สังคม

ย้อนฟังคลิป ‘หมอกฤตไท’ ผลักดันนโยบายอากาศสะอาด แก้ฝุ่น PM 2.5 ก่อนจากไปด้วยมะเร็งปอด

โดย petchpawee_k

6 ธ.ค. 2566

22 views

แฮชแท็ก #สู้ดิวะ พุ่งติดเทรนด์ อาลัย "หมอกฤตไท" หลังจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด 


จากกรณีที่คุณพ่อของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หมอหนุ่มซึ่งป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ได้โพสต์ภาพหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งเป็นภาพของลูกชาย ในเวลา 10.59 น. พร้อมระบุข้อความว่า "เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย #สู้ดิวะ"  


ทำให้คนในโลกออนไลน์ ต่างเข้าไปแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวเป็นจำนวนมาก ถึงการสูญเสียที่เกิดขึ้น ทั้งยังขอบคุณหมอหนุ่มที่ได้เปิดเพจ และเขียนหนังสือ "สู้ดิวะ" เพื่อให้ความรู้ และให้กำลังใจผู้ป่วย หรือคนที่ท้อแท้ในชีวิต ให้มีแรงในการต่อสู้กับโรคร้าย รวมถึงมีกำลังในการใช้ชีวิตต่อไป


ขณะที่ในทวิตเตอร์ (X) พบว่ามีคนดัง คนที่เคยรู้จักกับคุณหมอ รวมถึงคนอื่นๆ ที่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าว ก็ได้มีการโพสต์ไว้อาลัยคุณหมอเช่นเดียวกัน จนทำแฮชแท็ก #สู้ดิวะ ขึ้นติดเทรนด์ ควบคู่มากับ แฮชแท็ก #หมอกฤตไท และ #PM 2.5


อย่างเช่น นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ทวิตข้อความ ระบุว่า "ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล และขอเป็นหนึ่งคนที่ร่วมส่งแรงใจให้คุณหมอ ออกเดินทางสู่จุดหมายต่อไปอย่างสงบและได้พักผ่อนอย่างสบายนะครับ


ผมติดตามข่าวของคุณหมอ มาตั้งแต่ช่วงแรกๆที่คุณหมอลงเพจ ได้อ่านแนวคิด คำพูดต่างๆ ที่ถึงแม้คุณหมอจะป่วย แต่คุณหมอก็ยังส่งกำลังใจ ส่งแรงใจดีๆ ให้กับคนอื่น .. ขอบคุณนะครับคุณหมอ


นอกจากนั้นคุณหมอก็ยังได้ให้ความเห็นเรื่อง PM  2.5 และคำเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ


“อากาศสะอาดต้องเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” ของคนไทย


ผมขอเป็นส่วนหนึ่งร่วมผลักดันให้ประชาชนทุกคน ต้องได้รับอากาศที่บริสุทธิ์และอย่างเท่าเทียม ปัญหานี้ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น หรือ ลูกหลานของเราอีกในอนาคตข้างหน้า หลับให้สบายนะครับคุณหมอ #สู้ดิวะ"


นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.พรรคก้าวไกล ทวีต ระบุ "ผมจะผลักดัน พรบ.อากาศให้สำเร็จแน่นอนครับ #สู้ดิวะ"


และยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนของ หมอกฤตไท ที่ได้ทวีตภาพคู่กับคุณหมอ พร้อมข้อความ ระบุ "หลับให้สบายนะเพื่อน มึงได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและมีความหมายให้กับโลกใบนี้อย่างมาก ทุกคนภูมิใจและรักมึงเสมอ กฤตไท #สู้ดิวะ"


ส่วนเพื่อนอีกคนของคุณหมอ ได้ทวีตภาพหนังสือ พร้อมข้อความว่า "กุพึ่งหยิบหนังสือมึงติดมาเลยไท พึ่งอ่านได้สองบท กำลังจะลงสตอรี่แท็กมึงเลย ขอให้โชคดีนะ ถ้ามีโอกาสมาเล่นบาสด้วยกันอีก สัญญาว่ารอบหน้ากุจะตั้งใจซ้อมบาสกว่านี้ #สู้ดิวะ"

ขณะที่ผู้ใช้ X (ทวิตเตอร์) รายอื่นๆ ได้แสดงความคิดเห็น รวมถึงเสนอแนวทางในการจัดการ และแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ที่คร่าชีวิตใครหลายๆ รวมถึงคุณหมอที่ไม่เคยกินเหล้า หรือสูบบุหรี่

--------------------------------------------------------------

เพจ 'สภาลมหายใจเชียงใหม่' โพสต์คลิปอาลัย 'หมอกฤตไท' เคยให้สัมภาษณ์ "ประเทศที่กำลังพัฒนา ความสนใจเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ มันอาจจะสำคัญกว่าสุขภาพประชาชน"

วานนี้ (5 ธ.ค.)  เพจเฟซบุ๊ก 'สภาลมหายใจเชียงใหม่' ได้โพสต์คลิปบทสัมภาษณ์ ของหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี พร้อมข้อความระบุ  "อาลัยหมอกฤตไท #ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย


"..ผมเข้าใจว่าเราอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา ความสนใจเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ มันอาจจะสำคัญกว่าสุขภาพประชาชน.."

บทสัมภาษณ์ช่วงหนึ่ง ในสารคดี ศิลปะแห่งการแก้ไขมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐ (ART FOR AIR)"


โดยในคลิปหมอกฤตไท เผยว่า ตนเป็นคนกรุงเทพ แต่สอบติดในมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ จึงได้ขึ้นมาเรียนที่นี่ ในส่วนตัวของตนที่เป็นคนเชียงใหม่มา 10 ปี ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นควันค่อนข้างเยอะกว่าค่ามาตรฐาน / ในส่วนของอาการของตน ได้มีการส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ และพบว่ามีพันธุกรรมที่กลายพันธุ์ แต่หลักการเรื่องกลายพันธุ์ของมะเร็ง สรุปคร่าวๆ คือ คุณมีเซลล์ หรือยีนที่ผิดปกติ และถูกประตุ้นด้วยปัจจัยอื่นๆ ซึ่งหากมองในมุมของมะเร็งปอดปัจจัยที่กระตุ้นได้ คือ การสูบบุหรี่ และเรื่องของฝุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจน


หมอกฤตไท ยังบอกอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นประชากรคนนึงที่พยายามศึกษาหาความรู้เรื่องพวกนี้ และอยากเห็นว่ากำลังแอคชั่นในเรื่องการแก้ไขสิ่งนี้ ซึ่งทุกปีมันจะกลายเป็นปัญหาเร่งด่วน เราไม่พูดถึงเรื่องการแก้ปัญหาระยะยาว หรือยั่งยืน แต่เรามองว่ามันเป็นวาระเร่งด่วนในทุกๆ ปี ซึ่งมันตลก ตนมองว่าการที่เราจะจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ อย่างแรก เราต้องให้ความสำคัญกับมันก่อน และให้ผู้มีประสบการณ์เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ตนยังไม่เห็นองค์กรไหนที่จริงจังกับเรื่องนี้ หรือเรายังไม่รู้ต้นตอปัญหาของเรื่องนี้ด้วยซ้ำ


"ผมเข้าในว่าเราอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา ความสนใจเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ มันอาจจะสำคัญกว่าสุขภาพประชาชน" หมอกฤตไทกล่าว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/O9dsirwjUwg


คุณอาจสนใจ