สังคม

'สมรักษ์' ตั้งทนายสู้ ยันไม่ได้ข่มขืน 'กัน จอมพลัง' โต้ผับ ยันสาว 17 ไม่ได้ปลอมบัตร ปชช.

โดย nattachat_c

12 ธ.ค. 2566

1.3K views

กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหาถูกนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น ดีกรีแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกกระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรมใน จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา


ช่วงเช้าวานนี้ (11 ธ.ค.66) ทีมข่าวอาชญากรรม ติดต่อไปยังนายสมรักษ์ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายสมรักษ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวขณะนี้ตนได้มีการตั้งทนายเพื่อใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีนี้แล้ว // จึงไม่อยากพูดในรายละเอียดของคดีมากนักเพราะทางที่ปรึกษาทางกฎหมายกำชับในการให้ข้อมูล รวมทั้งอีกฝั่งเป็นเยาวชน แต่ยืนยันว่าในคืนวันเกิดเหตุ // ตนเดินทางไปที่สถานบันเทิงดังกล่าวและไปเที่ยวโดยนั่งโต๊ะเดียวกันกับเจ้าของร้าน และฝ่ายหญิงมีการเข้ามาหาตนเอง // จากนั้นเมื่อเสร็จจากการเที่ยวในสถานบันเทิงตนเองจะเดินทางกลับ ก็มีฝ่ายหญิงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ลูกน้องของตนเองเป็นคนขับพามาส่งด้วย และเมื่อถึงโรงแรมที่ตนพักตนจำได้เพียงว่าตนเองเดินนำและฝ่ายหญิงเดินตาม


ส่วนจะมีการจูงมือกันหรือไม่ตนเองจำไม่ได้เนื่องจากวันนั้นมีอาการมึนเมา แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้มีการฉุดกระชากหรือบังคับฝ่ายหญิงให้ไปที่โรงแรมแต่อย่างใด รวมถึงตนไม่ทราบจริงๆว่าฝ่ายหญิงอายุ 17 ปี และเพิ่งมาทราบตอนอยู่ภายในห้องเท่านั้น


ส่วนเรื่องรูปที่ปรากฏรูปถ่ายตัวเองนอนถอดเสื้ออยู่ในโรงแรมนั้น นายสมรักษ์ ระบุว่า ก็ไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน เพราะตนเองไม่ได้รับรูปดังกล่าว และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้มีการติดต่อมาเพื่อเจรจาใดๆ


ทีมข่าวได้สอบถามว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นการทำให้ชื่อเสียงของนายสมรักษ์ เสียหายหรือไม่ นายสมรักษ์ ตอบเพียงสั้นๆว่า “ก็มีคนพูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน เพราะฝ่ายหญิงก็เข้ามาหาตนเองที่ร้าน และเดินตามตนไปเอง แต่ก็ไม่ขอพูดในรายละเอียดมากกว่านี้”


นายสมรักษ์ ระบุอีกว่า ตนเองเป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก และเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ไม่เคยมีประวัติแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขืนแต่อย่างใด // โดยเรื่องต่อจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่ตนเองตั้งมาให้ดำเนินคดี เพราะคดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้เยาว์ และผู้เสียหายเป็นผู้หญิง ตนเองในฐานะผู้ชายไม่อยากออกให้ข้อมูลอะไรมากนัก


ต่อมาเวลา 15.23 น. ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ติดต่อไปยังนายสมรักษ์อีกครั้ง เจ้าตัว ยังคงย้ำชัดว่า “ผมนักกีฬาทีมชาติ ไม่มีบังคับใคร ไม่ข่มขืนใครแน่ ให้เป็นไปตามขั้นตอนยุติธรรม ไว้พิสูจน์กัน” // ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม“


เมื่อถามว่าเครียดหรือกังวลอะไรหรือไม่ นายสมรักษ์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก เราแสดงความบริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่มีอะไร อีกอย่างมีกล้องวงจรปิด”


เมื่อถามอีกว่าผลกระทบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสมรักษ์ กล่าวว่า “หนักมาก เป็นข่าวที่แรงที่สุดในชีวิต”

