สังคม
"นายกฯ" ยินดี "ทักษิณ" กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ย้ำประเทศไทยมี "นายกฯ" คนเดียว
โดย gamonthip_s
18 ก.พ. 2567
99 views
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดสกลนครถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อเช้านี้ หลังได้รับการพักโทษ จะมีการเข้าพบนายทักษิณเพื่อขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ ระบุว่า ยังไม่มี เพราะท่านก็เพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้ ตนคิดว่าในฐานะพ่อ ก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวมานาน และท่านก็กลับเข้ามาตามกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกข้อกฎหมายที่กรมราชทัณฑ์โรงพยาบาลตำรวจ และกระทรวงยุติธรรมเป็นคนเดินเรื่องมา ตนเชื่อว่าช่วงเวลาหลังจากนี้ท่านคงไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง ท่านก็คงอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และก็รักษาตัวอยู่ต่อไปให้ดี หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่าได้โทรไปแสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ชิณวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีเวลา วันนี้ก็ลงพื้นที่ 7 หมาย แต่ว่าเชื่อว่าใจถึงใจอยู่แล้ว ก็ส่งความปรารถนาดี และก็เป็นเวลาส่วนตัวของท่านกับครอบครัว เราสนิทกันอยู่แล้วเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องโทร แต่ว่าถ้าเกิดมีโอกาสก็จะโทร แล้วเมื่อมีประชุมก็จะคงเข้าไปแสดงความยินดีด้วย ตนเชื่อว่าเวลาอันมีค่านี้ ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ก็ต้องใช้เวลานี้ให้เหมาะสม และก็คุ้มค่าที่สุด
ส่วนผู้ที่เห็นต่างซึ่งออกมาเคลื่อนไหว และมองว่าศูนย์บริหารงานหลังจากนี้จะเปลี่ยนจากทำเนียบรัฐบาล ไปเป็นบ้านจันทร์สองหล้าแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องความเห็นต่างเป็นธรรมดาในสังคมไทยอยู่แล้ว ตนก็น้อมรับเรื่องความเห็นต่าง เราก็ต้องพูดคุยกันด้วยภาษาที่เหมาะสม และยึดมั่นในหลักการ วันนี้ตนเชื่อว่า อย่างเช่นนายอนุทินเอง ก็อยู่ที่นี่เราอยู่คนละพรรค ก็คงมีเห็นต่างกันบ้าง แต่โดยรวมเราก็เห็นตรงกัน เพราะบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ บ้านเมืองเราบอบช้ำกันมาเยอะ วันนี้เราก็มาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ จะเป็นเรื่องของอดีตนายกหลาย ๆ ท่านเอง ถ้าท่านจำได้เมื่อตอนที่ตนได้รับการแต่งตั้งก็ได้เข้าไปพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อฟังคำแนะนำ และเวลาเจอในงานต่าง ๆ ก็มีการพบปะพูดคุยกันก็ขอคำแนะนำอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าเกิดท่านอดีตนายกทักษิณพร้อมจะให้คำแนะนำ ตนเชื่อว่าไม่มีใครในรัฐบาลนี้ไม่อยากจะรับคำแนะนำจากท่าน นายอนุทินเองก็เคยทำงานร่วมกับอดีตนายกทักษิณมาก่อนก็รู้อยู่แล้วว่าท่านมีความปรารถนาดี ประสบการณ์ที่ท่านสะสมมาระหว่างอยู่เมืองนอก และก็เข้ามาสู่กระบวนการทางกฏหมาย ซึ่งต้องเน้นย้ำว่าถูกต้อง ตรงนี้ก็อย่างมาดรามากันเลย ว่ามีนายกกี่คน รัฐธรรมนูญไทยก็ระบุอยู่แล้วว่ามีนายกคนเดียว ก็มีคนเดียวก็คือผมนี่แหละ
นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้รับคำแนะนำจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ท่านบอกว่า ที่ทำอยู่ก็ดีอยู่แล้ว แต่ต้องอดทนต่อไป เพราะอย่างที่ท่านเตือนตั้งแต่ตอนแรกที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง เรื่องธุรกิจกับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่เหมือนกัน เพราะธุรกิจมีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ราชการต้องขึ้นกับหลายหน่วยงาน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีก็เตือนตนว่าขอให้ใจเย็น ๆ ไม่ใช่ทุกเรื่องทำได้เองหมด เช่นเดียวกับสื่อมวลชนก็เคยเตือนตนว่าให้ใจเย็น อย่าปากไว ซึ่งตนก็ไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธอะไร