ชัชชาติ รอรัฐบาลเคาะราคาบีทีเอสและแผนชำระหนี้ จ่อเสนอกระตุ้นเศรษฐกิจ-ดึงนักลงทุน

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพฯ ร่วมหารือกับผู้บริหารเขตบางคอแหลม ในกิจกรรมผู้ว่าสัญจร ปี 2 สำหรับพื้นที่เจตบางคอแหลมยังพบปัญหาทางเท้าของสายหลัก อย่าง ถนนเจริญกรุง ถนนเจริญราษ และ ถนนพระราม 3 พบใช้ทางเท้า ตั้งแผงหาบเร่ค้าขาย จึงกำชับจัดระเบียบให้เหมาะสม มีบางจุดที่ผ่อนผันให้ทำการค้าได้

ปัญหาต่อมา คือ การจัดเก็บขยะ เนื่องจากในเขตมีชุมชนย่อย ซอยขนาดเล็กจำนวนมาก รถเก็บขยะไม่สามารถเข้าได้ เช่น ซอย เจริญกรุง 91 เนื่องจากมีข้อร้องเรียนเรื่องการจัดเก็บขยะที่ล่าช้า จึงปรับให้ครัวเรือนนำขยะมารวมยังจุดทิ้งในชุมชน และจัดพนักงานใช้ระบบชักลากขยะจากจุดทิ้งเก็บขึ้นรถ ซึ่งนัดเก็บ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อลดปัญหา ขยะหมักหมม

ประเด็นไฟฟ้าสองสว่าง ได้สั่งการเพิ่มไฟส่องสว่างพื้นที่ริมคลอง 11 แห่ง 300 ดวง

ขณะที่ปัญหาสภาพการจราจร ยังพบรถติดที่ ถนนเจริญกรุง ซึ่งการแก้ไขจะขอประสาน พูดคุยปัญหากับรัฐบาลใหม่ โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกี่ยวโยงกับหลายหน่วยงาน

นอกจากนั้น นายชัชชาติ กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งตามกำหนดจะครบรอบปีงบประมาณในสิ้นเดือนกันยายน ในขณะนี้มีการจัดเก็บรายได้ร้อยละ 115 ซึ่งสูงกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าหลังจากนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน จะสามารถจัดเก็บรายได้รวม 9.6 หมื่นล้าน

กรณีการเรียกเก็บภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีการชำระมาแล้ว ประมาณ 1.2 หมื่นล้าน มีการยื่นขอผ่อนชำระ 11,200 ราย และยังไม่มีการชำระอีก 3.4 แสนราย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้กรุงเทพมหานครจะส่งหนังสือแจ้งเตือน พร้อมเบี้ยค่าปรับ อยู่ที่ร้อยละ 11 หากยังเพิกเฉยหรือไม่ติดต่อชำระ จะมีการเรียกค่าปรับเพิ่มร้อยละ 21

ส่วนกรณีข้อประกาศของกรุงเทพมหานคร ที่อนุญาตให้พนักงานลูกจ้าง สามารถแต่งกายด้วยชุดลำลองมาทำงานได้ นายชัชชาต กล่าวว่า เรื่องการแต่งกาย ตนมองว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อน ตนว่าใส่แขนสั้นน่าจะเหมาะสม จึงปรับอนุญาติให้ข้าราชการ ลูกจ้างของ กทม. สามารถสวมเสื้อแขนสั้น เสื้อโปโล มาทำงานได้ ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อเชิ้ต สวมสูทผูกเน็คไท ทั้งนี้ก็ให้พิจารณาตามความเหมาะสม หากมีวาระการประชุม หรืองานอื่น ๆ ที่กำหนดรูปแบบการแต่งกาย ก็ให้ปฎิบัติตามข้อกำหนดนั้น ๆ

เมื่อถามถึงข้อหารือเร่งด่วนของกรุงเทพมหานคร ที่จะยื่นเสนอกับรัฐบาลชุดใหม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาหลักของกรุงเทพมหานคร คือ เรื่องการจราจร เป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบ จึงอยากจะร่วมพูดคุย กลับคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดูแล รวมไปถึงเรื่องการเดินทางระบบราง ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่รอให้รัฐบาลมีการพิจารณา และเคาะราคา เรื่องภาระหนี้สินคงค้าง และการลงทุนใหม่รถไฟฟ้าสายสีเทา

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันภาคธุรกิจ มีการปรับเปลี่ยนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เน้นชูภาคการลงทุนด้านบริการ การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นการพัฒนาเมืองระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ชี้ให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาร่วมลงทุนใน กรงุเทพฯ จึงเป็นอีกประเด็นที่อนาคตจะได้หาหรือพูดคุยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ กับรัฐบาลชุดใหม่