-------------

ทาง 'ไทยรัฐ' ได้ สัมภาษณ์ “สมรักษ์ คำสิงห์” ซึ่งเปิดใจว่า ไม่ได้ข่มขืนสาว 17 ปี เจอกันในผับแล้วชวนขึ้นห้อง แต่มารู้ภายหลังเป็นเด็กจึงหยุดหื่น บ่นน้อยใจเบื่อสังคม หลังสิ้นคดีจะไปอยู่ฝรั่งเศส จ่อเข้าพบพนักงานสอบสวน วันที่ 12 ธ.ค.นี้ ส่วนตำรวจเผยแบ่งคดีเป็น 2 ส่วน เรื่องการละเมิดทางเพศอยู่ระหว่างสอบสวนและสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการแจ้งดำเนินคดีไปแล้ว รอง ผวจ.ขอนแก่นจ่อพิจารณาสั่งปิดผับ ส่วนเจ้าของผับแจงสาว 17 ภาพถ่ายบัตรประชาชนในโทรศัพท์มือถือ การ์ดเห็นอายุเกิน 20 ปีให้เข้าร้าน ขณะที่ตาเหยื่อสาวบอกหลานมีความประพฤติดี และจะไม่ยอมความ


จากเหตุที่ น.ส.เอ อายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตทหารเรือและนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกในข้อหาข่มขืน หลังไปเที่ยวที่ร้านสุขสันต์ขอนแก่นในตัวเมืองขอนแก่น กระทั่งช่วงตี 3 วันที่ 10 ธ.ค. ร้านปิด การ์ดของร้านอาสาขี่รถ จยย.ไปส่ง น.ต.สมรักษ์และ น.ส.เอที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึง น.ต.สมรักษ์เข้าห้องลวงข่มขืน แต่ น.ส.เอไม่ยินยอมขัดขืนโทร.เรียกเพื่อนชายมารับตัวก่อนจะรีบไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น จากนั้นตำรวจส่งตัว น.ส.เอไปตรวจร่างกายที่ รพ.ขอนแก่น พร้อมสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อออกหมายเรียก น.ต.สมรักษ์มาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบกับ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เมื่อไปถึงพบนักชกเหรียญทองโอลิมปิกพักอยู่ภายในห้องเพียงลำพังและมีท่าทางสบายๆ ไม่เครียด พร้อมเปิดเผยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เดินทางมาเที่ยวหาเพื่อนที่ จ.ขอนแก่น และเข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงสุขสันต์ขอนแก่นจริง มีคนมากหน้าหลายตามาขอถ่ายรูปคู่ด้วย 1 ในนั้นมี น.ส.เอมาถ่ายรูปและนั่งดื่มกินด้วยกันในร้าน น.ส.เอบอกว่า อายุ 17 ปี มาจาก จ.กาฬสินธุ์ บอกกับยายว่าจะมาสอบที่ จ.ขอนแก่น จากนั้นชวนเพื่อนๆมาเที่ยวที่ร้านสุขสันต์ขอนแก่น ตนบอก น.ส.เอว่า ไม่เชื่อว่าเด็กอายุ 17 ปีจะเข้ามาในร้านได้อย่างไร เพราะเชื่อว่าทางร้านมีมาตรการตรวจสอบนักท่องเที่ยวเข้าในร้านต้องอายุเกิน 20 ปี ตนไม่ติดใจปล่อยเลยตามเลยจนร้านปิด


น.ต.สมรักษ์เปิดเผยอีกว่า น.ส.เอบอกว่าจะไปด้วยและขอไปรอหน้าร้าน เมื่อตนออกมาหน้าร้านเจอ น.ส.เออยู่ มีการ์ดที่ร้านขี่รถ จยย.ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ขี่รถซ้อน 3 คน น.ส.เอนั่งกลางตนนั่งท้าย เมื่อถึงโรงแรมตนและ น.ส.เอเดินขึ้นห้องกอดจูบกัน ตนถามย้ำกับ น.ส.เอว่า อายุเท่าไหร่กันแน่ น.ส.เอตอบว่า 17 ปี เมื่อได้ยินคำตอบจึงผงะออกและบอกให้ น.ส.เอนอนพักผ่อน ตนนอนหลับอยู่บนเตียงมารู้ภายหลังถูกถ่ายรูปนำหลักฐานไปแจ้งความ ขณะนี้ตนเซ็นใบหย่ากับภรรยามากว่า 2 เดือนแล้ว ขอยืนยันว่าไปโรงแรมด้วยกันจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน ไม่ได้มีการสอดใส่ร่วมเพศ ตอนนี้เรื่องทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว เพราะ น.ส.เอแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ไม่หนักใจทุกอย่างอยู่บนความเป็นจริง จะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกอย่างว่ากันไปตามข้อเท็จจริง