แต่มองว่าบางบริบท ก็เหมาะสมที่จะได้รับคำเตือน และนำไปพิจารณา พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้เคลมว่ารู้หมดทุกอย่าง หากคำแนะนำอะไรที่เหมาะสม และเตือนกันด้วยความปรารถนาดี ตนก็พร้อมน้อมรับจากทุกท่าน ไม่ใช่เพียงอดีตนายกอย่างเดียว เพราะตนเพิ่งเข้าการเมืองได้ 5-6 เดือน ซึ่งก็ได้รับคำเตือนตลอดอย่างเช่นเมื่อเช้านี้ นายอนุทินก็ยังให้คำแนะนำเรื่องการทำงานอยู่ แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังมีขีดจำกัดของตนเอง เช่นให้คำแนะนำ 10 เรื่อง ตนอาจจะรับฟัง 6-7 เรื่อง เพราะฝนก็มีขีดจำกัด และมีความเป็นตัวของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีคำแนะนำ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีคนนี้พร้อมน้อมรับคำแนะนำ
เมื่อถามว่าการทำงาน 5-6 เดือนที่ผ่านมาเหนื่อยหรือหนักบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าถ้าบอกว่าไม่เหนื่อยก็คงไม่จริง แต่เมื่อเสนอตัวมารับใช้ประชาชนแล้ว ก็รู้ว่างานจะเยอะอยู่แล้ว อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหา PM 2.5 ปัญหายาเสพติด ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนก็ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่สองที่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งมองว่าบางเรื่องก็มีความน่าสนใจในการกำจัดยาเสพติด พร้อมยืนยันว่าตนไม่อยากจะมองว่าเป็นปัญหาแต่ขอให้มองว่าเป็นโอกาส
เมื่อถามถึงกรณีที่ การที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษทำให้มีการมองว่าสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะมีความเปลี่ยนแปลง นายกฯ กล่าวว่าก็คอยดูต่อไปเพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่ตนไม่แน่ใจว่าที่สื่อบอกว่าเปลี่ยนไปนั้นจะดีขึ้นหรือเลวลง แต่ตนมองว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลเองก็มี 314 เสียง เราทำงานร่วมกัน แม้จะมีบางข้อที่เห็นไม่ตรงกันแต่ก็พูดจากันด้วยดี และพยามแก้ปัญหาด้วยความตั้งใจจริง เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือการนำพาประเทศไปให้ได้
"ถ้าการพักโทษ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนความชอบธรรมของกฎหมาย ที่ท่านได้กลับมารับโทษเรียบร้อยแล้ว และผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเรียบร้อย และออกมาพักตัวที่บ้านแล้ว ผมเชื่อว่าพี่น้องคนไทย ประชาชน 66 ล้านคน ก็ยินดีถ้าเกิดการเมืองไทยดีขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ทำให้มันดีขึ้น"
เมื่อถามถึงยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยที่ยังอยู่ต่างประเทศ หากจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นสิทธิ์ของท่านตนไม่มีความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น หากกลับเข้ามาตามกระบวนการกฎหมาย และทุกอย่างถูกต้องก็เป็นเรื่องน่ายินดี
เมื่อถามถึงกลุ่มคปท.อาจจะไปปักหลักชุมนุมที่หน้าบ้านจันทร์สองหล้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปให้ได้ ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองสงบสุขอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ขนาดนี้คือเรื่องเศรษฐกิจ จึงอยากให้โฟกัสเรื่องนี้มากกว่า
เมื่อถามว่าจะมีการขอคำแนะนำนายทักษิณหรือไม่ เพราะรัฐบาลก็มุ่งนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแค่อดีตนายกฯทักษิณ แต่ทุกคนเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าอดีตนายกฯทักษิณเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วย และก็ยังมีอดีตนายกฯอีกหลายคนที่มีความชำนาญในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งคนรัฐบาลรรวมถึงตนก็มีสิทธิ์ที่จะไปขอคำแนะนำกับบุคคลเหล่านี้ แต่ยืนยันว่าจุดมุ่งหมายที่ทุกคนมีคือให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง เศรษฐาทวีสิน ,ทักษิณชินวัตร ,พักโทษ ,เดินหน้าประเทศไทย