'บิ๊กโจ๊ก' แนะ 'สมรักษ์' รับสารภาพ โทษหนักเป็นเบา - เพื่อนวอนสาว 17 พูดความจริง ชี้คนถูกกระทำคือสมรักษ์

รอง ผบ.ตร.เผย ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักสมรักษ์ ส่วนน้องชายโดนด้วย 2 ข้อหา หลังพบเป็นคนขับ จยย.พาไปโรงแรม แนะควรให้การรับสารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา ชี้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง ย้ำกฎหมายมุ่งคุ้มครองเด็ก จะอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเด็กไม่ได้ ส่วนสถานบันเทิงดังกล่าว หากเข้าข่ายการกระทำความผิดต้องดำเนินคดีไม่ละเว้น

วานนี้ (14 ธ.ค.66) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่คืนวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรขอนแก่น หลังจากถูกศาลอนุมัติหมายเรียกใน 4 ข้อกล่าวหา ซึ่งนายสมรักษ์ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหานั้น

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมองว่า นายสมรักษ์ควรให้การรับสารภาพ เพราะอาจเป็นเหตุบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาได้ เนื่องจากนายสมรักษ์เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและเคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประกอบกับข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษสูง อีกทั้งพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น สารคัดหลั่งต่างๆ ที่บ่งชี้ชัดเจนว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง และเด็กยังยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริงทั้งที่ตนได้ขัดขืนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบคัดหลั่งจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะใช้ประกอบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เด็กอายุ 17 ปีมีเจตนาหรือมีการวางแผนมาก่อนหรือไม่นั้น ต้องชี้แจงว่ากฎหมายคุ้มครองเด็กทั่วโลกนั้นเหมือนกัน คือ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ แต่การกระทำของผู้ใหญ่ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดทั้งหมด และมองว่านายสมรักษ์ควรรู้เรื่องนี้เพราะนายสมรักษ์เองก็มีบุตรสาวเช่นกัน จะอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเด็กไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติไปตามหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นระบบกล่าวหา นายสมรักษ์จึงยังมีสิทธิ์ต่อสู้ข้อกล่าวหาได้ แต่ย้ำว่า นายสมรักษ์ควรรับสารภาพเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่เหมาะสม

สำหรับน้องชายของนายสมรักษ์ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาใน 2 ฐานความผิดนั้น เนื่องจากพบว่า มีการร่วมกันพาและพรากผู้เยาว์ โดยเป็นผู้ขับจักรยานยนต์พานายสมรักษ์และเด็กอายุ 17 ไปยังโรงแรม ทั้งยังเป็นคนส่งสัญญาณให้เด็กอายุ 17 เดินตามนายสมรักษ์เข้าโรงแรมไปทั้งที่ไม่ใช่ที่พักของเด็ก

ส่วนสถานบันเทิงดังกล่าว ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วว่าร้านดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ และให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ประสานไปยังฝ่ายปกครองหรือผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

------------------------

เพื่อนแฉสาว 17 ชวนให้กลับโต๊ะไม่กลับ วอนขอให้ผู้เสียหายพูดความจริง ชี้คนถูกกระทำคือสมรักษ์  

หลังจากกลุ่มเพื่อนของเด็กสาววัย 17 ปี คู่กรณีสมรักษ์ ออกมาไลฟ์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนวันเกิดเหตุ  ซึ่งพบว่า ข้อมูลที่กลุ่มเพื่อนออกมาเปิดเผย มีความขัดแย้งกับเรื่องราวที่ออกมาในตอนแรก

ล่าสุด ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้สัมภาษณ์กลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงในวันเกิดเหตุด้วยกัน คือ น้องแววและน้องเปิ้ล  เล่าว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อนเลย ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน  แต่เพื่อนในกลุ่มที่ชื่อแบม รู้จัก แล้วชักชวนให้มาเที่ยวด้วยกันในวันเกิดเหตุ   ในวันนั้นจึงไปเที่ยวกัน 4 คน คือ น้องแวว น้องเปิ้ล น้องแบม และผู้เสียหาย

พอเข้าไปในสถานบันเทิง ก็ชวนกันเต้น และนั่งคุยดื่มกินกันตามปกติ แต่ดูเหมือนผู้เสียหายไม่สนุกกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งตอนแรกที่เจอผู้เสียหายก็รู้สึกว่า เป็นคนเงียบๆ เหมือนเด็กเรียน ไม่ค่อยเต้น ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยดื่มเหล้า จนกระทั่งพวกตนหันไปเห็นสมรักษ์นั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะ จึงชวนกันไปขอถ่ายรูปด้วย พอถ่ายรูปเสร็จ พวกตนก็กลับมาที่โต๊ะ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมกลับมาด้วย เลือกที่จะยืนอยู่ที่โต๊ะสมรักษ์ ชวนให้กลับยังไงก็ไม่กลับ ซึ่งเพื่อนยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยผู้เสียหายทิ้งไว้ที่โต๊ะสมรักษ์ เพราะก็มีการผลัดกันเดินไปเรียกผู้เสียหายกลับโต๊ะหลายรอบ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมกลับ

น้องแววกับน้องเปิ้ลยังบอกด้วยว่า เพื่อนอีกกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังบอกว่า สมรักษ์โอบเอวผู้เสียหายอยู่ตลอดเวลา และผู้เสียหายไม่ได้มีท่าทีปัดป้องหรือขัดขืน นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนๆ ยังสังเกตว่า ผู้เสียหายเหมือนจะมีความสุขตอนที่อยู่โต๊ะสมรักษ์ มากกว่าตอนอยู่กับเพื่อน ๆ  ตอนที่อยู่ในสถานบันเทิง ผู้เสียหายไม่สนใจเพื่อนๆเลย สนใจแต่สมรักษ์เท่านั้น ซึ่งเพื่อนคิดว่า อาจเป็นเพราะสมรักษ์เป็นคนดัง

กระทั่งถึงเวลาที่เพื่อนจะกลับกันแล้ว ก็เดินไปบอกผู้เสียหายว่าจะกลับแล้ว และมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง ที่รู้จักกันและไปเจอกันที่ร้านดังกล่าว มาบอกว่า เดี๋ยวจะเอารถจักรยานยนต์ไปส่งที่หอพักโดยซ้อนสามกันไป ถามอยู่หลายรอบ แต่ผู้เสียหายไม่กลับด้วย ผู้เสียหายเลือกที่จะเดินตามสมรักษ์ไปขึ้นรถจักรยานยนต์  น้องแววยังตะโกนถามผู้เสียหายว่า 'จะไปกับสมรักษ์หรอ ให้คิดดีๆ นะ' แต่ผู้เสียหายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา และยังชักสีหน้าไม่พอใจใส่เพื่อนผู้ชายที่เดินไปตามให้กลับด้วยกัน  

ส่วนเพื่อนผู้ชายที่ชื่อริว ที่ไปช่วยออกจากโรงแรมนั้น เป็นคนละกลุ่มกับพวกตน หลังจากเกิดเหตุ พวกตนไม่ได้เจอกับผู้เสียหายอีก จนกระทั่งมาทราบว่าเป็นข่าวใหญ่โต  ผู้เสียหายบอกว่า ถูกล่วงละเมิด ถูกเพื่อนทิ้ง เพื่อนไม่ช่วยเหลือ ทำให้พวกตนเสียหายมาก ถูกโจมตี ถูกสังคมตำหนิ ถูกต่อว่า ว่าหลอกเพื่อนไปเที่ยวหรือไม่  ทิ้งเพื่อนหรือไม่ ทั้งที่ไม่เป็นความจริงเลย  นอกจากนี้ โซเชียลยังมีการแชร์รูปของพวกตนแล้วถูกนำไปต่อว่าเสียหาย ว่าขายตัวบ้าง เป็นเด็กเอ็นบ้าง  พวกตนจึงต้องขอออกมาพูด ขอปกป้องศักดิ์ศรีของตัวบ้าง

พวกตนจึงอยากให้ผู้เสียหายออกมาพูดความจริง 2 เรื่อง คือ

1.เรื่องถูกขืนใจหรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งพวกตนเห็นว่า ผู้เสียหายสมัครใจไปกับสมรักษ์เอง  

2.ที่กล่าวหาว่าถูกเพื่อนทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เพราะเพื่อนทุกคนเรียกให้กลับแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ยอมกลับ จะไปกับสมรักษ์เอง

กลุ่มเพื่อนบอกว่า หลังจากนี้ขอไม่รู้จักกับผู้เสียหายอีก และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ขอรู้จักกันด้วย ตอนนี้พวกตนรู้สึกว่า คนที่ถูกกระทำและน่าสงสาร คือสมรักษ์ เพราะสิ่งที่ผู้เสียหายพูดนั้น ไม่เป็นความจริงเลย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้เสียหายเคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นและเรียกร้องค่าเสียหายมาหลายครั้งแล้วนั้น  เป็นข่าวลือที่พวกตนได้ยินหลังจากเป็นข่าวแล้ว ซึ่งพวกตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่และไม่รู้ว่าต้นตอที่ลือมาจากไหน    

น้องแววกับ น้องเปิ้ล บอกว่า หลังเกิดเรื่องเป็นคดีความ ทางตำรวจไม่ได้ติดต่อพวกตนไปให้ปากคำเลย แต่หากติดต่อมา พวกตนก็พร้อมจะเล่าความจริงและพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง  

นอกจากนี้ ทางผู้ปกครองของพวกตน ก็เตรียมปรึกษาทนาย เพื่อจะดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาพวกตนเสียๆ หายๆ ด้วย  

ส่วนนายริว เพื่อนผู้ชายที่ผู้เสียหายทักแชทให้ไปช่วยพาออกจากโรงแรม บอกว่า พอไปรับผู้เสียหายกลับมา ตื่นเช้ามา ผู้เสียหายบอกว่าไปส่งโรงพักหน่อยจะแจ้งความเอาผิดสมรักษ์ แต่นายริวรู้สึกแปลกใจ เพราะตอนไปแจ้งความนั้น ผู้เสียหายไม่ยอมใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงแจ้งความ แต่ใช้นามสมมติแจ้งความ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1v3kKcZplCU