น.ต.สมรักษ์เผยอีกว่า ภายหลัง น.ส.เอเข้าแจ้งความกล่าวหาตนในข้อหาข่มขืน สื่อตีข่าวออกไปมีแต่เรื่อง ได้รับกำลังใจจากลูก เพื่อน และผู้ใหญ่หลายท่าน ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก ตอนนี้ยังคงอยู่ใน จ.ขอนแก่น จนกว่าจะจบเรื่องคดี หลังจากจบเรื่องจะไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสเพราะเบื่อสังคมแบบนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้ฉุดกระชากหรือข่มขืน น.ส.เอแต่อย่างใด ขณะนี้ตำรวจยังไม่เรียกตัวไปสอบสวน หากถูกเรียกตัวพร้อมให้ความร่วมมือทุกเวลา มีรายงานว่าทนายความจะพา น.ต.สมรักษ์ไปพบตำรวจเพื่อให้ปากคำในวันที่ 12 ธ.ค.นี้


ด้าน พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังรับแจ้งความคดีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคดีการล่วงละเมิดทางเพศ และส่วนที่ 2 คดีการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปในสถานบริการ ในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ น.ส.เอ ขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น


พนักงานสอบสวนเรียกสอบปากคำเพื่อนผู้เสียหายจนครบแล้ว รวมทั้งการ์ดของผับขี่รถ จยย.ไปส่งที่โรงแรม ส่วนผู้เสียหายจะดำเนินการสอบปากคำพร้อมทีมสหวิชาชีพ และจะสอบพยานเพิ่มเติมทั้งพนักงานที่ร้านและที่โรงแรม ขณะนี้ยังไม่ออกหมายเรียกนายสมรักษ์ ส่วนที่ 2 ที่ผู้เสียหายอายุ 17 ปี เข้าไปใช้บริการภายในสถานบันเทิงนั้น ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบในความผิดเกี่ยวกับสถานบริการที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม เรียกผู้จัดการร้านแจ้งข้อหายินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด


ขณะที่พนักงานสอบสวนรายงานเหตุถึงผู้บังคับบัญชาระบุว่า น.ส.เอ อายุ 17 ปี กล่าวหานายสมรักษ์ คำสิงห์ กระทำการข่มขืน ผู้แจ้งให้การว่า เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ผู้แจ้งเดินทางไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน 4 คนที่ร้านสุขสันต์ ต่อมาพบเห็นนายสมรักษ์ คำสิงห์ ยืนอยู่กับพนักงานรักษาความปลอดภัย 1 คน ผู้แจ้งและเพื่อนรวม 4 คนเดินไปหานายสมรักษ์ที่โต๊ะ เพื่อขอถ่ายภาพ เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วนายสมรักษ์ได้จับมือของผู้แจ้ง แล้วบอกว่าให้อยู่ที่โต๊ะของนายสมรักษ์ ผู้แจ้งและเพื่อนอีก 1 คนนั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของนายสมรักษ์


ต่อมาเมื่อวงดนตรีวงสุดท้ายเลิกการแสดงเวลาประมาณ 03.00 น. ผู้แจ้งประสงค์จะกลับห้องพัก เดินออกมารอเพื่อนที่จอดรถจักรยานยนต์ด้านหน้าร้าน ต่อมามีพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวน 1 คน และนายสมรักษ์เดินเข้ามาหาผู้แจ้ง นายสมรักษ์บอกผู้แจ้งว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่ ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยยืนเฝ้าผู้แจ้งอยู่ ผู้แจ้งเห็นเพื่อนเมาขี่รถ จยย.ไม่ไหว มีเพื่อนผู้ชายอีก 1 คนมารับ ต่อมาพนักงานรักษาความปลอดภัยขี่บิ๊กไบค์ออกมาหาผู้แจ้ง บอกอาสาไปส่งที่โรงแรมนีโอ ขึ้นนั่งโดยสารรถตรงกลาง ส่วนนายสมรักษ์นั่งอยู่ท้ายรถจักรยานยนต์ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ไปส่งผู้แจ้งและนายสมรักษ์ที่โรงแรมมันตราวาร นายสมรักษ์ลงจากรถเดินจูงมือผู้แจ้งพาเข้าไปในโรงแรม ขึ้นไปชั้น 2 จำเลขห้องไม่ได้ เมื่อเข้าไปในห้องพัก นายสมรักษ์มาถึงตัวผู้แจ้งกอดจูบ และสัมผัสร่างกายของผู้แจ้งขณะนอนอยู่บนเตียง ผู้แจ้งพยายามขัดขืนและขอโอกาสโทร.หาเพื่อนก่อน แต่นายสมรักษ์ไม่ยอม และถอดเสื้อผ้าของผู้แจ้งออกจนเปลือยร่างกาย จากนั้นนายสมรักษ์นำเอาอวัยวะเพศมาถูไถที่อวัยวะเพศของผู้แจ้งจนมีสารคัดหลั่งติดที่อวัยวะเพศของผู้แจ้ง เมื่อนายสมรักษ์หยุดลวนลามแล้ว ผู้แจ้งแชตเฟซบุ๊กไปหาเพื่อนชายเพื่อให้เพื่อนมารับ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองขอนแก่น

