สังคม

อว.สั่ง ‘อุเทนถวาย’ ห้ามรับนักศึกษา ปี 1 - ‘เศรษฐา’ เล็งย้ายอาชีวะคู่ขัดแย้งออกนอกเมือง ลดปัญหาตีกัน

โดย petchpawee_k

31 ม.ค. 2567

22 views

'ศุภมาส' สั่ง อธิการบดีอุเทนถวายห้ามรับเด็กปี 1 ปีการศึกษา 2567 เพื่อให้เร่งย้ายสถานที่เรียนไปวิทยาเขตอื่น ตามคำสั่งศาลปกครอง ด้านนายกฯ เผยอาจย้ายอาชีวะคู่ขัดแย้งออกนอกเมืองลดปัญหาตีกัน


วานนี้ (30 ม.ค.) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัย นักเรียนและนักศึกษา จากเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มนักเรียนอาชีวะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย จนทำให้โรงเรียนรอบข้าง ต้องสั่งหยุดการเรียนการสอนว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และมีการพูดคุยกับ อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด ซึ่งทางอุเทนถวายต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ต้องย้ายไปวิทยาเขตอื่น เพื่อลดความรุนแรงในการปะทะกัน และทางตำรวจก็จะเป็นเจ้าภาพในการนัดคุยกับทุกหน่วยงาน

เมื่อถามว่า ศิษย์เก่าได้มีการพูดคุยกับทางกระทรวงหรือไม่ นางสาวศุภมาส กล่าวว่า มีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งศิษย์เก่าก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ออกมา เพียงแต่คิดว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา ในการเปลี่ยนผ่านย้ายโรงเรียน ไม่สามารถทำเพียงช่วงข้ามคืนได้ แต่ยอมรับว่าแผนตอนนี้อาจจะล่าช้า ต้องไปเร่งให้ทำเร็วขึ้น เพราะนักศึกษาไม่ได้มีเยอะ ไม่ได้ยากมากที่จะเร่งแผนในการย้ายได้ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทุกคนต้องตระหนักว่า เป็นเรื่องที่จะลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นทุกคนยินดีที่จะให้ความร่วมมือ และทางตำรวจก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ในการป้องกันเหตุ ทางสถาบันและทุกคนก็มีความเป็นห่วงชีวิตนักเรียน จึงเชื่อว่า อะไรที่ติดขัด ทุกคนก็จะช่วยกันแก้ออก และการใช้ความรุนแรงไม่ได้เกิดประโยชน์ ต้องใช้ความนุ่มนวลไม่ให้เกิดการปะทะกัน


ส่วนที่กรณีศิษย์เก่ามีการปลุกระดมไม่ให้มีการย้ายสถานที่เรียน นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ศิษย์เก่าที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกอย่างต้องมีช่วงเวลาขนย้ายและเปลี่ยนผ่าน เตรียมตัวไปที่ใหม่ และสถานที่ใหม่ก็ต้องมีการรองรับ เรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะวันสถาปนาสถาบันอุเทนถวาย ต้องดูแลเป็นพิเศษ


สำหรับกรอบเวลาในการย้ายอุเทนถวาย ก็ต้องทำให้เร็วที่สุด และขณะนี้ได้มีคำสั่งไปยังอธิการบดีอุเทนถวายขอให้งดรับเด็กปี 1 ในปีการศึกษา 2567 เพื่อลดปริมาณนักศึกษา มิเช่นนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้

------------------------------------

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีการหยิบยกปัญหาทางสังคมและเยาวชนมาหารือ ซึ่งที่ประชุมครม. ได้มีการพูดคุยกัน และตนก็ได้เน้นถึงมาตรการความปลอดภัยทางสังคม เพื่อจัดการดูแลประชาชนในเชิงลึก รวมถึงได้สั่งการให้ดูในทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของอาชีวศึกษาที่มีปัญหาทะเลาะกันจึงได้มีการพิจารณาว่าในระยะยาวอาจจะต้องมีการย้ายสถาบันออกไปนอกเมือง เพื่อดูว่าสถาบันที่มีความขัดแย้งอยู่ไกลห่างกันยังมีเกิดปัญหาขัดแข้งกันหรือไม่


ทั้งนี้ ได้สั่งให้อว.และสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนและให้แต่ละโรงเรียนมีมาตรการอย่างรัดกุมร่วมกับผู้ปกครอง

