สังคม

คนนครพนมถูกฮามาสจับ 3 ราย - เมียเล่าสามีถูกกลุ่มติดอาวุธบุกจับ โดนยิงเสียชีวิตที่อิสราเอล

โดย passamon_a

9 ต.ค. 2566

3.5K views

คนนครพนม ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน 3 ราย - เมียเล่านาทีสามีหนีเข้าห้องหลบภัยไม่ทัน ถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวได้ ก่อนรัวยิงเสียชีวิตที่อิสราเอล  


เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า มีชาวนครพนมที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล และถูกจับตัวไป 3 คน อยู่ที่ อ.ปลาปาก 1 ราย และที่ อ.โพนสวรรค์ 2 ราย โดยขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานติดต่อกับประเทศอิสราเอล เพื่อจะให้ความช่วยเหลือกับแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไป  


ส่วนความช่วยเหลือของ จ.นครพนม ได้มอบหมายให้นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ ลงพื้นที่ไปพบปะกับญาติของแรงงานผู้ประสบภัยแล้ว เพื่อให้กำลังใจและชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ พร้อมตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับญาติของแรงงาน รวมถึงช่องทางการติดต่อระหว่างจังหวัดกับสถานทูตไทยด้วย


นายนพพร มานะ จัดหางานจังหวัดนครพนม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า รมว.กระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ดูแลและให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันทั้งหมด 11 คน ในจำนวนนี้มีชาวนครพนมถูกจับเป็นตัวประกัน 3 ราย ซึ่งตนลงพื้นที่ไปพบปะกับญาติของผู้ที่ถูกจับตัวไปแล้ว ประกอบด้วย

1. นายปริญญา แต้มกลาง ชาวบ้านหนองกุ่ม หมู่ 8 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ ไปทำงานที่อิสราเอล เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2564

2. นายพัฒนายุทธ ต้อนโสกรี ชาวบ้านนาล้อม หมู่ 2 ต.หนองหัวบ่อ  อ.โพนสวรรค์ ไปทำงานที่อิสราเอล เมื่อปี 2562

3. นายนัฐพร อ่อนแก้ว ชาวบ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก ไปทำงานที่อิสราเอล เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564


ส่วนแรงงานไทย รายที่ 4 นายชาตรี ชาศรี ซึ่งถูกยิงที่ขา เป็นชาวบ้านนาขาม หมู่ 2 ต.นางาม อ.เรณูนคร ไปทำงานที่อิสราเอล เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2562 โดยรายนี้มีทหารเข้าไปช่วยเหลือและล่าสุดปลอดภัยแล้ว


นายนพพร เปิดเผยว่า จากฐานข้อมูล มีชาวนครพนมไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล รวมทั้งหมด 2,136 ราย แบ่งเป็นชาย 2,088 ราย หญิง 48 ราย แต่ไม่ได้แยกว่าอยู่เมืองไหนบ้าง ซึ่งได้รายงานความคืบหน้าให้ครอบครัวผู้ถูกจับเป็นตัวประกันทราบถึงสิทธิประโยชน์ รวมถึงได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวและญาติพี่น้องของแรงงานที่ประสบเหตุแล้ว


สำหรับสิทธิประโยชน์ ทางกระทรวงแรงงานมีกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปต่างประเทศ ในด้านการสงเคราะห์ 8 กรณี หากเสียชีวิตจะได้เงินช่วยเหลือ 40,000 บาท, กรณีประสบภัยสงครามแล้วเดินทางกลับได้ 15,000 บาท ซึ่งขณะนี้แรงงานจำนวนกว่า 2,000 กว่าคนที่อยู่ในอิสราเอล ยังไม่สามารถติดต่อได้แม้แต่รายเดียว และหากสามารถติดต่อแรงงานเหล่านี้ได้ก็จะแจ้งให้ทางญาติ ได้ทราบข่าวทันที


หลังจากนายกรัฐมนตรี รายงานยืนยันว่า มีแรงงานไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ซึ่งมีการรายงานในเวลาต่อมาว่า ผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต คือ นายสมควร พันสะอาด หรือ เคน เป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่มีภรรยาเป็นชาวนครพนม ถูกยิงขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อเย็น กับเพื่อนร่วมงาน และถูกกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตี แต่หนีหลบภัยไม่ทัน จนถูกยิงเสียชีวิต  