--------------

มีภาพจากกล้องวงจรปิด


เวลา 03.15 น. 

พิเชษฐ์ ขับ จยย.

สาว 17 ปี นั่งกลาง

สมรักษ์ ซ้อนท้าย.

ขับมาตามถนน ไม่มีท่าทีขัดขืน


เวลา 03.17 น.

สมรักษ์จูงมือสาว 17 ปี ผ่านเคาน์เตอร์เข้าไปในลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ซึ่งทั้ง 2 คน มีสีหน้าปกติ ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน พูดคุยเล็กน้อย 


เมื่อก่อนเข้าไปยังห้อง

ก็ยังไม่มีท่าทีขัดขืน หรือใช้กำลัง

------------

ด้าน 'ทีมข่าวช่องแปด' ได้รับการเปิดใจจากแหล่งข่าวพิเศษนั่นก็คือนายนายพิเชษฐ์ ชินเนหัน อายุ 47 ปี คนขับรถรับส่งสมรักษ์ คำสิงห์ กับสาว 17 ไปโรงแรม และนายพิเชษฐ์ ก็ยังเป็นน้องชายแท้ๆของนายสมรักษ์อีกด้วย


นายพิเชษฐ์ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองเป็นคนขับรถให้กับนายสมรักษ์ คำสิงห์ ในวันเกิดเหตุ  ด้วยตัวเองไม่ได้ เป็นบอดี้การ์ด แต่ตัวเองเป็นน้องชายแท้ๆ ของนายสมรักษ์


ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองก็นั่งอยู่ที่โต๊ะในร้านกับนายสมรักษ์ พี่ชาย  จู่ๆ กลุ่มของสาววัย  17 ก็เช้ามาขอถ่ายรูปกับพี่ชายตัวเอง (มีภาพคู่ สาว 17 และสมรักษ์) แล้วน้องก็ไม่ออกไปจากโต๊ะพวกตัวเองเลย  แต่พวกตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไร กระทั่งกลุ่มน้องวัย 17 ปีก็ได้นั่งกินเหล้ากับพวกตัวเองจนผับปิด และกลุ่มเพื่อนของน้องวัย 17 ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน


ส่วนตัวเองกับพี่ชายก็กำลังจะกลับโรงแรมเช่นเดียวกัน จู่จู่ก็มาเจอน้องวัย 17 อยู่กับเพื่อน ของเขา และเพื่อนของเขาบอกกับพวกตัวเองว่า “ พี่ไปส่งเพื่อนหนูหน่อย” ตัวเองจึงรับน้องวัย 17 ปีขึ้นรถมาด้วย โดยมีตัวเองเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ น้องวัย 17 ปีนั่งตรงกลาง และนายสมรักษ์ พี่ชายตัวเองนั่งซ้อนท้าย



จากนั้นตัวเองก็ขับรถออกจากร้านเหล้า ไปส่งพี่ชายที่โรงแรม เวลาประมาณ ตีสามกว่า  จังหวะนั้นตัวเองก็กำลังจะไปส่งน้องวัย 17 ปีกับโรงแรม  แต่เขาก็เดินตามหลังนายสมรักษ์พี่ชายตัวเองไป และเข้าไปในโรงแรม  ซึ่งจังหวะนั้นตัวเองก็ไม่ได้สังเกตว่าเขาเดินจูงมือกันหรือไม่ ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากโรงแรมดังกล่าว แล้วตัวเองก็ขับรถไปกินข้าวที่ร้านอาหารต่อ


