สังคม

รพ.ขอโทษ ปมวินิจฉัยโรคผิด อดีตผอ.รร. ร้องโดนผ่าตัดฟรี แจงผู้ป่วยมีอาการก้ำกึ่ง ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ

โดย attapan_n

2 ก.พ. 2567

654 views

วันที่ 2 ก.พ.2567 ความคืบหน้ากรณี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ยะลา โพสต์เรื่องราวร้องเรียนในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังได้เข้ารักษาอาการปวดท้อง แต่ทางแพทย์ของโรงพยาบาล ได้วินิจฉัยว่า เป็นอาการของลำไส้ทะลุ ต้องรีบผ่าตัดด่วน โดยหลังผ่าตัด แจ้งว่าวินิจฉัยผิด ลำไส้ไม่ได้ทะลุตามการวินิจฉัย ส่งผลกระทบกับการรักษาตัวโรคไตวายเรื้อรัง และไม่สามารถติดต่อขอความรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวกับผู้ใด ซึ่งภายหลังมีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวในโลกออนไลน์ ก็ได้มีการแชร์ และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนานา กันมากมาย

ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อพูดคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทาง นพ.ประภัศร์ ติปยานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ซึ่งทางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล บอกว่า คนไข้รายนี้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา ด้วยอาการปวดท้อง ซึ่งคนไข้รายนี้เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังอยู่แล้ว ที่ทำการฟอกไต ด้วยการล้างไตหน้าท้อง ส่วนอาการปวดท้องของคนไข้ในคืนนั้น ค่อนข้างก้ำกึ่ง กับโรคลำไส้ทะลุในช่องท้อง คือมีอาการปวดท้อง ทางหน้าท้อง และก็มีลมรั่วจากการเอกซ์เรย์

ซึ่งอาการนี้ค่อนข้างก้ำกึ่ง คุณหมอที่ทำการรักษาในคืนนั้น ได้พิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด คิดว่า การที่ปล่อยให้มีลมรั่วในช่องท้อง และหากเป็นการทะลุจากลำไส้ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนไข้ได้ จึงได้ตัดสินใจรักษาด้วยการผ่าตัด เมื่อผ่าเข้าไปแล้วพบว่าเกิดการติดเชื้อในช่องท้อง จากน้ำที่ล้างไตทางช่องท้อง ซึ่งอาการติดเชื้อในช่องท้องของกลุ่มนี้ อาการจะแยกกันได้ยาก ก้ำกึ่ง คุณหมอก็ต้องเลือกทางที่คิดว่า ปลอดภัยกับทางคนไข้มากที่สุด ก็คือการผ่าตัด ซึ่งถ้าเราไม่ผ่าตัดแล้วเป็นลำไส้รั่วจริงๆ โอกาสที่จะเสียชีวิตก็สูงมาก

ในกระบวนการผ่าตัด คุณหมอได้นำน้ำที่ติดเชื้อออกมาตรวจย้อม ก็พบว่ามีการติดเชื้อจริง จากนั้นก็ได้ทำการล้างช่องท้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำความสะอาด แล้วเย็บปิดแผล คนไข้ก็ย้ายออกจากห้องผ่าตัด อาการคงที่ และกลับบ้าน ก่อนที่จะกลับมาครั้งที่สอง จากการติดเชื้อเหมือนเดิม คุณหมอก็ตรวจพบว่าสายที่ล้างไต หน้าช่องท้องน่าจะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ จึงทำการผ่าตัดครั้งที่สองเพื่อเอาสายออก

จากนั้นคนไข้ก็อาการดีขึ้นจนสามารถกลับบ้านได้ เดิมคนไข้รายนี้ต้องทำการฟอกไตทางช่องท้อง และเมื่อทางแพทย์นำสายออก ทำให้ไม่สามารถฟอกไตทางช่องท้องได้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทางคุณหมอที่ดูแลเรื่องฟอกไต จึงต้องเปลี่ยนวิธีไปใช้การฟอกไตผ่านเส้นเลือด รวมทั้งหาสถานที่ฟอกไตให้ ที่ขณะนั้นหาได้เร็วที่สุดคือที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี และระยะเวลา 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ที่คนไข้เดินทางไปฟอกไต ทางโรงพยาบาลก็ทราบถึงประเด็นปัญหาการเดินทาง จึงได้ประสานที่ฟอกไตในจังหวัดยะลา และจะสามารถเดินทางมาฟอกไตได้ ในสัปดาห์หน้า” รอง ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา กล่าว

นพ.ประภัศร์ ยังบอกอีกว่า สำหรับกระบวนการวินิจฉัย มีหลายปัจจัย ทำให้คุณหมอต้องเลือกวิธีการรักษา ไม่ได้มีการวินิจฉัยที่แม่นยำชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณหมอก็ตัดสินใจในทางที่ปลอดภัยที่สุด ถึงแม้สุดท้ายยอมรับว่ามันไม่ใช่โรคตรงกับที่วินิจฉัยเอาไว้ครั้งแรก แต่เมื่อผ่าแล้วก็ได้ดำเนินการล้างท้องทำการรักษาโรค และจัดการได้เป็นอย่างดี ส่วนการประสานงานติดต่อพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วยรายนี้ ก็มีการประสานงานอยู่ แต่อาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงพยาบาลจะนำมาปรับปรุง ส่วนการเยียวยา ในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลก็ได้ดำเนินการประสานงานการฟอกไต เร่งด่วนให้ เนื่องจากคนไข้กลุ่มนี้จะทิ้งระยะการฟอกไต ไม่ได้ และในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็พยายามหาคิว และสถานที่ฟอกใหม่ ที่สะดวกกว่าเดิมให้ และอาทิตย์หน้าสามารถฟอกไตที่โรงพยาบาลยะลาได้

“กระบวนการรักษาผู้ป่วย ก็จะมีการทบทวน ไม่ว่าจะเกิดการผิดพลาดในขั้นตอนใด จะนำรายละเอียดของผู้ป่วยแต่ละราย ที่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ หรือการผิดพลาด นำมาทบทวนทุกกระบวนการ ที่จะมีการปรับปรุงในเชิงระบบ และในเคสนี้ ก็นำเข้าสู่กระบวนการหาสาเหตุ ทั้งในมุมมองของคนไข้ โรค และทีมที่ให้การรักษา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คงไม่มีใครอยากให้เกิด ทางคุณหมอ ทีมพยาบาลก็รู้สึกเสียใจ ก็ต้องกล่าวคำว่าขอโทษ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะนำมาปรับปรุงกับคนไข้ต่อไปในอนาคต และจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก” รอง ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา กล่าว

คุณอาจสนใจ