----------------------------------------

สืบนครบาล ค้น 7 จุด ล่ามือแทง นศ.ปทุมวัน เสียชีวิต พบเซฟเฮ้าส์จุดรวมตัวของผู้ก่อเหตุ แขวนเสื้อชอป-พ้นสี ‘อุเทนถวาย’ จับหัวโจก 1 ใน 9 ผู้ก่อเหตุ ผู้การฯ ศูนย์สืบ ยันหลักฐานชัดพบรองเท้าเปื้อนเลือด พร้อมสั่งกวาดล้างทลายเครือข่ายรังปลวกให้ราบ

ขณะที่ช่วงเช้าวานนี้ (30 ม.ค.) ตำรวจสืบสวนนครบาล ‘เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือฆ่า นักศึกษาปทุมวัน’ กระจายกำลังตรวจค้น 7 จุด พื้นที่เป้าหมายในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อล่าตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแทง นายวราวุธ ขันคำนอก อายุ 25 ปี  นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ปวส.1 ช่างไฟฟ้า เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าเป็นคู่อริต่างสถาบัน


โดยจุดสำคัญคล้ายเป็นที่ซ่องสุมหรือเซฟเฮ้าส์ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ บ้านไม่มีเลขที่ แบ่งห้องให้เช่า ภายในชุมชนวัดไผ่เงิน ซอยจันทน์ 43 แยก 22-3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เป็นห้องเช่าของเพื่อนร่วมสถาบัน ที่หนึ่งในผู้ต้องหามาหลบหนีพักอาศัยอยู่หลังก่อเหตุ และมักจะมีกลุ่มเด็กช่างอุเทนถวาย วนเวียนมารวมตัวอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่รู้กันของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงว่า ย่านนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของนักศึกษาอุเทนถวาย


ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชั้นล่างมีการติดป้ายอุเทนถวายขนาดใหญ่ และมีเสื้อของสถาบันฯหลายตัวแขวนอยู่โดยรอบของห้อง และมีการพ่นสีข้อความวันสถาปนาของอุเทนถวาย 1 ก.พ.ไว้ที่กำแพง ซึ่งจากลักษณะห้องดังกล่าวตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่รวมตัวกันของกลุ่มผู้ก่อเหตุ


ส่วนชั้น 2 เปิดเป็นสำนักฤาษี เป็นของเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นญาติของ 1 ในนักศึกษาอุเทนถวาย ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุ /จากการตรวจค้นไม่พบอาวุธภายในบ้าน แต่เจอนักศึกษาอุเทนถวาย 2 คน ที่ไม่ใช่ผู้ต้องหาตามหมายจับ แต่เป็นกลุ่มเพื่อนกัน เบื้องต้นทั้ง 2 คน ยังไม่ให้การใด ๆ

นายสัมพันธ์ อายุ 45 ปี ลุงของ 1 ในผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าหลานชายไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักศึกษาหัวรุนแรง เพราะปกติเป็นเด็กเรียน ไม่เกเร แต่ก็มักจะมีเพื่อนแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง นั่งพูดคุย นอนค้าง และทำงานส่งอาจารย์กันตามปกติ แต่ก็ยอมรับว่าเคยถูกคู่อริต่างสถาบันทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ไปร่วมก่อเหตุรุนแรงกับเพื่อนแต่อย่างใด


อีกทั้งยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วงที่หลานเรียนในสถาบันที่คู่อริมักใช้ความรุนแรงตอบโต้ระหว่างกัน เคยบอกเคยเตือนหลานให้ระวังตัวตลอดเวลา ให้ห้อยพระไปเรียนด้วยจะได้แคล้วคลาด


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยเบื้องต้นว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 ราย ซึ่งเป็น 1 ใน 9 คนที่ร่วมก่อเหตุ แทงนักศึกษาปทุมวันเสียชีวิต และถือเป็นตัวหัวโจกที่ยั่วยุ 1 คน ในวันเกิดเหตุ กำลังเอาตัวเข้ามาสอบปากคำ ส่วนก่อเหตุที่เหลืออยู่ระหว่างการเร่งไล่ล่า และการเข้าตรวจค้นวันนี้ ตำรวจเจอรังของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และเจอบุคคล 2 คนอยู่ในเซฟเฮ้าส์ แต่ไม่ใช่คนก่อเหตุ