และตัวเองก็ท้าให้ไปดูกล้องวงจรปิดที่โรงแรมได้เลยว่า น้องวัย 17 ปีเขาเดินตามหลังพี่ชายตัวเองไปในโรงแรมเอง  และตอนที่ตัวเองส่งเขาลงรถ น้องผู้หญิงก็ไม่ได้มีท่าทีจะถามตัวเองเลยว่า ทำไมตัวเองไม่ไปส่งเขา



ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้บังคับใจให้น้อง ผู้หญิงคนดังกล่าวขึ้นรถ มากับตัวเองเลย เขาเต็มใจมา  แล้วตัวเองสาบานได้เลยว่าตัวเองกับพี่ชายไม่ได้วางแผนจะเอาผู้หญิงคนดังกล่าวขึ้นโรงแรมแต่อย่างใด


ตัวเองคิดว่าตอนอยู่ในร้านพี่ชายตัวเองไม่มีทางรู้ว่าน้อง ผู้หญิงคนดังกล่าว อายุ 17 ปี ตัวเองมารู้เรื่องตอนที่พี่ชายได้โทรศัพท์มาหาตัวเองว่า “เขาได้นอนอยู่ในห้องกับน้องแล้วน้องบอกว่าอายุ 17 ตอนอยู่ในโรงแรม พี่ชายจึงไม่ได้ทำอะไรต่อ”

ตัวเองคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ฝ่ายนั้นกระทำเหมือนเป็นมืออาชีพ 1. เขามีการไปแจ้งความ 2. เค้าไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม 3. เขาบันทึกคลิปเสียง 4. เขาบันทึกภาพของพี่ชายตัวเองขณะนอนหลับ ตัวเองจึงเชื่อว่าทั้งสี่ข้อนี้ฝั่งนั้นเค้ามีการเตรียมการวางแผนมาแน่นอน


ตนอยากถามฝั่งคู่กรณีว่า ทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ยอมรับว่าตอนนี้สภาพจิตใจพี่ชายเองเครียดมาก


หลังให้สัมภาษณ์ นายพิเชษฐ์ อายุ 47  ปี น้องชายของนายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้พาทีมข่าวไปดูรถมอเตอร์ไซต์คันที่ขับมาส่งนายสมรักษ์ และสาว 17  เพราะว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า R15 สีดำ ก่อนที่นายพิเชษฐ์ จะขับรถคันดังกล่าวออกไป

--------------------

เย็นวานนี้  (11 ธ.ค.66) เจ้าของสถานบันเทิง “สุขสันต์ขอนแก่น” เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว   หลังได้รับผลกระทบที่คาดว่าอาจจะถูกสั่งปิด เพราะปล่อยปะละเลยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ  ซึ่งทางร้านยืนยันว่า มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจอาวุธ  ตรวจยาเสพติด  และตรวจบัตรเพื่อคัดกรองอายุคนที่จะมาใช้บริการทุกวัน โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพทุกคนที่บริเวณหน้าทางเข้า  ทางเจ้าของร้านยังเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา  หญิงสาวผู้เสียหาย เข้ามาที่ร้าน โดยการ์ดของร้านขอตรวจบัตรประชาชน  แต่หญิงสาวอ้างว่า ลืมเอาบัตรมา แล้วเปิดโทรศัพท์โชว์ภาพบัตรประชาชนที่อ้างว่าถ่ายเก็บเอาไว้  โดยภาพบัตรประชาชนดังกล่าว มีการเปลี่ยนเลข พ.ศ.เกิด ให้สามารถเข้าใช้บริการได้  การ์ดจึงอนุญาตให้เข้าร้าน  ซึ่งทางเจ้าของร้านบอกว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าอยู่เหนือการควบคุม และหลังจากนี้ ทางร้านจะเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบคัดกรองคนที่จะเข้าไปใช้บริการ ให้แสดงบัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น  และทางร้านเองก็อยากจะขอความเป็นธรรมและความเห็นใจจากกรณีนี้ด้วย


