สังคม

ตำรวจตั้งข้อหาชายทำร้ายครูสาวเข้าเวรวันหยุด เพิ่มอีก 3 ข้อหา

โดย gamonthip_s

21 ม.ค. 2567

455 views

จากกรณีที่นายนิรันดร์ อายุ 38 ปี ทำร้ายร่างกายนางอัจราภรณ์ อายุ 41 ปี ครูประจำชั้น ป.2 ครูในโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จนครูได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลปากแตก และกระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ ขณะเข้าเวร และนายนิรันดร์ ได้เข้ามอบตัวกับทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายได้แจ้งข้อหานายนิรันดร์ เบื้องต้นทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งอีกหลายข้อหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และเชื่อมโยงว่าจะสามารถตั้งข้อหาใดเพิ่มเติมได้อีก โดยเฉพาะการใช้อาวุธมีด และตรวจวงจรปิดอย่างละเอียด รวมไปถึงการสอบปากคำครูผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม หากสามารถให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ และในวันพรุ่งนี้เวลา 1000 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวในการดำเนินการของทางตำรวจ



สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในโรงเรียนและประชุมทั้งผู้บริหารสถานสถาน เพราะพร้อมประชุมการดำเนินการช่วยเหลือ ครู ที่ได้รับบาดเจ็บเต็มที่ พร้อมหามาตรการเรื่องของการเข้าเวรครูตามสถานศึกษา

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีมีคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายครู เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เหตุเกิดภายในบริเวณโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และมีการต่อสู้จนครูได้รับบาดเจ็บปากแตก มีแผลฟกซ้ำบริเวณใบหน้าและลำตัว ซึ่งต่อมาจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น ในเบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมาย ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. บุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1) นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่พร้อมทีมสหวิชาชีพ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามอาการของคุณครูที่ได้รับบาดเจ็บ


เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับ สพฐ. ให้ดูแลขวัญและกำลังใจของคุณครูที่ประสบเหตุ พร้อมติดตามการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางสร้างเสริมความปลอดภัยในสถานศึกษาให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งตนได้โทรศัพท์สอบถามเหตุการณ์และส่งกำลังใจให้แก่คุณครูที่ประสบเหตุด้วยตนเอง พบว่าคุณครูมีขวัญและกำลังใจที่ดี อาการปลอดภัยดีขึ้นแล้ว”


“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ทราบถึงภาระ และความกังวลใจของคุณครูทั่วประเทศที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวรกลางวันหรือเวรกลางคืน ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่งต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหายอันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู เพื่อให้คุณครูได้ทุ่มเทเวลาเพื่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ และได้สั่งการ สพฐ. ให้เสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่ง สพฐ. ได้จัดทำคำขอต่อ ครม. เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา"


“ในระหว่างที่รอครม. พิจารณาอนุมัติคืนตำแหน่งนักการภารโรง ซึ่งจะสามารถช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่โรงเรียนได้อีกแรงหนึ่ง ขอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองในพื้นที่หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และช่วยเฝ้าระวังกรณีชุมชนมีบุคคลผู้เสี่ยงมีพฤติกรรมรุนแรง ซึ่งสพฐ.ได้มีหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทยให้สนับสนุนการทำงานของโรงเรียนก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้สพฐ.จะได้เร่งแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดเวรยามและการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาที่เหมาะกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเสริมสร้างความปลอดภัย เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ ที่สร้างความสุขและความอุ่นใจให้แก่ครู นักเรียนทุกคน” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News