สังคม

"บิ๊กโจ๊ก" ยันโดนกลั่นแกล้งแต่งนิทานใส่ร้ายเอี่ยว "เว็บพนันมินนี่"

โดย gamonthip_s

19 ก.พ. 2567

204 views

วันนี้ 19 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. หลังนายกสมาคมพนักงานสอบสวนแถลงจบไปราว 2 ชั่วโมง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ พร้อมอธิบายเรื่องที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนัน "มินนี่" ว่าเป็นการโยงคดีเว็บพนันมาถึงลูกน้องทั้ง 8 คนของเขา ซึ่งทั้ง 8 คนถูกดำเนินคดี และตอนนี้สำนวนอยู่ในชั้นอัยการแล้ว พนักงานสอบสวนไม่สามารถสอบเพิ่มเติมได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งจากอัยการ แต่ปรากฎว่าตอนนี้มีความเห็นสั่งสอบเพิ่มเติมของพนักงานอัยการถูกปล่อยหลุดออกมาอยู่ตลอด


ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการปล่อยความลับในสำนวน ดังนั้นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นใคร ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นการที่ทำให้กระบวนการสอบสวนเสียหาย ซึ่งลูกน้องทั้ง 8 คนได้ยื่นฟ้องคดีอาญาฐานทุจริตไปแล้ว เป็นระดับพลตำรวจเอก 2 คน ไปจนถึงคณะพนักงานสอบสวน และได้มีการร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ และวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 67) 1 ใน 8 ตำรวจ ก็จะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีอาญา 157 กับผู้กำกับการท่านหนึ่งที่มีการโทรศัพท์ไปโน้มน้าวให้ให้การอย่างใดอย่างหนึ่ง


พร้อมบอกว่าเรื่องนี้ เหมือนเป็นการเล่านิทาน พอเอาเว็บพนันมาผูกกับลูกน้องทั้ง 8 คนของเขา ก็พยายามจะโยงหาเขาต่อ ซึ่งการที่จะมีความผิดเกี่ยวกับเว็บพนัน เส้นทางการเงินก็ต้องเป็นเงินที่มาจากการทำเว็บพนัน ไม่ใช่การโอนเงินไปมาในชีวิตประจำวัน แล้วมาบอกว่าเป็นเงินเว็บพนัน ที่สำคัญเขาไม่ได้ดูแลด้านไซเบอร์ ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามเว็บพนัน แต่ดูเรื่องค้ามนุษย์ ในเมื่อไม่มีผลประโยชน์ แล้วใครจะมาจ่ายเงินค่าเคลียร์ให้เขา และลูกน้อง แถมยังฝากถึงพนักงานสอบสวนที่เซ็นชื่อในสำนวน ระวังจะติดคุก ส่วนเรื่องนี้ใครเป็นผู้ประพันธ์นิทานที่ได้ประโยชน์นั้น ก็ขอให้สื่อย้อนกลับไปดูเอง

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตำรวจทะเลาะกันเอง แต่ชาวบ้านมองแล้วเค้าสมเพช ว่าทำไมถึงไม่เอาเวลาเหล่านี้ไปทำงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน แต่กลับเอาเวลาทำงานมานั่งทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ พร้อมเปรียบเทียบว่าเขาเป็นเหมือนรถ 1 คัน ที่ขับไปบนถนน พอเจอตำรวจจราจรก็ถูกโบกเรียก ขอตรวจใบขับขี่ พอมีแสดงให้ดูถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจจราจรก็เปลี่ยนใหม่ ขอเดินดูรถรอบคัน เพื่อดูว่าจะมีตรงไหนผิดกฎหมายหรือไม่


ส่วนกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีการแถลงว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้ต้องหาในกลุ่มลูกน้องตน 8 คน ไปคุกคามพนักงานอัยการนั้น เท่าที่ตนได้พูดคุยยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ทิ้งลูกน้อง แต่เรื่องคดีก็ให้เอาความจริงไปต่อสู้ด้วยตัวเอง ส่วนการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เซ็นให้ออกจากราชการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของพันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย นั้น ไม่ได้มีการมาปรึกษาตนก่อน แต่ถ้ารู้ก่อนก็จะไม่ให้ยื่นเพราะมองว่าไม่จำเป็น ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่มีการคุยกัน


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังทิ้งท้ายฝากถึงสื่อต่าง ๆ ว่าถ้าจะลงอะไร ขอให้ลงดี ๆ ถ้ามีการฟ้อง มันจะผิดใจกัน การเป็นสื่อสามารถแสดงความเห็น วิเคราะห์ได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นเรื่องจริงไหม ไม่ใช่แชร์ไปเรื่อย มันทำให้เสียหายหลายคน

คุณอาจสนใจ

Related News