โดยหลังตำรวจกวดขัน ก็ทำให้กลุ่มพวกนี้เกิดความระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่วันนี้ตำรวจเจอรองเท้าเปื้อนเลือด เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งยืนยันว่า มีหลักฐานชัดเจนทั้งนี้หากใครที่ให้การช่วยเหลือ หรือเป็นผู้สนับสนุนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในกลุ่มนี้จะต้องถูกดำเนินคดี เพราะวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้กวาดล้างทลายเครือข่ายรังปลวกนี้ให้ราบ

----------------------------------------------

คุมตัว 3 ใน 9 ผู้ก่อเหตุแทง นศ.ปทุมวันดับ สอบปากคำ-เจ้าตัวปฏิเสธ ด้านรอง ผบช.น. เผย จับผู้ต้องหาได้รวม 3 ราย-เตือนใครช่วยเหลือดำเนินคดีทั้งหมด

เวลา 11.40 น. ตำรวจสืบสวนนครบาล คุมตัวนายณัฐพร พวงแก้ว หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุแทงนายวราวุธ นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิต มาสอบปากคำและดำเนินคดีที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล


โดยระหว่างคุมตัวมา นายณัฐพร ยังได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว และแขนซ้ายจากการทะเลาะวิวาทกันในวันดังกล่าวด้วย นักข่าวพยายามสอบถาม นายณัฐพร ถึงวันที่ไปก่อเหตุมีปัญหากันมาก่อนหรือไม่ หรือไปทะเลาะกันซึ่งหน้า แต่นายณัฐพรไม่ตอบคำถาม บอกเพียงว่า ให้ระวังแผลของตนเอง เจ็บแผลอยู่ และเมื่อถามว่า มีใครชวนกันไปแทง หรือวางแผนมาก่อนไปแทงหรือไม่ นายณัฐพร ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่มี ๆ”


ภายหลังจากควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ มาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้ไปถ่ายรูปเล่นหน้าสถาบันฝั่งตรงข้ามโดยอ้างว่า คิดว่าสถาบันปิด


จากนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้สอบถามรายบุคคลถึงพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ตอบว่า “ชกต่อย” เหมือนกันหมด ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา บอกว่า เพราะไปต่อยท้องผู้เสียชีวิตแล้วมือไปโดนมีดจนนิ้วเกือบขาด พล.ต.ต.นพศิลป์ ถามต่อว่า ปัญหาเกิดจากพวกเราเองหรือเกิดจากใคร ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายตอบว่า “พวกเรา”


หลังสอบปากคำ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม โดยกล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ จะเห็นว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรวม 9 คน ได้พากันมาถ่ายรูปหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยมีพฤติกรรมยั่วยุ ปีนรั้ว ชูนิ้วกลาง จนนักศึกษาปทุมวันที่อยู่ด้านในสถาบันฯ ต้องเดินออกมา จนมีการทะเลาะวิวาทกัน และนักศึกษาปทุมวัน ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต


ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ โดยบอกว่าได้ซ่อนอาวุธมีดไว้ในรองเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจับกุม โดยมีการรวมตัวกันในสถาบันตัวเองจนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม อาจารย์ให้ออกจากสถาบัน จึงจะพากันไปย่านบรรทัดทอง และพากันมายั่วยุ ทำคอนเทนต์ที่หน้าสถาบันฝั่งตรงข้าม จนเกิดเหตุขึ้น ส่วนผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บที่แขน อ้างว่าได้ชกต่อยผู้เสียชีวิต และโดนอาวุธมีดของผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ


พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 คนที่ถูกออกหมายจับ มีเพียง 2 คนที่ยังเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ส่วนอีก 7 คนนั้นพ้นสภาพการศึกษาไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเคยเปิดเผยว่า อดีตนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้วของทั้ง 2 สถาบัน จะพยายามสร้างโลกเสมือน โดยการชักจูงพวกนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้วด้วยกัน มารวมตัวกัน แล้วไปชักชวนรุ่นน้องที่ยังศึกษาอยู่ มาสร้างค่านิยมผิด ๆ สร้างการยอมรับ เปิดเซฟเฮ้าส์รวมตัวกัน มีการรับน้อง สั่งสมความคิดที่ผิด


 โดยขณะนี้ชุดสืบสวนยังเร่งไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ แต่ได้รับรายงานจากผู้กำกับการ สน.ปทุมวันว่า ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อมาว่า จะพาผู้ต้องหาที่เหลือเข้ามอบตัวที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (31 ม.ค. ) แต่ตำรวจยืนยันว่าจะไม่หยุดไล่ล่า


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1FrWmlfQF0w

คุณอาจสนใจ

Related News