เปิดใจครูสาว ร้องอยากลาออก หลังไปนั่งเก้าอี้ผอ.ในห้องประเมินแล้วโดนตำหนิแรง เผยคณะกรรมการจะมาตรวจสอบวันจันทร์นี้

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์โพสต์ของแฟนสาวที่มีอาชีพเป็นครูใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งแฟนสาวได้โพสต์แชตข้อความว่าถูกผอ.ตำหนิ เรื่องที่เผลอไปนั่งเก้าอี้ของผอ. ถึงขั้นต้องไปซื้อให้ใหม่



ล่าสุด ครูเอ (นามสมมติ) เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) เป็นวันที่ท่านผอ.โรงเรียนนัดให้คณะครูประเมินเรื่องเงินเดือน และให้ครูทำ VTR มาฉายทุกคน ซึ่งในวันนั้นได้มีการนัดหมายเวลาประมาณบ่าย 3 โมง ที่ห้องประชุม ซึ่งเป็นเหมือนห้องไว้สำหรับรับแขก ในห้องนั้นจะมีเก้าอี้สีดำ สำหรับประธานนั่งในการประชุม ซึ่งตนมีหน้าที่ ที่จะรวบรวมไฟล์ VTR ของคณะครู เพื่อขึ้นฉาย ก็เลยได้ไปนั่งตรงนั้น



ต่อมาเวลาบ่าย 3 โมงครึ่ง ผอ.มาที่ห้องประชุม ตนก็เลยลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวสีดำ ให้ผอ.นั่ง ในตอนนั้นผอ. ปฏิเสธที่จะนั่ง ตนจึงเลื่อนเก้าอี้ไปไว้ด้านข้าง เพื่อไม่ให้บังจอ



กระทั่ง 5 โมงเย็น หลังพรีเซนต์เสร็จ พบว่ามีไลน์ของผอ. ส่งข้อความมาตำหนิในกลุ่มของโรงเรียนว่า "ไม่สมควรที่จะไปนั่งเก้าอี้ผอ. เป็นครูทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร ตอนผอ. เป็นครู ผอ.ไม่เคยนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร เพราะว่ามันเกี่ยวกับเรื่องบารมีไม่ถึง พอเห็นแบบนี้ ผอ.แขนขาอ่อนแรง"



แล้วก็ได้บอกครูการเงินที่อยู่ในกลุ่มไลน์ให้ไปซื้อเก้าอี้มาใหม่ ตนจึงได้ขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบโดยการจะเป็นคนซื้อไปแทน และจะไม่ทำแบบนี้อีก แต่ทางผอ. ก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวทางโรงเรียนซื้อเอง



หลังจากนั้น ผอ.เห็นข่าวก็ได้มีการแคปลงมาในกลุ่มแล้วบอกว่า "เก้าอี้ตัวนี้มันชำรุดและตั้งใจจะเปลี่ยนอยู่แล้ว" และได้พยายามโทรมาหาตน แต่ตนไม่ได้รับสายเพราะกลัวโดนด่า และในวันจันทร์นี้ทางต้นสังกัดจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตนด้วย

ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 เร่งติดตาม และตรวจสืบข้อเท็จจริงเชิงลึกทันที เบื้องต้นทางสพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการกลุ่มกฏหมายและคดี ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในวันนี้ (16 มีนาคม 2567) พร้อมมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว มารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่ทันที ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมทั้งให้ความคุ้มครองครู และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยกำชับให้คณะกรรมการเร่งสืบสวนข้อเท็จจริง และรายงานต่อ สพฐ. ภายใน 7 วัน



ขณะที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว บอกเพียงสั้นๆ ว่า เสียใจ และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น