สังคม

สุดทน! กลิ่นขี้วัวเหม็น ร้องเรียนเพื่อนบ้าน กลับไล่ให้ไปอยู่ป่า

โดย gamonthip_s

24 พ.ย. 2566

1.9K views

ผู้ใช้ติ๊กต๊อกสาวรายหนึ่งโพสต์คลิป ระบุว่า ข้างบ้าน สร้างคอกเลี้ยงวัวถึง 2 ตัวและสร้างติดรั้วบ้านของเธอเลย เวลาฝนตก ลมแรงก็ส่งกลิ่นเหม็นโชยคละคลุ้งทุกวัน และจุดที่เพื่อนบ้านสร้างคอกเลี้ยงวัวก็อยู่ติดกับห้องนอนแม่ของเธอด้วย เจ้าตัวบอกเคยไปพูดคุยทักท้วงเพื่อนบ้านแล้ว แต่ก็ไม่ปรับปรุง แถมขึ้นป้ายประกาศ ไล่ให้ขายบ้าน และให้ย้ายไปอยู่ป่า



ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวในตำบลลุมพลี อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยบ้านของผู้โพสต์จะเห็นเด่นชัดกว่าหลังอื่นๆ เพราะเป็นบ้านปูนสองชั้น สีขาว สร้างใหม่ ดีไซน์หรูทันสมัย สไตล์โมเดิล ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินว่างเปล่าของบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่มีพื้นที่กว้างประมาณ 10 เมตร ลึก 50 เมตร



ถูกสร้างทำเป็นคอกเลี้ยงวัวเอาไว้ 2 ตัว และไก่ประมาณ 3-4 ตัว เรียกได้ว่า คอกวัวอยู่ติดชิดกำแพงเดียวกันกับบ้านหรู 9 ล้านเลยก็ว่าได้ โดยทีมข่าวสังเกตุเห็นว่า ที่พื้นในคอกวัวมีมูลสัตว์กองอยู่และส่งกลิ่นเหม็นออกมาเป็นระยะช่วงที่มีลมผ่าน ส่วนบ้านเจ้าของวัวก็อยู่ถัดออกมาอีก 1 หลังอยู่ติดกับคอกวัวเหมือนกันเป็นบ้านลักษณะชั้นเดียวปิดทึบกึ่งปูนกึ่งไม้



ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวขวัญชนก อายุ 30 ปี เจ้าของบ้านหรู 9 ล้านบาท บอกว่า ตนเองกับแม่และน้องชาย มองหาทำเลสร้างบ้าน ซึ่งเจอที่ดินแปลงดังกล่าว เดิมเป็นที่ป่ารกร้าง มีเพียงบ้านของเจ้าของคอกวัว 1 หลัง ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีการสร้างคอกเลี้ยงวัว



ตนเองจึงตัดสินใจซื้อและสร้างบ้าน ซึ่งช่วงที่สร้างบ้านก็มีปัญหาเรื่องหมุดที่ดินกับเพื่อนบ้านต้องให้เจ้าหน้าที่มาแบ่งเขตรังวัดใหม่ จนบ้านสร้างเสร็จเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2565 และได้ย้ายเข้ามาอยู่ต้นปีนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนและครอบครัวอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แม้จะไม่เคยเจอหรือพูดคุยกับเพื่อนบ้านหลังนี้อีกตั้งแต่ตอนสร้างบ้าน แต่ก็อยู่กันปกติสุขดี



จนกระทั่งเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ เพื่อนบ้านหลังดังกล่าวได้ทำการสร้างคอกเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์และเสียงร้องของวัวก็รขกวน เพราะอยู่ติดกับห้องนอนแม่ ยิ่งช่วงที่ฝนตกนั้นจะทำให้ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากบ้านตนเองอยู่ทิศเหนือลม และจุดที่เขาสร้างคอกเลี้ยงวัวอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านของทั้งสองหลัง ทำให้ลมตีย้อนเข้ามาภายในบ้านของตนเอง กลิ่นติดตามเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ



ตนเองก็พยายามปิดกระจกเอาไว้เพื่อไม่ให้กลิ่นเข้ามาภายในบ้าน แต่เวลาที่ตนเองออกมาเดินเล่นรอบบ้านหรือนั่งรับประทานอาหารด้านนอกบ้าน ก็จะได้กลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ แทบจะทานอาหารไม่ได้ อยู่แทบไม่ไหว ถึงแม้ว่าเขาจะสร้างบ้านมาก่อนก็จริง แต่คอกวัวนี้เพิ่งจะสร้างได้ไม่เกิน 2 เดือน คอกวัว สร้างมาหลังจากที่ตนเองเข้าอยู่ได้เป็นปี



ตนเองเคยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.ลุมพลี ให้เข้าไปคุยกับบ้านหลังดังกล่าว ไม่นานเจ้าของวัวก็ขึ้นป้ายเขียนเลยว่า "อยู่ไม่ได้ ก็ขายไป!!! ต้องอยู่ป่าธรรมชาติสุด"



ที่ผ่านมาตนเอง และครอบครัวไม่อยากไปพูดคุยกับเขาโดยตรง กลัวจะเกิดความวุ่นวาย จึงให้หน่วยงานเข้ามาไกล่เกลี่ยจัดการปัญหา แต่กลายเป็นว่าถูกขึ้นป้ายไล่แบบนี้และเจ้าของวัวก็เพิกเฉยไม่แก้ปัญหา หนำซ้ำยังมีการโพสต์ท้าตี ท้าต่อยกับน้องชายตนอีกด้วย ซึ่งน้องชายตนได้ทักเฟซบุ๊คไปหาหลานชายฝั่งบ้านเลี้ยงวัว ว่าให้ช่วยย้ายวัวไปที่อื่นได้ไหม ทางหลานชายบ้านเลี้ยงวัวก็ใช้คำพูดไม่ดีในลักษณะท้าทายและยังมีการโพสต์สตอรี่เฟซบุ๊ค เป็นภาพถ่ายกับปืน 4 กระบอก ตนเองจึงยิ่งกังวลมาก กลัวเรื่องความปลอดภัยเพราะที่บ้านนอกจากมีแม่แก่แล้ว ยังมีเด็กเล็กอีกสองคน




ซึ่งตนเองกำลังรวบรวมหลักฐานไปแจ้งความ เพิ่มเติมในเรื่องของ ”ทำให้เดือดร้อนรำคาญ พรบ.ความสะอาด และเรื่องที่มีการท้าทายข่มขู่ ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือ อยากอยู่บ้านแบบปกติสุข ไม่ได้อยากมาทนรับกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นขี้วัว กลิ่นขี้ไก่ ที่เหม็นมาก และตนเองสร้างบ้านมาราคากว่า 9 ล้านบาท ตนเองไม่ย้ายหนีไปไหน เพราะที่ตรงนี้ก็เป็นที่ดินของตนเอง หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง



ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เลี้ยงวัว พบกับ บังนิง เจ้าของบ้านที่กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดคอกวัวอยู่ โดยบังนิงบอกว่า ตนเองมาซื้อที่ปลูกบ้านอยู่ก่อนผู้ร้อง 10 ปี ตอนแรกยังไม่ได้เลี้ยงวัว เพราะตนเองมีรายได้จากห้องเช่า 6 ห้อง ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศขายพร้อมกับบ้านที่ตนเองอยู่อาศัย



ส่วนวัวตนเองเพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง 2 เดือน ตื่นเช้ามาทำความสะอาดตักขี้วัว ล้างคอกวัวทุกวัน เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน พร้อมถามกลับทางผู้ร้องว่า ต้องให้ตนเองทำอะไรอีก ซึ่งวัวทั้ง 2 ตัว เป็นวัวแม่พันธุ์ ตัวสีขาวกำลังตั้งท้อง ส่วนตัวสีน้ำตาล เป็นวัวเด็กสาว เลี้ยงเพื่อขายเป็นแม่พันธุ์ ไม่ได้เลี้ยงไว้ฆ่าเอาเนื้อด้วย ตอนนี้เพื่อตัดปัญหาบังลิงบอกว่าประกาศขายวัวทั้ง 2 ตัวพร้อมลูกในท้อง 49,000 บาท ใครพร้อมมายกไปเลย จะได้จบปัญหา



บังนิง บอกกับคุณนฤชา อีกว่า ลองขับรถไปสำรวจตามหมู่บ้าน ในชุมชนนี้บ้านหลายหลังก็เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่เป็นอาชีพเพราะเป็นวิถีชีวิตของชุมชน และ ยังมีฟาร์มวัวฟาร์มใหญ่ เลี้ยงวัวกว่าครึ่งร้อย ทำไมไม่ร้องเรียน ตนเองเชื่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากที่ตนเองเลี้ยงวัว 2 ตัวแต่เริ่มมาจากที่บ้านผู้ร้องสร้างบ้านและมีการขยับย้ายหมุดแบ่งเขตที่ดิน ซึ่งตอนนั้นก็เคยมีปากเสียงทะเลาะกัน และไม่พูดคุยกันอีกเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



ส่วนเรื่องที่หลานตนเองโพสต์รูปปืน เป็นรูปเก่าสมัยที่อยู่ภาคใต้ เป็นปืนของคนอื่นที่หลานไปถ่ายรูปด้วยเฉยๆ เรื่องของหลานที่โพสต์ท้าทายท้าตีท้าต่อยกันกับลูกชายบ้านของผู้ร้องตนเองไม่ทราบ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองให้หลานชายมาคอยเฝ้าคอยเลี้ยงวัวให้

คุณอาจสนใจ