สุดสลด! ผัวป่วยจิตเวชใช้มีดแทงเมียสาวดับคาที่

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่พ.ต.ท.นิติพจน์ เคาภูเขียว รองผกก.สอบสวน สภ.เกษตรสมบูรณ์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุผัวฆ่าเมียตายที่คลองส่งน้ำชลประทาน บ้านท่าเดื่อ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ กู้ภัยมังกร เกษตรสมบูรณ์ ห่างจากบ้านเช่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ผู้ตายได้เช่าอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่ม (ผู้ก่อเหตุ) ประตูถังหน้าบ้านปิดสนิท เปิดเข้าออกทางประตูด้านหลังบ้านเพียงด้านเดียว คนตายมีลูกกับสามีเก่าเป็นหญิง 2 คน และได้ทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิตเพราะฝีมือผัวใหม่

หลังจากผู้ตายได้เลิกกับสามีเก่าก็มาอยู่กินกับสามีใหม่ชื่อนายอนุพร (มด) เป็นเวลา 5 ปี แต่นายมด (สามี) คิดระแวงว่ากลัวเมียมีชู้ ตัวนายมดเองก็จิตหลอนติดยา ด้วยเกิดการระแวงผู้ตายมาโดยตลอด และนายมด (สามี) เป็นผู้ป่วยทางจิตเวชมาก่อนทั้งหลอน หลังจากนายมด (สามี) ไปทำงานยังต่างจังหวัดเป็นช่างเชื่อมกลับมาเพียงวันเดียว และได้ทราบว่าได้เงินมาให้ผู้ตาย 4,000 บาท ก่อนจะมีเรื่องทะเลาะกัน แต่ช่วงใกล้เที่ยงของวันนี้ทั้ง 2 นั่งอยู่ภายในบ้านเช่ามีปากเสียงกันคาดว่าผู้ตายกลัวจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ จึงได้เดินออกไปจากบ้านแล้วข้ามมาบ้านคุณยายเพราะไม่มีรั้วกั้น ซึ่งมีทางออกไปคลองส่งน้ำชลประทานห่างจากบ้านเช่า ประมาณ 60 เมตร และได้โทรหานางสุวรรณ (มารดา) ให้มาช่วยด้วย คุณแม่ก็ตามมาถึงบ้านและเห็นลูกเขยถือมีดแหลมไล่ตามบุ๋ม (ผู้ตาย) วิ่งลงคลองส่งน้ำตรงนั้นน้ำในคลองไม่ค่อยเยอะ

ช่วงผู้ตายวิ่งจะข้ามคลองขึ้นอีกฝั่งหนึ่งรองเท้าหลุดจากเท้า แต่ปีนขึ้นคลองได้ทัน แต่มีการต่อสู้กัน นายมด (สามี) ใช้มือจิกผมด้านหลัง ใช้อาวุธมีดแหลมที่ถือมาแทงไปที่ซี่โครงด้านขวา 1 แผลแล้วกดร่างลงใช้มีดแหลมปาดบริเวณลำคอด้านขวาอีก 1 แผล ต่อจากนั้นใช้อาวุธมีดแหลมแทงไปกลางหลังเกือบทะลุ จนด้ามมีดแหลมหักคาหลัง ผู้ตายร้องครวญครางร้องให้แม่ช่วย แต่แม่ผู้ตายร้องขอชีวิตลูก แต่จะเข้าไปห้ามลูกเขยก็เห็นมีอาวุธมีดแหลมถือคามืออยู่ ตัวเองเป็นผู้หญิงก็ไม่กล้าเข้าไปห้ามลูกเขย (มด) ขู่ว่าอย่าเข้ามา ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตายไปตาม ๆ กัน แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเพราะลูกเขยมีอาวุธมีด

พบศพผู้ตายทราบชื่อ นางสาวลัดดา (บุ๋ม) อายุ 44 ปี บ้านท่าขาม หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งวันที่ 5 ก.พ.ตรงกับวันเกิดของบุ๋ม แต่บุ๋มมาเสียชีวิตในวันที่ 6 ก.พ.67 ในสภาพศพนอนหงายเสียชีวิตคาที่ บริเวณคลองส่งน้ำชลประทาน ผู้ตายสวมกางเกงยืดขาสั้นสีดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ และพบอาวุธมีดแหลมเปื้อนเลือดยาว 5 นิ้ว กว้าง 3 ซม. วางอยู่ใต้เท้าผู้ตายห่างไปประมาณ 1 เมตร บริเวณด้านหลังถูกแทงด้วยของมีคม

ทราบว่าคนร้ายคือสามีของผู้ตาย ทราบชื่อคือนายอนุพร (มด) อายุ 38 ปี อาชีพเป็นช่างซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ และช่างเชื่อม เป็นคนชาวจังหวัดนครราชสีมา หลังก่อเหตุได้ขับของผู้ตาย รถเก๋งนิสสันอัมเมร่า สีแดง ออกไป เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสะกัดเส้นทางติดตามการหลบหนีของนายมดผู้ก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปเส้นทางสายเกษตร-ชุมแพหรือสายเกษตร-หนองบัวแดง

พบประวัติผู้ก่อเหตุมีประวัติเคยเข้ารับการรักษาจิตเวช และหลอนยาว่ามีคนจะมาฆ่าตัวเองต้องวิ่งหนีเข้าป่า แต่ทางผู้ตายก็ได้พาไปรักษาตัวที่รพ.จิตเวช ขอนแก่น จนอาการดีขึ้น แต่นายมดติดยาเสพติด ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นายมดเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาแล้ว ได้โทรศัพท์มาหาบุ๋มบอกว่าโดนจับยาตรวจฉี่เป็นม่วง แต่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวไปแล้วปล่อยตัว 

ทางคุณยายหนูพิศ อายุ 73 ปี เพื่อนบ้านติดกันกับบ้านผู้ตาย เล่าว่าวันนี้ ช่วงเที่ยงตนกำลังนั่งเก็บผักในตระกร้าอยู่บ้านของตัวเอง และได้ยินเสียงทั้ง 2 พูดกันแรง เห็นน้องบุ๋ม (ผู้ตาย)ได้เดินออกไปยังคลองชลประทาน และนายมดก็เดินตามหลังไปติด ๆ ตนไม่คิดว่าผัวจะโหดร้ายถึงได้ฆ่ากันอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคุณจีรพรรณ (เพื่อนผู้ตาย) เล่าว่า (บุ๋ม) ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี กับเพื่อน ๆ เสมอมีรูปร่างหน้าตาสวยผิวขาวสูงประมาณ 165 ซม. ก่อนเที่ยงของวันที่เกิดเหตุผู้ตายเป็นเพื่อนได้วีดิโอคอลหาตนว่า วันนี้คงจะมีปัญหากับแฟนหนุ่มอีกแล้วืเขาระแวงมาตลอดไม่เข้าใจกัน หลังจากนั้น คุณจีรพรรณ ได้โทรหาไม่รับสายเงียบไปเลย เสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะถึงฆ่ากันตาย

ทางนางสุวรรณ (แม่ผู้ตาย) เข้าพบพนักงานสอบสวนเข้าให้ปากคำ เล่าว่า ตนมีลูกสาวเพียงคนเดียว ลูกเขยคนนี้มันติดยาจิตหลอน ลูกเขยกลับมาครั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ มันต้องการเอารถเก๋งคืนไปทั้งที่ไม่ใช่รถของมันเป็นรถของลูกสาว แม่เป็นคนส่งค่างวดให้ลูกสาวมาตลอด แม่เคยเตือนลูกสาวตลอด