สังคม

หวาดเสียว! เด็ก 10 ขวบเล่นปืนลูกดอกยิงหนูกับเพื่อน พลาดถูกลูกดอกเสียบหน้า โชคดีไม่ทะลุดวงตา

โดย petchpawee_k

15 ธ.ค. 2566

14 views

 เด็กเล่นปืนลูกดอกยิงหนูกับเพื่อน พลาดถูกลูกดอกเสียบหน้า โชคดียังไม่ทะลุถึงดวกตาและสมอง  ล่าสุดเข้าผ่าตัดแล้ว เพื่อนที่ก่อเหตุขอโทษ บอกไม่ได้ตั้งใจ

วานนี้  (14 ธ.ค.66) เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 นครราชสีมา ได้รับการประสานจากห้องฉุกเฉิน รพ.มหาราชนครราชสีมา ขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า (ตัดด้วยระบบลม) มาช่วยเด็กชายที่บาดเจ็บจากการถูกลูกดอกเจาะข้างโหนกแก้ม  เข้าบริเวณใกล้เคียงโซนระบบประสาท  จึงนำอุปกรณ์พร้อมทีมกู้ชีพกู้ภัยเข้าสนับสนุน


เมื่อไปถึง รพ.มหาราชฯ พบเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ ชื่อ เด็กชายวันวรุณ เป็นชาวบ้านทับสวาย ต.ทับสวาย อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา  นอนอยู่บนเตียงรถเข็นผู้ป่วย เมื่อตรวจสอบที่บริเวณใบหน้าและดูฟิล์มเอ็กซเรย์  พบว่า ส่วนหัวของลูกดอกยิงหนู เจาะทะลุที่ขมับด้านซ้าย ปักทแยงเยื้องไปทางโหนกแก้ม หวิดโดนลูกตาและสมอง โดยลูกดอกยังปักคาอยู่ โผล่ให้เห็นเฉพาะส่วนก้านและหางลูกดอกเท่านั้น ซึ่งลูกดอกยิงหนูทำจากเหล็กเส้น มีความยาวประมาณ 2 ฟุต  จึงวางแผนกับทีมเพื่อตัดปลายลูกดอกออกให้ปลอดภัยที่สุด  เพื่อไม่ให้หัวศรของลูกดอกที่ยังปักคาอยู่ภายใน กระทบอวัยวะที่สำคัญไปมากกว่านี้


เมื่อวางแผนเรียบร้อย จึงนำผ้ามาคลุมปิดบริเวณใบหน้า  ป้องกันไม่ให้สะเก็ดไฟที่เกิดจากการตัดเหล็กกระเด็นถูกใบหน้าจนเป็นบาดแผล  เหลือเฉพาะบริเวณที่มีปลายลูกดอกโผล่ออกมาเท่านั้น  จากนั้นนำอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า มาตัดส่วนก้านและปลายลูกดอกออก ก่อนส่งต่อให้คณะแพทย์นำผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าเครื่องซีทีสแกนอีกครั้ง  เพื่อดูบาดแผล ก่อนผ่าตัดเอาส่วนที่เหลือออก


นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทราบเบื้องต้นจากแพทย์ รพ.ห้วยแถลง ว่า พ่อแม่ของเด็กชายวันวรุณ เป็นผู้นำส่งรักษาที่ รพ.เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา  โดยแจ้งว่า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะเด็กชายวันวรุณกำลังเล่นกับเพื่อน  และน่าจะหยิบลูกดอกยิงหนูของผู้ปกครองออกมาเล่นกัน  แต่เกิดยิงพลาดลูกดอกกระเด็นปักไปที่ใบหน้าของเด็กชายวันวรุณ ได้รับบาดเจ็บ


ซึ่ง รพ.ห้วยแถลงไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เพียงพอ จึงรีบส่งต่อมายัง รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อผ่าเอาลูกดอกออกโดยเร็ว เพราะเคสนี้มีความอันตรายมากกว่าเคสที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้  เนื่องจากครั้งนี้ผู้บาดเจ็บยังเป็นเด็กอายุประมาณ 10 ปีเท่านั้น แต่เคสที่แล้วอายุมากกว่า  อีกทั้งครั้งนี้ ลูกดอกยังปักทแยงถูกอวัยวะสำคัญหลายจุด โชคดีที่ไม่โดนโซนระบบประสาทและสมอง ซึ่งเด็กมีอาการหวาดกลัว ตกใจ และเจ็บที่บาดแผลอย่างมาก ร้องไห้หาพ่อแม่ตลอดเวลา กู้ภัยฯ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากที่สุด แต่ก็ใช้เวลาตัดลูกดอกออกอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพื่อให้กระทบกับบาดแผลน้อยที่สุด  ซึ่งตอนนี้เด็กอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว


ช่วงเที่ยงวานนี้  (14 ธ.ค.66)  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านสระทอง หมู่ที่ 7 ตำบลทับสวาย อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดูจุดที่เกิดเหตุ  ซึ่งอยู่ติดกับคอกวัวบ้านหลังหนึ่ง  โดยจุดดังกล่าว มีแคร่ไม้ไผ่สำหรับนั่งเล่น  ที่ผู้บาดเจ็บและเพื่อนๆ มักจะมานั่งเล่นกัน  แต่ไม่พบปืนหน้าไม้ที่เป็นอาวุธยิงลูกดอก   และเมื่อเดินทางไปยังบ้านที่เด็กชายวันวรุณ หรือน้องโชกุน ผู้บาดเจ็บ อาศัยอยู่กับตาและยาย แต่ถูกล็อกประตูรั้วเอาไว้ เนื่องจากญาติทั้งหมดไปเฝ้าน้องโชกุนอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อรอการผ่าตัด


