีย ถ่ายภาพลามกอนาจารช่วยตัวเอง แม้จะถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมสึก ยังใช้อำนาจสั่งการต่าง ๆภายในวัด ทำให้เจ้าอาวาสที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน ไม่สามารถบริหารจัดการภายในวัดได้อย่างถูกต้อง  

และยังพบว่า อดีตเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมเป็นพระมาเฟีย ในการบริหารจัดการเงินของวัด ตรวจพบการกู้ยืมเงินจากญาติโยมหลายคน รวมเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้ ไม่มีการทำบัญชีวัด แต่พบว่า เป็นเงินโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส ที่อ้างว่านำมาพัฒนาวัด

ทนายอนันต์ชัย พร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ,ฝ่ายปกครอง , กอ.รมน.ปทุมธานี  ร่วมประชุมกันที่ห้องประชุมวัดทวีการะอนันต์

โดยมีพระลูกวัด วัดทวีการะอนันต์ ลงชื่อในการประชุมจำนวน 28 รูป โดยพระครูปริยัตยาคม เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ของวัดทวีการะอนันต์ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่ทนายอนันต์ชัย เพื่อให้มีอำนาจในการจัดระเบียบเรียบร้อยภายในวัด

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านกว่า 50 คน เข้าร่วมรับฟังการประชุมจัดระเบียบในครั้งนี้ด้วย โดยทนายอนันต์ชัย ได้แจ้งกับชาวบ้านว่า ขอให้ชาวบ้านร่วมฟังอย่างเป็นระเบียบ เนื่องจากพบว่า มีการชักชวนชาวบ้านบางคนมาต่อต้าน  และหากชาวบ้านคนใดไม่ปฏิบัติตาม จะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุก เพราะตนได้รับมอบอำนาจในการจัดระเบียบของวัด

ขณะที่ พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภฺทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ผู้ถูกร้องเรียน เดินเข้ามาที่ศาลาวัดกลางวงประชุม และเตรียมจะนั่งที่โซฟาด้านหน้า แต่ทนายอนันต์ชัย เชิญให้ไปนั่งด้านหลัง เพราะไม่มีตำแหน่งในวัด และเรียกร้องให้ลาสิกขา เนื่องจากการกระทำที่เกิดขึ้น ไม่สามารถจะคงสภาพความเป็นพระได้

พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ได้ชี้แจงว่า ตนไม่เคยโกงเงินวัด มีแต่พัฒนาวัด สิ่งที่ถูกกล่าวหาก็สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด และตนจะไม่ยอมสึกจากการเป็นพระ เนื่องจากไม่ได้ทำผิดอะไร

ปรากฎว่า ทนายอนันตชัยได้ลุกขึ้น และพูดโต้ตอบ ว่า เหตุใดท่านถึงช่วยตัวเอง  อดีตเจ้าอาวาสจึงโต้เถียงว่า  “ถามหน่อยว่า พระที่นั่งอยู่นั่นมีใครบ้างที่ไม่เคย (ชักว่าว) มันธรรมดา” และย้ำว่า ตนไม่ได้มีความคิดอยากจะโกงกินวัดเลย  ตั้งแต่อยู่มา มีแต่สร้าง และพัฒนาวัด และคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีจากผู้ไม่หวังดี  เส้นทางการเงินของเงินทำบุญนั้นก็โปร่งใส ไม่เคยคิดจะนำไปใช้ส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว ทรัพย์สินติดตัวยังไม่มี  ตนรู้สึกน้อยใจที่มีคนคิดร้ายต่อตนเอง ในส่วนของความผิดเรื่องคลิปลามกนั้น ยอมรับผิดแน่นอน และต้องเข้าปริวาสกรรมตามพิธีสงฆ์อยู่แล้ว

ขณะที่ ทนายอนันตชัย ตั้งคำถามว่าพระทำแบบนี้ (ชักว่าว) ยังจะยอมหรือ ยังไม่ลาสิกขา ไม่ยอมออกจากวัด  พร้อมกับระบุว่า จะดำเนินการตามกฎหมาย และธรรมวินัย  โดยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทนายของมูลนิธิฯ จะเข้ามาดูแลบริหารการเงินของวัดทั้งหมด ทำให้อดีตเจ้าอาวาสถึงกับเดือด ลุกขึ้นมาพูดว่า “ฟังนะ วัดทวีฯ หากฉันอยู่ไม่ได้ ทุกคนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน” นอกจากนั้น ยังพูดใส่ไมค์ ชี้มือไปทางเจ้าคณะตำบล (เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน)  และพูดว่า เจ้าคณะตำบลมันกินเด็ก และเลี้ยงเด็ก ทำให้ทนายต้องตอบโต้ว่า จะดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ทั้งหมิ่นคณะสงฆ์ และอื่น ๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลานั้น บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด อดีตเจ้าอาวาสมีการเดินวนทั่วห้องประชุม หยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูด และต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย บางช่วยก็ตัดพ้อว่า เวลาประชุมอะไรก็ตั้งโต๊ะ แต่ไม่เคยเรียกตนเข้ามาพูดคุย วันนี้รู้สึกน้อยใจ และอารมณ์ระเบิดแล้ว  บางช่วงก็เดินปรี่เข้าไปที่โต๊ะของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ต้องเดินเข้าไปประชิดตัว เพื่อปรามไม่ให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้น  

ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนที่เห็นด้วยกับอดีตเจ้าอาวาส  ก็มายืนล้อมหลัง และคอยเชียร์ให้อดีตเจ้าอาวาสพูดให้หมด บางคนบอกว่า อดีตเจ้าอาวาสเป็นหลานฉัน หลานฉันเป็นคนดี บวชมาไม่เคยสึก ชอบทำบุญตั้งแต่เด็ก ถูกพระรวมตัวรวมหัวกันเพื่ออยากจะล้มอดีตเจ้าอาวาส  

ส่วนชาวบ้านหญิงอีกราย บอกว่า ให้คนที่เปิดเผยคลิปออกมาชี้แจง ให้เอาคลิปออกมายันกัน ในมุมญาติโยมรับได้ ไม่เป็นอะไร เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน เมื่อไปขอขมากรรมแล้วก็จบ  

นอกจากนี้ ยังมีลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาสบางคน พยายามเข้าไปหาทีมงานของทนายอนันต์ชัย จนตำรวจต้องสกัดกั้นไว้ และเชิญตัวลูกศิษย์ที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรง ออกจากห้องประชุมไป

หลังเหตุการณ์สงบ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนทุกท่าน พิจารณาโดยใช้สติปัญญาว่า อดีตเจ้าอาวาสที่ช่วยเหลือตัวเอง และนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัว วันนี้คุณเก่ง คุณเป็นฮีโร่ แน่มาก ด่าคนนั้น ด่าคนนี้ แต่หลังจากนี้ คุณจะมีแต่น้ำตา จะมีแต่ความทุกข์ยากลำบาก เพราะมูลนิธิฯ จะตรวจสอบทุกอย่าง พร้อมร้องเรียน และดำเนินคดี

ทนายอนันต์ชัย ยังระบุว่า หลังจากนี้ จะตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ของวัดขึ้นมาแทน และหากอดีตเจ้าอาวาส และพรรคพวก ไม่ออกไปจากวัด ตนจะแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด รวมทั้งที่ อดีตเจ้าอาวาสหมิ่นประมาทเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันในที่ประชุม (ที่บอกว่าเจ้าคณะตำบลกินเด็ก) ก็จะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า อดีตเจ้าอาวาส ได้ทำสัญญากู้เงินจำนวน 11 ล้านบาท โดยเป็นการทำสัญญาส่วนตัว ไม่ได้ทำสัญญาของวัด แล้วเงินก็โอนเข้าบัญชีส่วนตัว ไม่ได้เข้าบัญชีวัด ซึ่งเงินทั้งหมดที่ทำสัญญานั้น วัดจะไม่จ่ายสักบาท และตนจะดำเนินคดีในข้อหาทำเอกสารเท็จ อดีตเจ้าอาวาสจะต้องชี้แจงที่มาที่ไปของเงินทั้งหมดให้ได้ โดยตนจะมีทีมทนายทั้ง 7 คน ของมูลนิธิทนายกองทัพธรรม มาดูแลตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหลังจากนี้ จะขอกำลังตำรวจมาช่วยดูแลภายในวัดด้วย ส่วนความปลอดภัยของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน จะหารือกันอีกครั้ง โดยเจ้าอาวาสจะต้องจำวัดอยู่ที่วัดได้

ด้าน พระครูปริยัติยาคม เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์รูปปัจจุบัน กล่าวว่า เรื่องนี้มีปัญหามามากมาย ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2566 จนเกิดเรื่องขึ้น และทางคณะสงฆ์ทั้งหมด ได้เรียกตรวจสอบ และจับสึก โดยมีข้อเสนอให้เลือกว่า จะลาออก หรือจะให้ตรวจสอบ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเลือกว่าจะลาออก ระหว่างนั้น จึงให้ทำสรุปเรื่องการเงิน

พระครูปริยัติยาคม ยังบอกด้วยว่า อาตมาก็ลำบากใจ จากเจ้าคณะตำบล มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ซึ่งทั้งจังหวัด ไม่มีใครอยากมา  และอาตมาเคยโดนขู่ด้วยว่า หากเจ้าอาวาสใหม่มาจะสั่งเก็บ ทำให้ตนเองไม่กล้าเข้ามาในวัด  

หลังจากนี้ จะแต่งตั้งให้ทนายอนันต์ชัยพร้อมทีมมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัด ส่วนอาตมาก็จะเข้าจำวัด ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป รวมทั้งแต่งตั้งไวยาวัจกรณ์วัดคนใหม่ อย่างถูกต้องตามกฏหมายต่อไป

ด้านพระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภฺทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในส่วนพระธรรมวินัย ตนยอมรับว่ากระทำผิด และได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว แต่ไม่ยอมรับในข้อกล่าวหาว่าตนกระด้างกระเดื่อง เพราะตนอยู่ในวัดตามปกติ ทำวัตรเช้า ทำกิจของสงฆ์ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร ซึ่งทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบได้  

ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนยักยอมเงินของวัด ตนก็ยืนยันว่า ไม่เคยทำ มีแต่นำเงินไปพัฒนาวัด  นำมาเป็นค่าใช้จ่ายของวัดในช่วงโควิด และจดบันทึกรายละเอียดไว้ทั้งหมด ตนไม่มีทรัพย์สินใด ๆ เลย มีแต่โยมที่นำเอาทรัพย์สินมาให้ใช้พัฒนาวัด  และใช้เคลียร์ภาระต่าง ๆ รวมถึงเงินที่ยืมญาติโยมมาจัดงานประจำปี จำนวน 5 ล้านบาทด้วย

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5YFXU7b3tlI