“ผมเป็นเจ้าของผู้ประกอบการ ไม่อยากทำอะไรที่มันล่อแหลมและผิด กฏหมายพอมันเกิดแล้ว ผมไม่ได้แก้ตัว  แต่มาชี้แจงให้ฟัง เราลงทุน แล้วผู้ที่มาเที่ยวเขาอยากมาเที่ยว  เราป้องกัน แต่เขาหาวิธี หากลยุทธ์ที่จะเข้าร้าน เราทำเต็มที่ แต่อาจเล็ดลอดบ้าง เป็นเรื่องที่เราทำเต็มที่แล้ว ซึ่งตนเองเป็นผู้ประกอบการ เป็นผู้ลงทุนทำร้านหมดเงินไปเป็นสิบล้าน ไม่ต้องการเอาเรื่องแค่นี้มาทำลายร้านตนเองอย่างแน่นอน” เจ้าของผับ กล่าว


เจ้าของร้านยังชี้แจงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นหุ้นส่วนและเรื่องการ์ดของร้านเอาเด็กสาว 17 ไปส่ง  ยืนยันว่า พนักงานร้านไม่ทำแบบนั้นแน่นอน เพราะทางร้านมีการอบรมตลอด ทั้งการพูดจา การตรวจบัตร ที่สำคัญการ์ดของร้านต้องห้ามทำร้ายลูกค้าเด็ดขาด


ในส่วนของสมรักษ์ คำสิงห์นั้น รู้จักกันจริงในฐานะเพื่อน และมีความสนิทสนมกัน  แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางร้านในเรื่องการบริหาร  ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนแต่อย่างใด  ร้านไม่มีหุ้นส่วนชื่อสมรักษ์ คำสิงห์ แต่ด้วยความที่สนิทสนมกันเป็นเพื่อนกันมานาน สมรักษ์ก็มักจะมาเที่ยวที่นี่เป็นประจำ  


ส่วนพฤติกรรมภายในร้านวันนั้นก็ปกติ  และในช่วงที่มีการสังสรรค์ดื่มกินกันนั้นก็เป็นปกติของนักท่องเที่ยว  มีคนมาขอถ่ายรูป ทักทาย พูดคุยกับสมรักษ์ รวมทั้งหญิงสาวคนดังกล่าวด้วย และยืนยันว่าขณะอยู่ในร้าน ไม่มีการลวนลามเกิดขึ้นแน่นอน เพราะทางร้านก็มีการ์ดดูแลอยู่หลายคน  หากมีการลวนลามกันเกิดขึ้นจริง  นักท่องเที่ยวสามารถมาขอความช่วยเหลือได้  แต่เหตุการณ์ในวันดังกล่าวนั้นปกติ


ส่วนประเด็นเปิดร้านเกินเวลา  ทางเจ้าของและหุ้นส่วนร้าน ยืนยันว่า  ร้านทำตามกฏ ปิดตี 2 แต่เมื่อปิดร้านแล้ว ลูกค้าบางคนก็ขออยู่ต่อนิดหน่อยซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พนักงานเก็บโต๊ะ แต่มีการปิดเพลง เปิดไฟ เพื่อตรวจสอบสิ่งของมีค่า รวมถึงตรวจสอบคนที่อาจจะเมาแล้วหลับอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเมื่อสาววัย 17 ให้การว่าออกจากร้านตี 3 เขาอาจจะอยู่ดื่มต่อในขณะที่ทางร้านกำลังเก็บโต๊ะ


ตอนนี้ทางร้านยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับธุรกิจ และกังวลว่าอาจทำให้ร้านถูกปิดบริการ  โดยเตรียมยื่นหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี หลังจากตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ยินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุ ต่ำกว่า 20 ปีบริบูณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ” โดยมีผู้จัดการร้าน มารับทราบข้อกล่าวหา


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ธ.ค.66) เวลา 9.30 น. กัน จอมพลัง จะนำข้อมูลของสถานบันเทิงที่จังหวัดขอนแก่น ไปให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่สถานบันเทิงอ้างว่า  เยาวชนหญิงปลอมแปลงเอกสารเข้าผับ ซึ่งเยาวชนยืนยันว่าไม่มีการปลอมแปลง  เพื่อนที่ไปด้วยก็อายุไม่ถึง และเพื่อนแสดงบัตรจริงให้พนักงานของร้านดู ก็เข้าได้  ซึ่งทางกัน จอมพลัง ยังให้ข้อมูลว่า เมื่อปี 65 ทางร้านเคยถูกดำเนินคดี ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีสาวเต้นโชว์เปิดอกด้วย