นางราตรี อายุ 45 ปี ญาติน้องโชกุน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่นำน้องโชกุนส่งโรงพยาบาล  เล่าว่า คืนเกิดเหตุ น้องโชกุนกับกลุ่มเพื่อน 6-7 คน เป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน อายุ 13-15 ปี กำลังนั่งเล่นที่บริเวณแคร่จุดเกิดเหตุ และต่อมาช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. เด็กทั้งหมดได้พาน้องโชกุนวิ่งมาที่บ้าน ในสภาพมีลูกดอกปักอยู่บริเวณข้างศีรษะด้านซ้าย แต่บาดแผลมีเลือดออกเล็กน้อย 


โดยเด็กคนที่ทำลูกดอกลั่นใส่น้องโชกุนอยู่ในอาการตกใจ พร้อมกับก้มลงกราบและพูดว่า ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ จากนั้น ตนและญาติจึงรีบนำตัวน้องโชกุนส่ง รพ.ห้วยแถลง ก่อนที่ รพ.ห้วยแถลง จะส่งตัวน้องโชกุนไปผ่าตัดที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาภายในคืนนั้น 


ซึ่งระหว่างทางน้องโชกุนก็ยังรู้สึกตัวดี พร้อมกับพูดคุยได้เป็นปกติ แต่มีอาการเจ็บปวดบริเวณบาดแผล ซึ่งตนต้องคอยประคองศีรษะของน้องโชกุนเอาไว้ไม่ให้มีการขยับ เพราะอาจจะทำให้ได้รับอันตรายจากการกระทบกระเทือน และในระหว่างเดินทางไปยัง รพ.มหาราชฯ ตนก็ได้พูดคุยสั่งสอนน้องโชกุนไปด้วย  ซึ่งน้องโชกุนรับปากว่า หลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว พร้อมกับยกมือขอโทษอยู่ตลอดเวลา  ระหว่างนั้นตนก็สังเกตบาดแผลแล้วรู้สึกเป็นกังวล เพราะลักษณะน่ากลัว ไม่รู้ว่าลูกดอกปักลึกขนาดไหน หลังจากนี้ถ้าน้องโชกุนผ่าตัดและหายเป็นปกติ จะสั่งห้ามให้เลิกยุ่งกับอุปกรณ์ปืนผาหน้าไม้ต่างๆ ทั้งหมด


นางบัวไหล อายุ 54 ปี ยายของน้องโชกุน  เปิดเผยว่า ขณะนี้น้องโชกุนยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชฯ เพื่อรอการผ่าตัด  สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดี นางบัวไหล บอกว่า ต้องรอให้น้องโชกุนผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยและออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยมาคุยกันกับทางคู่กรณีว่าจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เนื่องจากคู่กรณีก็นับว่าเป็นญาติห่างๆ ไม่อยากให้เกิดเหตุต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน


ด้านนายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา  กล่าวถึงความคืบหน้าการรักษาน้องโชกุน โดยเปิดเผยว่า ตอนที่น้องโชกุนถูกส่งตัวมาจาก รพ.ห้วยแถลง และเข้ารักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา น้องโชกุนไม่ได้มีอาการหมดสติ แต่ปวดแผล มีเลือดไหลซึม ไม่ปวดตา ไม่เวียนหน้า ไม่อาเจียน ไม่ปวดศีรษะ และเมื่อแพทย์ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ ส่วนของหัวลูกดอกและก้านที่ปักคาอยู่ มีความยาวประมาณ 6 เซนติเมตร พบว่าลูกดอกปักบริเวณกะโหลกส่วนหน้า ใกล้เบ้าตา แต่ไม่โดนเบ้าตา ไม่โดนตา และไม่โดนสมอง เพราะเป็นกะโหลกส่วนแก้ม  


โชคดีที่ลูกดอกแฉลบ ทแยงผ่านกะโหลก ลงไปบริเวณกระดูกโหนกแก้มที่ค่อนข้างหนา เพราะถ้าสูงกว่านี้นิดเดียว จะโดนเบ้าตาและอาจแทงทะลุลูกตา จนจะทำให้ตาบอดได้ และก็จะโดนเส้นประสาทตาด้วย และถ้าสูงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะโดนสมอง เพราะเหล็กลูกดอกเป็นเหล็กปลายแหลมยาว 6 เซนติเมตร  เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (14 ธ.ค.66) นำตัวน้องโชกุนเข้าห้องผ่าตัดเอาเหล็กออกและฉีดยาฆ่าเชื้อ เมื่อแผลหายดีก็ค่อยให้กลับบ้านได้ โชคดีมากๆ ที่ไม่โดนจุดสำคัญ


นพ.ประวีณ กล่าวอีกว่า เคสนี้เด็กคงจะเล่นกันหรืออาจจะการไปยิงนกตกปลาตามประสาเด็กผู้ชาย จึงอยากฝากเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองต้องระมัดระวัง ถ้าผู้ใหญ่เห็นเด็กใช้เครื่องมือล่าสัตว์ทุกชนิด ต้องตักเตือนและบอกกล่าวว่า เป็นสิ่งอันตรายที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ความระมัดระวังต่างๆ จึงมีน้อย ผู้ใหญ่ต้องเก็บให้ห่างมือเด็ก และต้องควบคุมดูแลไม่ให้เด็กนำมาเล่น

คุณอาจสนใจ

Related News