ระทึก! ท้องเรือรั่ว น้ำเข้าเรือตกปลาอัปปางหน้าเกาะกูด 15 ชีวิตลอยคอกลางทะเล จนท.ช่วยเหลือปลอดภัย

เวลาประมาณ 15.30 น. วานนี้  (24 ม.ค.67)  ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลตราด (ศรชล.ตราด) รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ "เนตรวารี"  นำนักท่องเที่ยวจำนวน 12 คน และลูกเรือ 3 คน รวม 15 คน ไปตกปลาที่บริเวณแหลมเทียน ต.เกาะกูด จ.ตราด ห่างจากฝั่งประมาณ 16 ไมล์ เกิดอุบัติเหตุชนโขดหิน ท้องเรือแตก น้ำทะเลทะลักเข้าตัวเรือ ผู้โดยสารกำลังช่วยกันวิดน้ำออกป้องกันเรือล่ม โดยทั้ง 15 ชีวิต มีชูชีพสวมใส่อยู่

ผ่านไป 30 นาที เจ้าหน้าที่ไม่สามารติดต่อเรือ "เนตรวารี" ได้  จึงประสานไปยังฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือ และเรือ ต. จากศรชล.ตราด เพื่อช่วยค้นหาและให้การช่วยเหลือ

ต่อมา  นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด ได้รับแจ้งจากภรรยาของไต๋เรือ  ว่าทราบพิกัดเรือแล้ว และแจ้งว่าเรือได้อับปางลงแล้ว  ทั้ง 15 ชีวิตต้องลอยคออยู่ในทะเล แต่ยังปลอดภัยดี เนื่องจากทุกคนสวมเสื้อชูชีพ

จากนั้น มีเรือเร็วจาก อบต.เกาะกูด จำนวน 2 ลำ  , เรือประมงในพื้นที่  ชื่อเรือ ช.สงวนสินพานิช 14 เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการศรชล.ภาค 1 ขอรับการสนับสนุนเรือและเฮลิคอปเตอร์จากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองทัพเรือ ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 15 คน มาขึ้นฝั่งที่บ้านคลองมาด  อ.เกาะกูด ได้อย่างปลอดภัย และนำส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเกาะกูด  เนื่องจากมีสภาพร่างกายอ่อนเพลีย

นายวัชระพงศ์ ประวาศวิล ผู้ใหญ่บ้าน ม.2  หนึ่งในชุดช่วยผู้ประสบเหตุเรืออับปาง เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ก็ประสานเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งกำนัน  นายก อบต.เกาะกูด และนายสุทัศน์ ทศดารา

เจ้าของเรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรส นำเรือสปีดโบ๊ท จำนวน 2 ลำ นำเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ  โดยครั้งแรก ผู้ประสบเหตุ แจ้งพิกัดผิดว่า เกิดเหตุอยู่ที่ระยะ 16.2 ไมล์จากปลายแหลมเทียน เกาะกูด  ทำให้ทีมช่วยเหลือต้องแล่นเรือหากันเป็นเวลานาน  จนต่อมาผู้ประสบเหตุได้แจ้งพิกัดใหม่ เป็นระยะ 2 ไมล์ทะเลเท่านั้นพร้อมกับที่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือที่มาช่วยค้นหา  จึงพบผู้ประสบเหตุทั้งหมด และนำขึ้นฝั่งที่บ้านคลองมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีใครได้รับอันตราย  มีเพียงอ่อนเพลียจากการลอยคอในทะเลนานกว่า 2 ชม.

และยังต้องออกแรงในการช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ เพราะปั๊มน้ำทำงานนาน 4 ชม.จนปั๊มไหม้ ต้องใช้แรงคนช่วยกันวิดน้ำ  แต่สุดท้ายน้ำเข้าเรือมากกว่าออก ทำให้เรือจมในที่สุด ซึ่งผู้ประสบภัย สวมใส่เสื้อชูชีพและเกาะกระดานฝาท้องเรือ รอคอยความช่วยเหลืออยู่ในทะเล จนเจ้าหน้าที่ช่วยนำขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย

นายวัชระพงศ์ ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า เรือที่ประสบเหตุ ไม่ใช่เรือสปีดโบ๊ท แต่เป็นเรื่องท่องเที่ยวตกปลา ส่วนสาเหตุที่ล่ม เพราะท้องเรือรั่วน้ำเข้าเท่านั้น  แต่ข่าวที่ออกไปตอนแรก อาจมีความคลาดเคลื่อน เกรงว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวตกใจ ไม่เดินทางมาเที่ยวเกาะกูด  จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวว่า เกาะกูดยังเที่ยวได้ปลอดภัย และมีความสวยงามเหมือนเดิม

 รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QhsZxkaFPa4