นางสาวรุ่งทิวา อายุ 31 ปี ชาวบ้านดงยอ ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ภรรยาของนายสมควร เปิดเผยว่า ตนได้อยู่กินกับสามีมากว่า 4 ปี ต่อมาด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ครอบครัวมีหนี้สิน สามีจึงตัดสินใจเดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอล โดยตนได้กู้เงิน ธ.ก.ส.จำนวน 120,000 บาท เพื่อให้สามีใช้วิ่งเต้นเดินเรื่องไปขายแรงงานยังประเทศอิสราเอล ทำงานเป็นคนงานเก็บผลผลิตในสวนกล้วย สมัครผ่านกรมแรงงานอย่างถูกต้อง และได้เดินทางประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2565


ซึ่งก่อนจะถูกยิงเสียชีวิตแค่ 1 ชั่วโมง สามีรู้ว่าเกิดการสู้รบกัน จึงได้วิดีโอคอลมาคุยกับตนตั้งแต่เช้า สามียังได้เล่าให้ฟังว่า มีการสู้รบกันเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นสามีก็ยังไม่มีท่าทีร้อนรนแต่อย่างใด ยังคงใช้ชีวิตปกติ และก่อนจะวางสายสามีบ่นว่าเหนื่อยอยากนอนพักผ่อน ตนเองจึงให้สามีไปนอนพักผ่อน


น.ส.รุ่งทิวา น้ำตาคลอเบ้าเล่าว่า หลังจากที่สามีนอนหลับไป ตนเองเห็นข่าว จึงได้ส่งแชทไปบอกสามี ให้ดูแลตนเองและอย่าออกไปไหน สักพักมีเพื่อนของสามีทักแชท Facebook มาหา แจ้งข่าวร้ายว่าสามีถูกกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามายิง ขณะเกิดเหตุ ช่วง 5 โมงเย็นกว่า ๆ สามีและเพื่อนร่วมงานกำลังอยู่ระหว่างรับประทานอาหารเย็นและพักผ่อนอยู่ด้วยกันราว ๆ 30 คน ถูกกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามาในบริเวณแคมป์ที่พัก และได้จับตัวนายเคนลากออกไปกับพื้น จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของนายเคนได้เพียงคำเดียว ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น


โดยที่กลุ่มเพื่อน ๆ ที่ร่วมวงรับประทานอาหารด้วยกัน ต่างก็พยายามหนีเอาชีวิตรอดออกจากบริเวณดังกล่าวไปยังห้องหลบภัยเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนออกมาได้ เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายจึงได้ทราบว่า นายเคนถูกยิงเสียชีวิตจากกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวแล้ว


จนช่วงเที่ยงคืนวันที่ 7 ต.ค.66 เพื่อนคนงานในแคมป์ก็วิดีโอคอลมาบอกตนว่า สามีตนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ทำตนถึงกับช็อก รู้สึกเสียใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย


น.ส.รุ่งทิวา เล่าน้ำคลอเบ้าว่า ก่อนหน้านี้ที่จะเกิดเหตุ สามีมักบ่นว่าลำบากและเหนื่อย แต่เวลาวิดีโอคอลคุยกัน สามีจะไม่ค่อยให้เห็นสภาพความเป็นอยู่มากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการบ่นให้ฟังมากกว่า ว่าเหนื่อย นอกจากนี้สามีได้สัญญากับตนเองว่า จะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล 5 ปี และจะพยายามเก็บเงินกลับมาอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดนครพนม โดยไปสร้างอาชีพค้าขาย แต่สุดท้ายก็มาถูกยิงตาย


นอกจากนี้ นางสาวรุ่งทิวา ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่รู้ว่าจะติดต่อขอรับศพสามีได้อย่างไร คงต้องรอทางการไทยเป็นผู้ประสานมา และจะนำศพของสามีกลับมาจัดพิธีตามประเพณีที่บ้านเกิดจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือที่จังหวัดนครนพม ต้องรอปรึกษาญาติก่อน


สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือเยียวยา นางสาวรุ่งทิวา แจ้งว่าขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม เดินทางมาปลอบขวัญและให้กำลังใจ พร้อมทั้งแจ้งถึงสิทธิประโยชน์จากการสูญเสียสามี จากนี้ตนก็จะรอฟังความคืบหน้าถึงการนำร่างสามีกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี คาดว่าจะนำร่างไปฌาปกิจยังบ้านเกิดของสามีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/PHDYAtIh-n4

คุณอาจสนใจ

Related News