ชาวบ้านช็อก ผอ.โรงเรียน ขนยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด สารภาพค่าจ้างงาม

จากกรณีช่วงเย็น วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด บช.ปส. ติดตามขบวนการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ จาก จ.สกลนคร จะนำมาส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยจะใช้รถกระบะ ในการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติด และรถเก๋งสีขาว เป็นรถนำสำรวจเส้นทาง


ตำรวจชุดปฏิบัติการได้ออกติดตามรถยนต์เป้าหมายทั้ง 2 คัน จนมาถึง จ.สุพรรณบุรี พบว่ารถเป้าหมายขับเข้าไปในบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ซึ่งใช้เป็นสถานที่นัดมอบยาเสพติด แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัวทัน จึงขับรถหลบหนี โดยรถกระบะขับหนีเข้าไปในพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี แล้วเสียหลักไปชนรั้วบ้านของชาวบ้าน รถติดเนินดินไม่สามารถขับต่อไป คนขับลงจากรถวิ่งหนีเข้าไปในดงมะม่วงซึ่งมีพื้นที่หลายไร่  


จากการตรวจสอบท้ายรถกระบะ พบกระสอบ 6 ใบ บรรจุยาบ้ากระสอบละ 400,000 เม็ด รวมยาบ้า 2,400,000 เม็ด ส่วนคนร้ายที่หลบหนี เจ้าหน้าที่นำกำลังปิดล้อมพื้นที่เพื่อกดดันคนร้าย ใช้โดรนบินจับภาพมุมสูง จนชาวบ้านให้เบาะแสว่า มีชายแปลกหน้ามาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกคนไล่ทำร้าย ขอให้พาไปส่งที่ห้างในตัวเมือง แต่ชาวบ้านไม่ได้ไปส่ง ต่อมาพบว่าชายแปลกหน้าได้จ้างรถคันหนึ่ง พาออกจากพื้นที่ไป เจ้าหน้าที่จึงไล่ตาม จนกระทั่งไปตามจับตัวได้ที่ จ.สระบุรี ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายพชร อายุ 31 ปี  


ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดไล่ตามรถเก๋งสีขาว กระทั่งไปสกัดจับได้ที่ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายเกรียงศักดิ์ อายุ 46 ปี เป็นผู้อำนวยการชำนาญพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จังหวัดสุรินทร์  


ผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพ โดยบอกว่า ตัดสินใจรับจ้างขนยาเสพติด เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย ทำมาแล้ว 1 ครั้ง ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท จึงตัดสินใจรับงานเป็นครั้งที่ 2 จนมาถูกจับกุมได้ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้นำเงินไปเล่นการพนันหรือติดหนี้พนัน โดยเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำอย่างละเอียดว่า นำเงินไปใช้อะไร และไปรู้จักกับขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างไร เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ


โดยผู้ต้องหา 2 คนนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ


ซึ่งกรณีที่หนึ่งในผู้ต้องหา เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ทำให้เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อวันที่ 3 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนดังกล่าวในจังหวัดสุรินทร์ สอบถามผู้นำชุมชน ชาวบ้าน รวมไปถึงครูที่สอนอยู่ในโรงเรียน เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น


ครูนิต อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว บอกว่า พอทราบข่าวแล้วก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าผู้อำนวยการจะก่อเหตุแบบนี้ พร้อมเล่าว่า นายเกรียงศักดิ์ เพิ่งจะย้ายมาเป็น ผอ.ที่โรงเรียนนี้ได้ประมาณ 6 เดือน เป็นคนนิสัยดี ดูแลลูกน้อง รักเด็กนักเรียน มักซื้อขนมให้เด็ก ๆ กิน จนเด็กนักเรียนรัก ผอ.มาก และร่วมงานในชุมชนเหมือนปกติ แต่พอมาทราบว่า ผอ.ร่วมขบวนการขนยาเสพติด ทำให้นักเรียนและครูในโรงเรียนถึงกับช็อก


ด้าน นายชมชาย อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ตนไม่คิดว่า ผอ.จะทำแบบนี้ เพราะดูเป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่เด็ก ๆ และมักช่วยเหลือสังคมเป็นประจำ ไม่รู้ว่าทำไม ผอ.ถึงตัดสินใจไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดแบบนี้ เหมือนเป็นการตัดอนาคตตัวเองแท้ ๆ


ขณะที่ นายวีระ หมายกล้า อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ตนได้ทราบข่าวเมื่อเช้าวันที่ 3 มี.ค. ตกใจมาก เพราะ ผอ.ดูเป็นคนดี และไม่เคยมีประวัติไม่ดี เพิ่งย้ายมาประจำที่โรงเรียนได้ไม่ถึงปี แต่มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/qzwTZ0jR3Qk