-------------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ธ.ค.66) เวลา 9.30 น. กัน จอมพลัง จะนำข้อมูลของสถานบันเทิงที่จังหวัดขอนแก่น ไปให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่สถานบันเทิงอ้างว่า  เยาวชนหญิงปลอมแปลงเอกสารเข้าผับ ซึ่งเยาวชนยืนยันว่าไม่มีการปลอมแปลง  เพื่อนที่ไปด้วยก็อายุไม่ถึง และเพื่อนแสดงบัตรจริงให้พนักงานของร้านดู ก็เข้าได้  ซึ่งทางกัน จอมพลัง ยังให้ข้อมูลว่า เมื่อปี 65 ทางร้านเคยถูกดำเนินคดี ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีสาวเต้นโชว์เปิดอกด้วย

-------------

นายปรเมศร์ อัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.66) ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า  ข้อเท็จจริงที่มีการเปิดเผยต่อสื่อมวลชนในขณะนี้ ยืนยันว่า ในส่วนของการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ไม่ว่าผู้เยาว์นั้นจะ ยินยอมหรือไม่ก็ตาม  ผู้กระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000 ถึง 200,000 บาท หากพิสูจน์ได้ว่าตัวเด็กผู้เสียหายไม่มีความยินยอม   // แต่หากตัวเด็กมีความยินยอมไปกับทางผู้กระทำความผิดก็จะเข้าความผิดตามมาตรา 319 ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 4,000 ถึง 20,000 บาท ซึ่งในมาตรา 319 นี้โทษปรับจะมีอัตราโทษปรับที่ถูกกว่ามาตรา 318 เพราะตัวผู้เสียหายยินยอมไปกับผู้ทำความผิด


เพราะจากที่นาย สมรักษ์ ออกมาให้ข้อมูลว่า  เมื่อรู้ว่าฝ่ายหญิงอายุ 17 ปี จึงได้หยุดการกระทำและแยกย้ายกันนอน ประกอบกับภาพถ่ายที่ฝ่ายหญิง นำภาพที่นอนอยู่บนเตียงมาเปิดเผย จึงเชื่อได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ถือว่า "ความผิดสำเร็จที่เรียบร้อย"  ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ต้องมีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปสู่ขั้นตอนการพิจารณาของศาล  ซึ่งโดยปกติในคดีพรากผู้เยาว์ลักษณะนี้  ศาลจะลงโทษความผิดผู้กระทำความผิดตามตัวบทกฎหมายอย่างชัดเจน  แต่ก็มีบางกรณีที่ศาลอาจจะพิจารณาให้การลงโทษ ให้รอไปก่อนหรือเรียกว่าการรอลงอาญา หากผลการเจรจาสองฝ่ายเป็นผล  หากดูจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสื่อตอนนี้ คาดว่าตัวนาย สมรักษ์ หากแสดงความรับผิดชอบในบางเรื่อง ก็จะเป็นเหตุให้ศาลพิจารณาสั่งลงโทษจำคุกเป็นรอลงอาญาได้    


อาจารย์ปรเมศร์ ยังให้ยกตัวอย่างคดีที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ที่จังหวัดพัทยามีความใกล้เคียงกับคดีนี้ ซึ่งศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งลงโทษให้รอลงอาญา แต่อัยการยื่นอุทธรณ์ ทำให้ศาลอุทธรณ์ได้มีการกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นลงโทษจำคุก ไม่รอลงอาญา

-------------

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายสมรักษ์ คำสิงห์  ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี  โดยได้มอบให้นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐตรวจสอบสถานะการเป็นสมาชิกของนายสมรักษ์แล้ว  


จากการตรวจสอบได้รับการยืนยันว่า นายสมรักษ์ คำสิงห์ พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคพลังประชารัฐ  ก่อนเกิดเหตุการณ์ถูกดำเนินคดีจากผู้เสียหายที่เป็นเยาวชน ดังนั้นการกระทำใดๆ ของนายสมรักษ์ ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับทางพรรคพลังประชารัฐ และขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป


ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว ตั้งแต่ช่วงประมาณต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา  


ทั้งนี้ในส่วนการประชุมพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ (12 ธ.ค.66) ตั้งใจที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือ เพื่อพรรคจะได้เป็นสื่อกลางในการรณรงค์ไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นอีก เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นชอบกับเรื่องดังกล่าวอย่างมาก

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ukyUcdE2kHI

คุณอาจสนใจ

Related News